During the 1970s, structural defici

During the 1970s, structural deficiencies in Burger King's franchise system became increasingly problematic for Pillsbury. A major example was the relationship between Burger King and Louisiana-based franchisee Chart House, Burger King's largest franchisee group at the time with over 350 locations in the United States. The company's owners, William and James Trotter, made several moves to take over or acquire Burger King during the 1970s, all of which were spurned by Pillsbury. After the failed attempts to acquire the company, the relationship between Chart House and Burger King soured and eventually devolved into a lawsuit. Chart House eventually spun off its Burger King operations in the early 1980s into a holding company called DiversiFoods, which in turn was acquired by Pillsbury in 1984 and absorbed into Burger King's operations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในระหว่างปี 1970 ขาดโครงสร้างในระบบแฟรนไชส์ของเบอร์เกอร์คิงเป็นปัญหามากสำหรับเกี่ยวกับ ตัวอย่างที่สำคัญคือ ความสัมพันธ์ระหว่างเบอร์เกอร์คิงและหลุยส์เซียนาแผนผังบ้าน เบอร์เกอร์คิงกลุ่มแฟรนไชส์ใหญ่ที่สุดในเวลากว่า 350 สาขาในสหรัฐอเมริกาการแฟรนไชส์ เจ้าของบริษัท William James Trotter ทำย้ายหลายที่ดำเนินการผ่าน หรือได้รับเบอร์เกอร์คิงในระหว่างปี 1970 ซึ่งทั้งหมดถูกปฏิเสธ โดยเกี่ยวกับ หลังจากความพยายามที่ล้มเหลวในการเรียกบริษัท ความสัมพันธ์ระหว่างแผนภูมิบ้านและเบอร์เกอร์คิงถูกทำให้เน่า และสุดปฐมภูมิในคดี บ้านภูมิที่สุดปั่นปิดการดำเนินการของเบอร์เกอร์คิงในต้นทศวรรษ 1980 ในบริษัทเรียกว่า DiversiFoods ซึ่งถูกซื้อ โดยเกี่ยวกับใน 1984 และดูดซึมเข้าสู่การดำเนินงานของเบอร์เกอร์คิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงปี 1970 ที่บกพร่องของโครงสร้างในระบบแฟรนไชส์​​เบอร์เกอร์คิงกลายเป็นปัญหามากขึ้นสำหรับ Pillsbury ตัวอย่างที่สำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างเบอร์เกอร์คิงและหลุยเซียตามแฟรนไชส์​​ชาร์เฮ้าส์, แฟรนไชส์​​ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มเบอร์เกอร์คิงในช่วงเวลาที่มีมากกว่า 350 แห่งในสหรัฐอเมริกา เจ้าของ บริษัท วิลเลียมและเจมส์ร็อตเตอร์ทำย้ายหลายที่จะใช้เวลามากกว่าหรือได้รับเบอร์เกอร์คิงในช่วงปี 1970 ซึ่งทั้งหมดได้รับการปฏิเสธโดย Pillsbury หลังจากความพยายามที่ล้มเหลวในการซื้อ บริษัท ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านแผนภูมิและเบอร์เกอร์คิงบูดและในที่สุดเงินทองเข้ามาในคดี บ้านแผนภูมิในที่สุดก็ปั่นออกการดำเนินงานของเบอร์เกอร์คิงในช่วงต้นทศวรรษ 1980 เป็น บริษัท โฮลดิ้งที่เรียกว่า DiversiFoods ซึ่งจะถูกซื้อกิจการโดย Pillsbury ในปี 1984 และดูดซึมเข้าสู่การดำเนินงานของเบอร์เกอร์คิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงปี 1970 , โครงสร้างบกพร่องในระบบแฟรนไชส์เบอร์เกอร์คิงกลายเป็นปัญหามากขึ้น พิลส์บูรี่ ตัวอย่างที่สำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์และลุยเซียนาตามแผนที่บ้านซีเบอร์เกอร์ เบอร์เกอร์คิงแฟรนไชส์กลุ่มใหญ่ที่สุดในเวลาที่มีมากกว่า 350 แห่งในสหรัฐอเมริกา เจ้าของของ บริษัท วิลเลี่ยม และ เจมส์ ที่เท้า ทำให้หลายย้ายไปหรือซื้อเบอร์เกอร์คิงในช่วงปี 1970 ซึ่งทั้งหมดได้รับ spurned โดยพิลส์บูรี่ หลังจากล้มเหลวในความพยายามที่จะได้รับ บริษัท ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านแผนภูมิและ Burger King ด้วยกัน และในที่สุดตกทอดสู่คดี แผนที่บ้านในที่สุดปั่นงานเบอร์เกอร์คิงในต้นทศวรรษ 1980 เป็น บริษัท โฮลดิ้ง เรียกว่า diversifoods ซึ่งจะได้มาโดย พิลส์เบอรี่ใน 1984 และดูดซึมในการดําเนินงานเบอร์เกอร์คิง .