The Ecodesign Directive for energy-

The Ecodesign Directive for energy-related products

The EU Ecodesign Directive establishes a framework under which manufacturers of energy-using products are obliged to reduce the energy consumption and other negative environmental impacts occurring throughout the product life cycle. It is complemented by the Energy Labelling Directive.



It is generally acknowledged that a product¹s lifetime energy use is strongly influenced at the design phase.

'Ecodesign' means that there will be a greater focus on lifetime energy use and other environmental aspects during the conception and design phases, before it is manufactured and brought to market.

The combination of ecodesign and energy labelling is considered as one of the most effective policy tool in the area of energy efficiency.

In a discussion paper from February 2013, analysis by CLASP has identified an additional 40-70 TWh per annum by 2030 from eleven existing ecodesign and energy labelling regulations covering seven product groups. All eleven regulations are scheduled for review between now and the end of 2014. Read more here.

The Ecodesign Directive sets a framework for performance criteria which manufacturers must meet in order to legally bring their product to the market. It does not yet, however, prescribe specific measures or standards and sets no overall energy saving targets. A revised Directive extends the scope of the existing Directive by covering in principle all energy-related products.

While ecodesign aims at improving the energy and environmental performance of products and set minimum requirements, energy labelling requirements aim at providing the information about the same performance.The recast Energy Labelling Directive Directive 2010/30/EU was adopted in May 2010. It extends the energy labelling system from consumer-related products to energy-related products in the commercial and industrial sectors, for example cold storage rooms and vending machines.

Products and measures
All energy using products sold in the domestic, commercial and industrial sectors are covered by the Directive with the exception of all means of transport which are covered by other legislation. The revised Directive, which entered into force in November 2009, extends the scope of the existing Directive by covering in principle all energy-related products. In the future, windows, insulation materials, and certain water using products like shower heads or taps are expected to be covered as well.

Detailed actions are introduced by the European Commission following a process of discussion with key stakeholders and through what the Commission calls implementing measures. Manufacturers who begin marketing an energy using product covered by an implementing measure in the EU area have to ensure that it conforms to the energy and environmental standards set out by the measure.

The Ecodesign working plan sets out an indicative list of prioritised product groups. The revised working plan for 2012-2014 was released in December 2012 and replaces the working plan covering 2009-2011.


Requirements for product energy labelling are adopted alongside ecodesign implementing measures. Energy labels are intended to provide consumers with energy and environmental information on which they can base a choice between products on the market.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำสั่ง Ecodesign สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานคำสั่ง Ecodesign EU กำหนดกรอบการทำงานภายใต้การผลิตของการใช้พลังงานผลิตภัณฑ์มีหน้าที่ในการลดการใช้พลังงานและผลกระทบสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ลบเกิดขึ้นตลอดทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ครบครัน ด้วยการสั่งพิมพ์ฉลากพลังงานมันเป็นโดยทั่วไปยอมรับว่า ที่อายุการใช้งาน product¹s การใช้พลังงานที่มีอิทธิพลอย่างยิ่งในระยะออกแบบ'Ecodesign' หมายความ ว่า จะมีความสูงบนพลังงานอายุการใช้งานใช้และอื่น ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมในระหว่างการคิดและออกแบบระยะ ก่อนที่จะถูกผลิต และนำสู่ตลาดEcodesign และฉลากพลังงานถือว่าเป็นเครื่องมือนโยบายมีประสิทธิภาพสูงสุดในพื้นที่ของประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างใดอย่างหนึ่งในเอกสารการสนทนาจาก 2013 กุมภาพันธ์ วิเคราะห์ตามเข็มกลัดได้ระบุตวาไต้หว่านการเติม 40-70 ปีปี 2030 ecodesign อยู่และพลังงานฉลากระเบียบครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เจ็ดสิบเอ็ด ระเบียบทั้งหมด 11 มีการจัดกำหนดการทบทวนระหว่างตอนสิ้นปี 2557 อ่านเพิ่มเติมที่นี่คำสั่ง Ecodesign กำหนดกรอบเงื่อนไขประสิทธิภาพซึ่งผู้ผลิตต้องตรงกับการนำผลิตภัณฑ์ของตนตามกฎหมายการตลาด มันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กำหนดมาตรฐานหรือมาตรการเฉพาะ และชุดไม่รวมพลังงานเป้าหมาย คำสั่งแก้ไขขยายขอบเขตของคำสั่งที่มีอยู่ โดยครอบคลุมหลักผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งหมดขณะ ecodesign มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพลังงานและสิ่งแวดล้อมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และกำหนดขั้นต่ำ ความต้องการฉลากพลังงานมุ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานเดียวกัน การ recast พลังงานฉลากคำสั่งคำสั่ง 2010/30/EU ถูกนำมาใช้ในเดือน 2553 พฤษภาคม มันขยายพลังงานฉลากระบบจากผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในอุตสาหกรรม และเชิงพาณิชย์ภาคการ เช่นห้องเย็นและเครื่องขายแสตมป์อัตโนมัติผลิตภัณฑ์และมาตรการพลังงานทั้งหมดโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ขายในประเทศ ภาคการค้า และอุตสาหกรรมครอบคลุม โดยคำสั่งยกเว้นวิธีการขนส่งทั้งหมดที่ครอบคลุม โดยกฎหมายอื่น ๆ คำสั่งปรับปรุง ที่เข้ากองทัพในเดือนพฤศจิกายนพ.ศ. 2552 ขยายขอบเขตของคำสั่งที่มีอยู่ โดยครอบคลุมหลักผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งหมด ในอนาคต windows ฉนวน และน้ำบางอย่างใช้ผลิตภัณฑ์ต้องหัวฝักบัว หรือก๊อกคาดว่าจะสามารถครอบคลุมได้เป็นอย่างดีมีการแนะนำรายละเอียดการดำเนินการ โดยคณะกรรมาธิการยุโรปที่ตามกระบวนการของการสนทนา กับเสียหลัก และสิ่งที่คณะกรรมการเรียกมาตรการที่นำไปใช้ ผู้ผลิตที่เริ่มการตลาดพลังงานการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม โดยวัดการนำไปใช้ใน EU เพื่อให้แน่ใจว่า มันสอดคล้องกับพลังงานและสิ่งแวดล้อมมาตรฐานที่กำหนด โดยการวัดได้Ecodesign ทำแผนกำหนดรายชื่อของกลุ่มผลิตภัณฑ์ prioritised ตัวชี้ให้เห็น แผนงานการปรับปรุงสำหรับ 2012-2014 ออกใน 2012 ธันวาคม และแทนที่แผนการทำงานที่ครอบคลุม 2009-2011ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์ฉลากพลังงานนำมาใช้ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการ ecodesign ป้ายชื่อพลังงานมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภค ด้วยพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ในตลาดมากมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สั่งอนุรักษ์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสหภาพยุโรป Directive อนุรักษ์กำหนดกรอบการทำงานตามที่ผู้ผลิตสินค้าที่ใช้พลังงานมีหน้าที่ที่จะลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในทางลบตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ มันจะสมบูรณ์โดยสั่งการติดฉลากพลังงาน. เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าการใช้งานพลังงานอายุการใช้งานproduct¹sมีอิทธิพลอย่างมากในขั้นตอนการออกแบบ. 'อนุรักษ์' หมายความว่าจะมีความสำคัญมากขึ้นในการใช้พลังงานอายุการใช้งานและด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ในระหว่างความคิดและ ขั้นตอนการออกแบบก่อนที่จะผลิตและนำออกสู่ตลาด. การรวมกันของออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจและการติดฉลากพลังงานถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีนโยบายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในพื้นที่ของพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ. ในกระดาษอภิปรายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2013 การวิเคราะห์โดยการจับมือได้ระบุ เพิ่มเติม TWh 40-70 ต่อปีในปี 2030 จากการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจที่มีอยู่สิบเอ็ดและข้อบังคับการติดฉลากพลังงานครอบคลุมเจ็ดกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งหมดสิบเอ็ดกฎระเบียบที่กำหนดไว้สำหรับการตรวจสอบระหว่างนี้และในตอนท้ายของปี 2014 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่. สั่งอนุรักษ์กำหนดกรอบการทำงานสำหรับเกณฑ์การปฏิบัติงานที่ผู้ผลิตจะต้องตอบสนองเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายจะนำผลิตภัณฑ์ของตนเพื่อตลาด มันยังไม่ แต่กำหนดมาตรการที่เฉพาะเจาะจงหรือมาตรฐานและชุดไม่มีเป้าหมายการประหยัดพลังงานโดยรวม สั่งปรับปรุงขยายขอบเขตของคำสั่งที่มีอยู่โดยครอบคลุมในหลักการผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน. ในขณะที่การออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานและการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์และการตั้งค่าความต้องการขั้นต่ำ, การติดฉลากพลังงานความต้องการมุ่งที่การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานเดียวกัน หลอมติดฉลากพลังงานสั่ง Directive 2010/30 / EU ถูกนำมาใช้ในเดือนพฤษภาคม 2010 จะขยายระบบการติดฉลากพลังงานจากผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในภาคการค้าและอุตสาหกรรมเช่นห้องเก็บของที่หนาวเย็นและเครื่องจำหน่าย. ผลิตภัณฑ์ และมาตรการผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานทั้งหมดที่ขายในประเทศภาคการค้าและอุตสาหกรรมที่ได้รับความคุ้มครองโดยคำสั่งยกเว้นวิธีการทั้งหมดของการขนส่งที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอื่นๆ สั่งแก้ไขซึ่งมีผลบังคับในเดือนพฤศจิกายน 2009 ขยายขอบเขตของคำสั่งที่มีอยู่โดยครอบคลุมในหลักการผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ในอนาคต, หน้าต่าง, วัสดุฉนวนกันความร้อนและน้ำบางอย่างโดยใช้ผลิตภัณฑ์เช่นหัวฝักบัวหรือก๊อกน้ำที่คาดว่าจะได้รับการคุ้มครองเช่นกัน. กระทำโดยละเอียดจะนำโดยคณะกรรมาธิการยุโรปต่อไปนี้ขั้นตอนของการพูดคุยกับผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญและผ่านสิ่งที่คณะกรรมการการเรียกการดำเนินการ มาตรการ ผู้ผลิตที่จะเริ่มต้นการตลาดพลังงานในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมโดยการวัดผลการดำเนินในพื้นที่ของสหภาพยุโรปต้องให้แน่ใจว่ามันสอดคล้องกับมาตรฐานการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อมกำหนดโดยวัด. แผนอนุรักษ์ทำงานชุดออกรายการที่บ่งบอกถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์จัดลำดับความสำคัญ แผนการทำงานแก้ไข 2012-2014 ได้รับการปล่อยตัวในเดือนธันวาคม 2012 และแทนที่แผนครอบคลุมการทำงาน 2009-2011. ข้อกำหนดสำหรับการติดฉลากผลิตภัณฑ์พลังงานจะนำไปใช้ควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจ ฉลากพลังงานมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูลด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาสามารถฐานทางเลือกระหว่างผลิตภัณฑ์ในตลาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คือคำสั่งสำหรับพลังงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์

สหภาพยุโรปคือคำสั่งสร้างกรอบภายใต้ซึ่งผลิตพลังงานโดยใช้ผลิตภัณฑ์มีหน้าที่ลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเชิงลบอื่น ๆที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ . มันเป็น complemented โดยพลังงาน labelling Directive



มันเป็นโดยทั่วไปยอมรับว่าผลิตภัณฑ์มาตรฐานใช้พลังงานชีวิตขออิทธิพลที่ขั้นตอนการออกแบบ

'ecodesign ' หมายความว่า จะมีอายุการใช้งานมากขึ้น เน้นใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ในความคิดและการออกแบบขั้นตอนก่อนที่จะผลิตและนำออกสู่ตลาด .

การรวมกันของการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจและพลังงาน กล่าวคือ จะถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในพื้นที่ของนโยบายพลังงาน

ในกระดาษสนทนาจากเดือนกุมภาพันธ์ 2556 การวิเคราะห์โดยจับมือได้ระบุเพิ่มเติม 40-70 ชั้นนำต่อปี 2030 จากสิบเอ็ดที่มีอยู่ คือ พลังงานและการติดฉลากข้อบังคับ ครอบคลุม 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์กฎ 11 ทั้งหมด กำหนดทบทวนระหว่างตอนนี้และจุดสิ้นสุดของ 2014 อ่านเพิ่มเติมที่นี่

ชุดคือคำสั่งกรอบเกณฑ์ประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ผลิตจะต้องตอบสนองเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายนำผลิตภัณฑ์ของตนในตลาด มันไม่ แต่อย่างไรก็ตาม กำหนดมาตรการที่เฉพาะเจาะจงหรือมาตรฐานและชุดไม่รวมการประหยัดพลังงานเป้าหมายแก้ไขคำสั่งขยายขอบเขตของคำสั่งเดิม โดยครอบคลุมในหลักการพลังงานทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์

ตอน คือมีจุดมุ่งหมายที่การปรับปรุงพลังงานและสมรรถนะทางสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ และการตั้งค่าความต้องการขั้นต่ำความต้องการพลังงานฉลากจุดมุ่งหมายในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานเดียวกันโดยคงรูปแปะพลังงาน Directive คำสั่ง / 2553 30 / EU ประกาศใช้ในเดือนพฤษภาคม 2553 มันขยายระบบพลังงานฉลากจากผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์พลังงานที่เกี่ยวข้องในภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม เช่น ห้องเย็น และ เครื่องขายแสตมป์อัตโนมัติ


สินค้าและมาตรการทั้งหมดพลังงานโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ขายในประเทศพาณิชย์และอุตสาหกรรมที่ครอบคลุม โดยคำสั่งยกเว้นหมายถึงทั้งหมดของการขนส่งที่ครอบคลุม โดยกฎหมายอื่น ๆ แก้ไขคำสั่งซึ่งมีผลใช้บังคับในเดือนพฤศจิกายน 2009 , ขยายขอบเขตของคำสั่งเดิม โดยครอบคลุมในหลักการพลังงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ ในอนาคต , หน้าต่าง , ฉนวน ,และน้ำบางใช้ผลิตภัณฑ์เช่นหัวฝักบัวหรือก๊อกน้ำที่คาดว่าจะครอบคลุมเช่นกัน

รายละเอียดการกระทำา โดยคณะกรรมาธิการยุโรปตามกระบวนการของการสนทนากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญและผ่านสิ่งที่คณะกรรมการเรียกการใช้มาตรการผู้ผลิตที่เริ่มต้นการตลาดพลังงานใช้ผลิตภัณฑ์ครอบคลุม โดยการใช้มาตรการในพื้นที่ของสหภาพยุโรปเพื่อให้แน่ใจว่า มันสอดคล้องกับพลังงานและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม ออกโดยวัด

ชุด คือทำงานวางแผนออกรายการดังของจัดลําดับความสําคัญของผลิตภัณฑ์กลุ่มปรับแผนงานเพื่อผลักดันถูกปล่อยตัวในธันวาคม 2012 แทนและแผนการทำงานครอบคลุม 2009-2011


ข้อกำหนดสำหรับฉลากผลิตภัณฑ์พลังงานมาใช้ควบคู่ไปกับการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจการใช้มาตรการ ป้ายพลังงานมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภคกับพลังงานและข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาสามารถเลือกได้ระหว่างฐานสินค้าในตลาด