Wat Arun Ratchawararam "Temple of D

Wat Arun Ratchawararam "Temple of Dawn") is a Buddhist temple (wat) in Bangkok Yai district of Bangkok, Thailand, on the Thonburi west bank of the Chao Phraya River. The temple derives its name from the Hindu god Aruna,[1] often personified as the radiations of the rising sun. Wat Arun is among the best known of Thailand's landmarks and the first light of the morning reflects off the surface of the temple with pearly iridescence.[2] Although the temple had existed since at least the seventeenth century, its distinctive prang (spires) were built in the early nineteenth century during the reign of King Rama II

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Ratchawararam อรุณวัด "วัดอรุณ") เป็นวัดพุทธ (วัด) ในเขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร ไทย ธนบุรีฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา วัดมาจากชื่อของเทพเจ้าอารูนา, [1] personified มักเป็นรังสีของดวงอาทิตย์ขึ้น วัดอรุณเป็นหนึ่งในที่รู้จักกันดีของสถานที่สำคัญของประเทศไทย และแสงแรกของเช้าสะท้อนออกจากพื้นผิวของวัด ด้วยมุกสีรุ้ง [2] แม้ว่าวัดนี้มีอยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่สิบเจ็ดน้อย ปรางโดดเด่น (สไปรส์) สร้างขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในรัชสมัยของสมเด็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัดอรุณ Ratchawararam "วัดอรุณ") เป็นวัดในพุทธศาสนา (วัด) ในย่านบางกอกใหญ่กรุงเทพฯ, ประเทศไทยบนฝั่งตะวันตกธนบุรีแม่น้ำเจ้าพระยา วัดล้วนมาจากชื่อเทพเจ้าในศาสนาฮินดู Aruna [1] มักจะเป็นตัวเป็นตนเป็นการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ขึ้น วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในที่รู้จักกันดีในสถานที่สำคัญของประเทศไทยและแสงแรกของเช้าวันสะท้อนให้เห็นถึงออกจากพื้นผิวของวัดด้วยไข่มุกสีรุ้งได้. [2] แม้ว่าพระวิหารมีอยู่อย่างน้อยตั้งแต่ศตวรรษที่สิบเจ็ดปรางค์ที่โดดเด่น (ยอดแหลม) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่สิบเก้าในรัชสมัยของรัชกาลที่สอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัดอรุณ ratchawararam " วัดอรุณ " ) เป็นพุทธวิหาร ( วัด ) ในเขต บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในฝั่งธนบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา วัดมาจากชื่อของพระเจ้าของฮินดูรูนา , [ 1 ] มักจะทำตัวเป็นเหมือนรังสีของพระอาทิตย์ วัดอรุณเป็นหนึ่งในที่รู้จักกันดีที่สุดของเมืองไทย แหล่งท่องเที่ยว และแสงแรกยามเช้าสะท้อนออกจากพื้นผิวของมุก วัดรุ้ง [ 2 ] ถึงวัดได้มีอยู่อย่างน้อยตั้งแต่ศตวรรษที่ปรางค์ที่โดดเด่นของมัน ( ยอดแหลม ) , ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ในช่วงรัชกาลที่ 2