The Johnsonville sausage company be

The Johnsonville sausage company began as a rural market in Johnsonville, Wisconsin. In 1945, The Stayer Family purchased a shop with a slaughter house, and within one year several other retail stores. Upon graduating form college in 1965, the Stayer's son, Ralph, begun to work in the company, and after careful analysis, Ralph and his father decided to focus his efforts in building the wholesale aspect of the business. Over the years, the company enjoyed substantial growth. In 1978, the Johnsonville Sausage Co. opened a new production facility and Ralph Stayer was officially named president. Under his direction, the company expanded to capture a greater share of the wholesale business. As time went on, Johnsonville Sausage Co. began serving the states of Indiana, Illinois and Minnesota while the company's market position in Wisconsin strengthen. R. Stayer managed to build the company's wholesale business from $4 million in sales in 1975, to $ 50 million in 1985; and between 1980 and 1985, the return on equity climbed from 18% to 27%. Between 1983 and 1986, sales revenue per dollar of compensation doubled. The company's profits were well above average for the industry. The company was in great standing.

The secret to the company's outstanding performance over the period from 1980 to 1985 was the result of a 360o turn around in its management philosophy. During the years leading up to 1980, R. Stayer had practiced a management style that did not allow individuals to make decisions and assume ownership of their work. R. Stayer had held centralized control over all aspects of the business - from scheduling and quality control to hiring, budgeting, pricing, purchasing, and advertising. During the early 1980s, Ralph observed that a low level of commitment, involvement and motivation had become widespread attitudes among the workers in the plant, and at the same time, he begun to look for the causes to the problems. Ralph real...

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริษัทไส้กรอก Johnsonville เริ่มเป็นตลาดชนบทใน Johnsonville วิสคอนซิน ในปีค.ศ. 1945 ครอบครัว Stayer ที่ซื้อร้านกับบ้านฆ่า ภายในหนึ่งปี หลายอื่นขายปลีก และร้านค้า เมื่อจบฟอร์มวิทยาลัยในปี 1965 บุตรชายของ Stayer, Ralph เริ่มทำงาน ในบริษัท และ วิเคราะห์อย่างระมัดระวัง ราล์ฟและพ่อของเขาตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นความพยายามของเขาในการสร้างธุรกิจด้านการขายส่ง ปี บริษัทเข้าพบการเจริญเติบโต ในปี 1978 บริษัทไส้กรอก Johnsonville เปิดเป็นสถานที่ผลิตใหม่ และ Ralph Stayer ทางชื่อว่าประธาน ภายใต้ทิศทางของเขา บริษัทขยายการจับภาพใช้ร่วมกันมากขึ้นของธุรกิจขายส่ง เป็นเวลาไปบน Johnsonville ไส้กรอก บริษัทเริ่มให้บริการรัฐอินดีแอนา รัฐอิลลินอยส์ และรัฐมินนิโซตาในขณะที่การเสริมสร้างตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทในวิสคอนซิน R. stayer จัดการเพื่อสร้างธุรกิจของบริษัทขายส่งจาก $4 ล้านขายใน 1975 ไป $ 50 ล้านในปี 1985 และระหว่างปี 1980 และปี 1985 ผลตอบแทนจากหุ้นปีนขึ้นจาก 18% เป็น 27% 1983 และ 1986 รายได้จากการขายต่อดอลลาร์ค่าตอบแทนสองเท่า ผลกำไรของบริษัทได้ดีเหนือค่าเฉลี่ยสำหรับอุตสาหกรรม บริษัทในยืนมากขึ้นThe secret to the company's outstanding performance over the period from 1980 to 1985 was the result of a 360o turn around in its management philosophy. During the years leading up to 1980, R. Stayer had practiced a management style that did not allow individuals to make decisions and assume ownership of their work. R. Stayer had held centralized control over all aspects of the business - from scheduling and quality control to hiring, budgeting, pricing, purchasing, and advertising. During the early 1980s, Ralph observed that a low level of commitment, involvement and motivation had become widespread attitudes among the workers in the plant, and at the same time, he begun to look for the causes to the problems. Ralph real...

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริษัท จอห์นสันไส้กรอกเริ่มเป็นตลาดชนบทในจอห์นสัน, วิสคอนซิน ในปี 1945 ครอบครัว Stayer ซื้อร้านที่มีโรงฆ่าสัตว์และภายในหนึ่งปีหลายร้านค้าปลีกอื่น ๆ เมื่อจบการศึกษาวิทยาลัยในปี 1965 บุตรชายของ Stayer ราล์ฟเริ่มที่จะทำงานใน บริษัท และหลังจากการวิเคราะห์ระมัดระวังราล์ฟและพ่อของเขาตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นความพยายามของเขาในการสร้างมุมมองของธุรกิจค้าส่ง กว่าปีที่ บริษัท มีความสุขกับการเจริญเติบโตมาก ในปี 1978 จอห์นสันไส้กรอก จำกัด เปิดโรงงานผลิตใหม่และราล์ฟ Stayer เป็นประธานาธิบดีชื่ออย่างเป็นทางการ ภายใต้การดูแลของเขาที่ บริษัท ขยายไปจับหุ้นใหญ่ของธุรกิจค้าส่ง เมื่อเวลาผ่านไป, จอห์นสันไส้กรอก จำกัด เริ่มให้บริการรัฐอินดีแอนารัฐอิลลินอยส์และมินนิโซตาในขณะที่ตำแหน่งทางการตลาดของ บริษัท ในวิสคอนซินเสริมสร้าง อาร์ Stayer การจัดการเพื่อสร้างธุรกิจขายส่งของ บริษัท จาก $ 4,000,000 ในการขายในปี 1975 ถึง $ 50 ล้านบาทในปี 1985; และระหว่างปี 1980 และปี 1985 ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 27% ระหว่างปี 1983 และปี 1986 รายได้จากการขายต่อดอลลาร์เป็นสองเท่าของค่าตอบแทน ผลกำไรของ บริษัท ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม บริษัท อยู่ในสถานะที่ดี. ลับเพื่อประสิทธิภาพที่โดดเด่นของ บริษัท ฯ ในช่วงปี 1980 จากปี 1985 ที่จะเป็นผลมาจากการเปิดรอบ 360o ในปรัชญาการบริหารจัดการ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานำมาสู่ปี 1980 อาร์ Stayer ได้ฝึกรูปแบบการจัดการที่ไม่อนุญาตให้บุคคลในการตัดสินใจและถือว่าเป็นเจ้าของของการทำงานของพวกเขา อาร์ Stayer ได้จัดการควบคุมจากส่วนกลางทุกแง่มุมของธุรกิจ - จากการจัดตารางเวลาและการควบคุมคุณภาพกับการจ้างงาน, การจัดทำงบประมาณการกำหนดราคาการจัดซื้อและการโฆษณา ในช่วงต้นทศวรรษ 1980, ราล์ฟตั้งข้อสังเกตว่าในระดับต่ำของความมุ่งมั่นการมีส่วนร่วมและได้กลายเป็นแรงจูงใจทัศนคติที่แพร่หลายในหมู่คนงานในโรงงานและในเวลาเดียวกันเขาเริ่มที่จะมองหาสาเหตุในการแก้ไขปัญหา ราล์ฟจริง ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริษัทไส้กรอก Johnsonville เริ่มเป็นตลาดชนบทใน Johnsonville วิสคอนซิน ในปี 1945 ครอบครัวตีนปลายซื้อร้านกับโรงฆ่าสัตว์ และภายในหนึ่งปีร้านค้าปลีกหลายอื่น ๆ เมื่อจบการศึกษาวิทยาลัยรูปแบบในปี 1965 ของตีนปลายลูก ราล์ฟ เริ่มทำงานในบริษัท และหลังจากการวิเคราะห์ระมัดระวังราล์ฟ และพ่อของเขาตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นความพยายามของเขาในการสร้างลักษณะขายส่ง ของธุรกิจ กว่าปีที่ บริษัท เพลิดเพลินกับการเจริญเติบโตอย่างมาก ในปี 1978 , Johnsonville ไส้กรอก จำกัด เปิดโรงงานผลิตใหม่ และราล์ฟ ตีนปลายคือชื่ออย่างเป็นทางการ ประธาน ภายใต้ทิศทางของเขา บริษัทขยายไปจับหุ้นที่มากขึ้นของธุรกิจขายส่ง เมื่อเวลาผ่านไปบริษัทเริ่มให้บริการ Johnsonville ไส้กรอกรัฐ Indiana , Illinois และมินนิโซตาในขณะที่ของ บริษัท การตลาดในวิสคอนซินเสริมสร้าง อาร์ ตีนปลายได้สร้างขายส่งธุรกิจของ บริษัท จาก 4 ล้านเหรียญในการขายในปี 1975 $ 50 ล้านปี และระหว่างปี 1980 และปี 1985 , อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นปีนจาก 18% ถึง 27 % และระหว่างปี 1986รายได้จากการขายต่อดอลลาร์จากการชดเชยเป็นสองเท่า ผลกำไรของบริษัทได้ดีกว่ามาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม บริษัทอยู่ในยืน

ความลับของ บริษัท โดดเด่นในช่วงเวลาจากปี 1980 ถึงปี 1985 เป็นผลของ 360 หันไปรอบ ๆในปรัชญาการจัดการของ ในระหว่างปีใน 1980 .ตีนปลายต้องฝึกเป็นรูปแบบการบริหารที่ไม่อนุญาตให้บุคคลในการตัดสินใจ และถือว่าเป็นเจ้าของของงาน อาร์ ตีนปลายได้จัดศูนย์ควบคุมทุกด้านของธุรกิจ -- จากการวางแผนและการควบคุมคุณภาพ เช่า โฆษณา งบประมาณ ราคา ซื้อ และ ในต้นทศวรรษ 1980 , ราล์ฟ พบว่าระดับของความมุ่งมั่นการมีส่วนร่วมและแรงจูงใจ เป็นทัศนคติที่แพร่หลายในหมู่คนงานในโรงงาน และใน เวลาเดียวกัน เขาเริ่มค้นหาสาเหตุของปัญหา ราล์ฟ จริง . . . . . . .