Under the units of production metho

Under the units of production method, the amount of depreciation charged to expense varies in direct proportion to the amount of asset usage. Thus, a business may charge more depreciation in periods when there is more asset usage, and less depreciation in periods when there is less usage. It is the most accurate method for charging depreciation, since this method links closely to the wear and tear on assets. However, it also requires that someone track asset usage, which means that its use is generally limited to more expensive assets. Also, you need to be able to estimate total usage over the life of the asset in order to derive the amount of depreciation to recognize in each accounting period.
If the estimated number of hours of usage or units of production changes over time, incorporate these changes into the calculation of the depreciation cost per hour or unit of production. This will alter the depreciation expense on a go-forward basis. A change in the estimate does not impact depreciation that has already been recognized.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภายใต้หน่วยวิธีการผลิต ยอดเงินของค่าเสื่อมราคาที่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายแตกต่างกันที่สัดส่วนโดยตรงกับจำนวนการใช้งานของสินทรัพย์ ดังนั้น ธุรกิจอาจคิดค่าเสื่อมราคาเพิ่มเติมในรอบระยะเวลา เมื่อมีการใช้สินทรัพย์เพิ่มเติม และ หักค่าเสื่อมราคาในรอบระยะเวลาเมื่อมีการใช้น้อยลงได้ มันเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดสำหรับชาร์จค่าเสื่อมราคา ตั้งแต่นี้วิธีเชื่อมโยงใกล้ชิดกับการขาดหรือการสึกหรอของสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม มันยังต้องให้คนติดตามการใช้สินทรัพย์ ซึ่งหมายความ ว่า การใช้งานโดยทั่วไปจำกัดสินทรัพย์แพงกว่า ด้วย คุณต้องสามารถที่จะประเมินการใช้ทั้งหมดตลอดอายุของสินทรัพย์เพื่อที่จะได้รับยอดเงินของค่าเสื่อมราคาในการจดจำในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีหากจำนวนชั่วโมงการใช้งานหรือหน่วยการผลิตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในการคำนวณต้นทุนค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมงหรือต่อหน่วยการผลิต นี้จะเปลี่ยนแปลงเสื่อมตามไปข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงในการประเมินผลกระทบต่อค่าเสื่อมราคาที่ได้รับการยอมรับว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภายใต้หน่วยงานของวิธีการผลิตจำนวนของค่าเสื่อมราคาที่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปในสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณการใช้งานของสินทรัพย์ ดังนั้นธุรกิจที่อาจเรียกเก็บค่าเสื่อมราคาในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสินทรัพย์มากขึ้นและหักค่าเสื่อมราคาในช่วงเวลาที่มีการใช้งานน้อย มันเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดสำหรับการเรียกเก็บเงินค่าเสื่อมราคาตั้งแต่วิธีการเชื่อมโยงนี้อย่างใกล้ชิดกับการสวมใส่และการฉีกขาดของสินทรัพย์ แต่ก็ยังต้องว่าคนที่ติดตามการใช้งานของสินทรัพย์ซึ่งหมายความว่าการใช้งานจะถูก จำกัด โดยทั่วไปจะมีราคาแพงกว่าสินทรัพย์ นอกจากนี้คุณยังจะต้องสามารถที่จะประเมินการใช้งานรวมกว่าชีวิตของสินทรัพย์เพื่อให้ได้มาปริมาณของค่าเสื่อมราคาที่จะรับรู้ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี.
ถ้าจำนวนโดยประมาณของชั่วโมงการใช้งานหรือหน่วยงานของการเปลี่ยนแปลงการผลิตในช่วงเวลาที่รวมเหล่านี้ การเปลี่ยนแปลงในการคำนวณค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมงหรือหน่วยของการผลิต นี้จะเปลี่ยนค่าเสื่อมราคาโดยวิธีการเดินทางไปข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงในการประมาณการไม่ได้ส่งผลกระทบต่อค่าเสื่อมราคาที่ได้รับการยอมรับแล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สังกัดหน่วยของวิธีการผลิต ปริมาณการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันในสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณการใช้สินทรัพย์ ดังนั้น ธุรกิจอาจคิดค่าเสื่อมมากขึ้นในช่วงเวลาที่เมื่อมีการเพิ่มสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคาน้อยลงในช่วงเวลาที่เมื่อมีการใช้น้อยลง มันเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดสำหรับชาร์จเสื่อม เนื่องจากวิธีนี้การเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการสึกหรอในสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสินทรัพย์ที่บางคนใช้ ซึ่งหมายความ ว่า การใช้งานทั่วไป จำกัด ทรัพย์สินราคาแพงมากขึ้น นอกจากนี้คุณต้องสามารถที่จะประเมินการใช้งานทั้งหมดผ่านชีวิตของสินทรัพย์เพื่อให้ได้ปริมาณการรับรู้ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี .หากประมาณจำนวนชั่วโมงการใช้งานหรือหน่วยการผลิตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในการคำนวณค่าเสื่อมราคาต้นทุนต่อหน่วยชั่วโมง หรือการผลิต นี้จะเปลี่ยนแปลงค่าเสื่อมราคาในไปข้างหน้า พื้นฐาน การเปลี่ยนแปลงในประมาณการไม่รวมผลกระทบที่ได้รับการยอมรับ