This study focused on the effect of

This study focused on the effect of increasing pressure on
biomass availability (see also Holmberg and Gustavsson (2007)).11
We have analysed this by applying two different boundary conditions
for surplus biomass. Recycling of paper leads to increased
biomass availability, which can potentially be used for energy generation.
It can, however, be questioned if it is justified to allocate
the surplus biomass to the recycling chain. A similar approach has
been chosen by Dornburg and Faaij (2005) who studied costs and
CO2 emissions of biomass cascading. In our system boundary analysis,
we investigated the impact of: (a) allocating recycling benefits
solely to recovered pulp (e.g. accounting the energy input by feedstock
use only to virgin based pulps) and allocating benefits of
virgin fibres (e.g. negative CO2 emissions due to bio-energy production)
solely to these types and (b) of allocating surplus biomass
to the more efficient chains. Both methods have advantages and
disadvantages and this study has shown, that one should be careful
selecting system boundaries in a system where the virgin and
recycling chains are so dependent. A debate is also ongoing in the
LCA community on the allocation of recycling benefits. Due to the
unique nature of the pulp and paper industry, this debate could
have different impacts than that of other materials (e.g. steel, glass).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้มุ่งเน้นผลของการเพิ่มความดันในงานชีวมวล (ดูยัง Holmberg และ Gustavsson (2007)) .11เรามีวิเคราะห์นี้ใช้เงื่อนไขขอบเขตแตกต่างกันสองสำหรับชีวมวลส่วนเกิน รีไซเคิลกระดาษที่นำไปสู่การเพิ่มขึ้นงานที่ทำชีวมวล ซึ่งอาจสามารถใช้สำหรับการสร้างพลังงานอย่างไรก็ตาม สามารถสอบสวนถ้ามันเป็นธรรมจัดสรรชีวมวลส่วนเกินไปการรีไซเคิล มีวิธีการคล้ายกันการเลือก โดย Dornburg และ Faaij (2005) ที่ศึกษาต้นทุน และการปล่อย CO2 ของชีวมวลซ้อน ในการวิเคราะห์ขอบเขตระบบเราตรวจสอบผลกระทบของ: ประโยชน์รีไซเคิล (a) การปันส่วนเพื่อกู้คืน (เช่นบัญชีข้อมูลพลังงาน โดยวัตถุดิบเยื่อใช้ pulps ตามที่บริสุทธิ์ไปเท่านั้น) และการจัดสรรผลประโยชน์ของเส้นใยบริสุทธิ์ (เช่นลบปล่อย CO2 เนื่องจากการผลิตพลังงานชีวภาพ)เพื่อเหล่านี้ชนิดและ (b) การปันส่วนชีวมวลส่วนเกินของกับโซ่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งสองวิธีมีข้อดี และข้อเสียและการศึกษานี้ได้แสดงให้เห็น ว่าควรระมัดระวังเลือกขอบเขตของระบบในระบบที่พระแม่มารี และกลุ่มรีไซเคิลได้มากขึ้น ยังเป็นการอภิปรายอย่างต่อเนื่องในการชุมชน LCA ในการปันส่วนของผลประโยชน์การรีไซเคิล จากการธรรมชาติของอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ ถกเถียงอาจมีผลกระทบแตกต่างกันที่วัสดุอื่น ๆ (เช่นเหล็ก กระจก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของการเพิ่มความดันใน
ห้องว่างชีวมวล (เห็นโฮล์มและ Gustavsson (2007)). 11
เรามีการวิเคราะห์นี้โดยใช้สองเงื่อนไขขอบเขตที่แตกต่างกัน
สำหรับพลังงานชีวมวลส่วนเกิน การรีไซเคิลกระดาษนำไปสู่การเพิ่มขึ้น
ความพร้อมชีวมวลซึ่งสามารถอาจจะใช้สำหรับการผลิตพลังงาน.
มันสามารถ แต่จะถามว่ามันเป็นธรรมในการจัดสรร
ชีวมวลเกินดุลไปห่วงโซ่การรีไซเคิล วิธีการที่คล้ายได้
รับการคัดเลือกจาก Dornburg และ Faaij (2005) ที่ศึกษาค่าใช้จ่ายและ
การปล่อย CO2 ของชีวมวลซ้อน ในการวิเคราะห์ขอบเขตระบบของเรา
เราตรวจสอบผลกระทบของ (ก) การจัดสรรผลประโยชน์รีไซเคิล
แต่เพียงผู้เดียวในการผลิตเยื่อกระดาษหาย (เช่นบัญชีที่เข้าพลังงานจากวัตถุดิบที่
ใช้เฉพาะกับเยื่อบริสุทธิ์ based) และการจัดสรรผลประโยชน์ของ
เส้นใยบริสุทธิ์ (เช่นการปล่อย CO2 เชิงลบเนื่องจาก การผลิตพลังงานชีวภาพ)
แต่เพียงผู้เดียวประเภทนี้และ (ข) การจัดสรรชีวมวลส่วนเกิน
ให้กับเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งสองวิธีมีข้อดีและ
ข้อเสียและการศึกษาครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าหนึ่งควรจะระมัดระวัง
ขอบเขตของระบบการคัดเลือกในระบบที่บริสุทธิ์และ
รีไซเคิลโซ่จะขึ้นอยู่ดังนั้น มีการถกเถียงกันนอกจากนี้ยังมีอย่างต่อเนื่องใน
ชุมชน LCA เกี่ยวกับการจัดสรรผลประโยชน์รีไซเคิล เนื่องจากการ
ลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษที่การอภิปรายครั้งนี้จะ
มีผลกระทบที่แตกต่างกันกว่าวัสดุอื่น ๆ (เช่นเหล็ก, แก้ว)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาผลของความดันที่เพิ่มขึ้นในชีวมวล ( เห็นยังว่าง และ gustavsson โฮล์มเบิร์ก ( 2007 ) ) 11เราได้วิเคราะห์นี้โดยการใช้สองเงื่อนไขขอบเขตต่างกันสำหรับมวลส่วนเกิน การรีไซเคิลกระดาษาเพิ่มขึ้นชีวมวลไปใช้ ซึ่งอาจจะถูกใช้เพื่อผลิตพลังงานแต่จะถามว่ามันเป็นธรรมจัดสรรการนำชีวมวลไปใช้โซ่ วิธีการที่คล้ายคลึงกันได้ถูกเลือกโดย dornburg และ faaij ( 2005 ) ที่ศึกษาต้นทุนการปล่อย CO2 มวลชีวภาพของ cascading . ในการวิเคราะห์ขอบเขตระบบของเราศึกษาผลกระทบของ ( ก ) จัดสรรผลประโยชน์ รีไซเคิลแต่เพียงผู้เดียวที่จะหายกาก ( เช่นพลังงานที่จัดทำโดยบริษัทบัญชีใช้เฉพาะเยื่อบริสุทธิ์ตาม ) และการจัดสรรผลประโยชน์ของเส้นใยบริสุทธิ์ ( การปล่อย CO2 เช่นลบเนื่องจากการผลิตพลังงานชีวภาพ )เพียง ประเภท นี้ และ ( ข ) การขยายตัวของชีวมวลกับโซ่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียและผลการศึกษาพบว่า หนึ่งควรจะระมัดระวังการเลือกขอบเขตของระบบ ในระบบที่ บริสุทธิ์และรีไซเคิล โซ่จึงขึ้นอยู่กับ การอภิปรายเป็น อย่างต่อเนื่อง ในผลิตภัณฑ์ชุมชนในการจัดสรรผลประโยชน์ การรีไซเคิล เนื่องจากการลักษณะพิเศษของอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ , การอภิปรายนี้สามารถมีผลกระทบที่แตกต่างกันกว่าวัสดุอื่น ๆ ( เช่นเหล็ก , แก้ว )