This study adapts Sa'dabadi (2014)

This study adapts Sa'dabadi (2014) research as the ftamework to investigate and
explore the relationship between levels of ambiguity tolerance and writing skill performance
of Thai EfL learners. The proccdure of collecting the data will mn through the curent
research by means of adopting Ely's Second Language Tolerance of Ambiguity Scale
(SLTAS) Questionnaire (1995) to measure participants' level of ambiguity tolerance, and
adapting an error recognition test selected from Test of English for lnternational
Communication (TOEIC) in order to assess their perlbrmance on writing skill. This
liamework will answer the research question that "ls there any significant relationship
between thc level of ambiguity tolerance and $,riting skill performance among Thai EFL
leamers?" Moreover, adapting Sa'dabadi (2014) research as the framework will justify and
prove whether high performance on writing skill ofEFL lcarncrs is attributed to high level of
ambiguity tolerance. If so, how do English teachers increase and promote students' level of
ambiguity tolerance?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้วิจัย Sa'dabadi (2014) ปรับเป็น ftamework เพื่อตรวจสอบ และสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างระดับของความอดทนความคลุมเครือและการเขียนทักษะประสิทธิภาพของนักเรียนไทยเรา Proccdure รวบรวมข้อมูลจะผ่าน curent ที่ mnวิจัย โดยการนำของ Ely สองภาษาค่าเผื่อของย่อมาตราส่วน(SLTAS) แบบสอบถาม (1995) ให้วัดระดับของผู้เข้าร่วมของความคลุมเครือความอดทน และการทดสอบการรับรู้ผิดพลาดที่เลือกจากการทดสอบของภาษาอังกฤษด้วยการปรับการสื่อสาร (TOEIC) เพื่อประเมินผลของพวกเขา perlbrmance ในทักษะการเขียน นี้liamework จะตอบการวิจัยถามว่า " ls มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่าง thc ระดับค่าเผื่อความคลุมเครือและ riting ประสิทธิภาพทักษะในไทยเราleamers " นอกจากนี้ ปรับ Sa'dabadi (2014) วิจัย ตามกรอบจะชิดขอบ และพิสูจน์ว่า มีประสิทธิภาพสูงในการเขียนทักษะ ofEFL lcarncrs นื่ในระดับสูงความคลาดเคลื่อนคลุมเครือ ถ้าเป็นเช่นนั้น วิธีครูสอนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น และส่งเสริมนักเรียนในระดับอย่างไรค่าเผื่อความคลุมเครือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้จะปรับ Sa'dabadi (2014) การวิจัยเป็น ftamework ในการตรวจสอบและ
สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างระดับของความอดทนความคลุมเครือและการเขียนทักษะการปฏิบัติงาน
ของผู้เรียนไทย EFL proccdure ของการเก็บรวบรวมข้อมูลจะ mn ผ่าน Curent
วิจัยโดยวิธีการของการใช้ความอดทน Ely ของภาษาที่สองของความคลุมเครือชั่ง
(SLTAS) แบบสอบถาม (1995) ในการวัดระดับของผู้เข้าร่วมของความอดทนความคลุมเครือและ
การปรับตัวการทดสอบการรับรู้ข้อผิดพลาดการคัดเลือกจากการสอบภาษาอังกฤษ สำหรับ Lnternational
สื่อสาร (TOEIC) เพื่อประเมิน perlbrmance ของพวกเขาในทักษะการเขียน นี้
liamework จะตอบคำถามการวิจัยที่ ls "มีผู้ใดมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ
ระหว่างระดับ THC ของความอดทนความคลุมเครือและ $, riting ประสิทธิภาพทักษะในหมู่ไทย EFL
leamers?" นอกจากนี้การปรับตัว Sa'dabadi (2014) เป็นกรอบการวิจัยจะปรับและ
พิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพสูงในการเขียนทักษะ ofEFL lcarncrs มีสาเหตุมาจากระดับสูงของ
ความอดทนความคลุมเครือ ถ้าเป็นเช่นนั้นอย่างไรครูสอนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นและส่งเสริมระดับของนักเรียน
ความอดทนความคลุมเครือ?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปรับ sa"dabadi ( 2014 ) เป็น ftamework เพื่อศึกษาและวิจัยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระดับของความอดทนต่อความคลุมเครือ และทักษะความสามารถในการเขียนของผู้เรียนไทย การ proccdure ของการเก็บรวบรวมข้อมูล จะเก็บเงินและผ่านการวิจัยโดยการใช้เทคโนโลยีเป็นสองภาษาความอดทนต่อความคลุมเครือมาตราส่วน( sltas ) แบบสอบถาม ( 1995 ) เพื่อวัดระดับความอดทนของผู้เข้าร่วมและความคลุมเครือการรับรู้ข้อผิดพลาดการทดสอบคัดเลือกจากการทดสอบภาษาอังกฤษระหว่างประเทศการสื่อสาร ( TOEIC ) เพื่อประเมิน perlbrmance ของพวกเขาในการเขียน นี้liamework จะตอบปัญหาการวิจัย " มีความสัมพันธ์ใด ๆระหว่างงานและระดับของความอดทนความกำกวม $ riting การแสดงทักษะในไทยที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศleamers ? " นอกจากนี้ การปรับ sa"dabadi ( 2014 ) การวิจัยเป็นกรอบ จะปรับและพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพสูงใน ofefl lcarncrs ประกอบกับทักษะการเขียนระดับสูงความอดทนความกำกวม ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมครูภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้นักเรียนระดับความอดทนความกำกวม ?