Everyone has the different lifestyl

Everyone has the different lifestyle. City lifestyle and country lifestyle are two different types of livings. These have many differences in the environment, job opportunity, and cost of living. The difference of these can make people think that the country lifestyle is better than the city lifestyle.

The environment in the countryside and the city is very different. There are less pollution, fewer cars, and fewer factories in the countryside. Moreover, there are many trees while there are many buildings in the city. These entire make the environment is better and more natural. In the city filled with cares and factories which are the important causes of noise and environmental pollution.

There are more the job opportunities in the city. The job market in the countryside is smaller than in the city. People in the countryside have their farms and stores that they can make a living. However, most people move in the city to find a job because it’s easier. People in the city are owner of a big company or work mostly in the companies. So the city life has more job opportunities but some people like living in countryside.

The cost of living in the city is higher than the countryside. The goods are more expensive. In the country, most people have the sufficient economy. They can plant and breed animals so they have the cost of living that is lower and the goods are cheaper. The country life is simple and comfortable.

These reasons above shown very clearly. The country lifestyle is much better, simpler, and more relaxing than the city lifestyle.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทุกคนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน วิถีการดำเนินชีวิตและการใช้ชีวิตเมืองประเทศสองประเภทที่แตกต่างกันของสิ่งมีชีวิต เหล่านี้มีความแตกต่างมากในสภาพแวดล้อมที่โอกาสงานและค่าครองชีพ ความแตกต่างเหล่านี้สามารถทำให้คนคิดว่าการดำเนินชีวิตในประเทศจะดีกว่าการดำเนินชีวิตเมือง. สภาพแวดล้อมในชนบทและเมืองที่แตกต่างกันมาก มีมลพิษน้อยกว่ารถยนต์น้อยลงและโรงงานน้อยในชนบท นอกจากนี้ยังมีต้นไม้จำนวนมากในขณะที่มีอาคารหลายหลังในเมือง เหล่านี้ทำให้ทั้งสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในเมืองที่เต็มไปด้วยความกังวลและโรงงานซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของเสียงและมลพิษทางสิ่งแวดล้อม. มีมากขึ้นโอกาสในการทำงานในเมือง ตลาดงานในชนบทมีขนาดเล็กกว่าในเมือง คนในชนบทมีฟาร์มของพวกเขาและร้านค้าที่พวกเขาสามารถทำมาหากิน แต่คนส่วนใหญ่ย้ายไปในเมืองเพื่อหางานทำเพราะมันเป็นเรื่องง่ายขึ้น คนที่อยู่ในเมืองเป็นเจ้าของ บริษัท ขนาดใหญ่หรือที่ทำงานส่วนใหญ่ใน บริษัท ดังนั้นชีวิตในเมืองที่มีโอกาสในการทำงานมากขึ้น แต่บางคนชอบที่อาศัยอยู่ในชนบท. ค่าใช้จ่ายของการใช้ชีวิตในเมืองที่สูงกว่าในชนบทที่ สินค้าที่มีราคาแพงกว่า ในประเทศที่คนส่วนใหญ่มีเศรษฐกิจพอเพียง พวกเขาสามารถปลูกและขยายพันธุ์สัตว์เพื่อให้พวกเขามีค่าใช้จ่ายของที่อยู่อาศัยที่ลดลงและสินค้าที่มีราคาถูกกว่า ชีวิตชนบทที่เรียบง่ายและสะดวกสบาย. ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ดำเนินชีวิตในประเทศจะดีขึ้นง่ายและผ่อนคลายมากขึ้นกว่าการดำเนินชีวิตเมือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทุกคนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน วิถีชีวิตเมืองและประเทศวิถีชีวิตสองชนิดที่แตกต่างกันของสิ่งมีชีวิต . เหล่านี้มีความแตกต่างกันมากในสิ่งแวดล้อม โอกาสได้งาน และค่าครองชีพ ความแตกต่างเหล่านี้ทำให้คนคิดว่า ประเทศวิถีชีวิตดีกว่าเมืองไลฟ์สไตล์

บรรยากาศในชนบทและเมืองที่แตกต่างกันมาก จะมีมลพิษน้อยกว่าโรงงานรถยนต์น้อยลง และน้อยลงในชนบท นอกจากนี้ มีต้นไม้มากมาย ในขณะที่มีหลายอาคารในเมือง เหล่านี้ทั้งหมดให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในเมืองเต็มไปด้วยสนและโรงงานซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของเสียงและมลพิษสิ่งแวดล้อม

มีอีกโอกาสงานในเมืองงานตลาดในชนบทมากกว่าในเมือง ผู้คนในชนบท มีฟาร์มและร้านค้าที่พวกเขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ไปในเมืองเพื่อหางานทำ เพราะมันง่าย ผู้คนในเมืองเป็นเจ้าของทำงานบริษัทใหญ่หรือส่วนใหญ่ใน บริษัท ที่ ดังนั้นชีวิตในเมืองมีมากกว่าโอกาสงาน แต่บางคนชอบใช้ชีวิตในชนบท

ค่าใช้จ่ายของการใช้ชีวิตในเมืองมากกว่าชนบท สินค้าที่มีราคาแพงมากขึ้น ในประเทศที่คนส่วนใหญ่มีเศรษฐกิจที่พอเพียง พวกเขาสามารถปลูกพืชและพันธุ์สัตว์ จึงมีต้นทุนชีวิตที่ต่ำ และสินค้าราคาถูก ประเทศชีวิตที่เรียบง่ายและสะดวกสบาย

เหตุผลเหล่านี้ข้างต้นแสดงอย่างชัดเจน ประเทศวิถีชีวิตดีขึ้น ง่ายขึ้นและพักผ่อนมากกว่าเมืองชีวิต