there is not "the answer" to the qu

there is not "the answer" to the question you posed. The length and the diameter of the capillary tube affect the mass flow rate through it. The mass flow rate depends not only on geometry but also on the thermodynamic prop of the refrigerant and the operating conditions: pressure and subcooling at the capillary tube inlet (pressure at the evaporator is important if the flow inside the capillary tube is not choked).

Once you design a heat pump or a refrigerator with a capillary tube, the inlet/outlet conditions at each component (compressor, condenser, evaporator and capillary tube) will depend on the sizing of each component itself and on the actual buondary conditions (temperature, flow rates of the fluids at the evaporator and condenser). So the balancing of the system will affect the inlet conditions to each components and the real conditions could be far from the nominal ones.

For this reason, usually, the procedure used inside the R&D labs for thermodynamic design, have some preliminary calculations of the diameter/length based on correlations available in literature at the nominal conditions of the system. Then simulations and tests in further conditions are required to check that, in the whole range of application of the system, the refrigerant at the exit of the compressor is feed by superheated refrigerant to prevent risks for its durability. Also the refrigerant charge has to be appropriately choosen depending on the refrigerant, the operating conditions and the volume of the system, otherwhise the capillary tube will not be correctly feed by a liquid at the inlet, with unstable working conditions for the system.

Taking into account for all these considerations, and also :

-for the fact that the equations for the sizing of the capillary tube have a poor accuracy ;

-for the fact that the diameter of such tubes is small (less than 1.8 mm usually) and of a size not so reliable,

the labs use a try-and-error approach following some procedures reccommended by standard. The ASHRAE handbook (part Refrigeration) reports such procedure.

The use of appropriate softwares could help to reduce the experiments in the labs.

Please account that based on researches from our labs the couple diameter/lenght of capillary tube, with the refrigerant charge and the size of the compressor will affect notably the performance of a heat pump or a refrigerator.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่มีคำตอบโดย"คุณหมาด ความยาวและเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อมีผลต่ออัตราการไหลผ่านมัน อัตราการไหลเชิงมวลขึ้นอยู่ไม่เฉพาะในเรขาคณิตแต่ยังบนเสาทางอุณหพลศาสตร์ของสารทำความเย็นและสภาพการใช้งาน: ดันและ subcooling ที่ทางเข้าของท่อ (ความดันที่เครื่องระเหยเป็นสิ่งสำคัญถ้าไม่มีสำลักการไหลภายในท่อ) เมื่อคุณออกแบบปั๊มความร้อนหรือเย็นกับหลอด เงื่อนไขทางเข้า/ออกแต่ละส่วนประกอบ (คอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์ คอยล์เย็น และเส้นเลือดฝอยหลอด) จะขึ้นอยู่ กับขนาดของแต่ละส่วนประกอบเอง และเงื่อนไขจริง buondary (อุณหภูมิ อัตราการไหลของของเหลวในคอนเดนเซอร์และคอยล์เย็น) ดังนั้นความสมดุลของระบบจะมีผลต่อสภาพทางเข้าคอมโพเนนต์แต่ละ และเงื่อนไขจริงอาจจะไกลจากคนปกติเหตุผลนี้ มักจะ ขั้นตอนการใช้ภายในห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาสำหรับการออกแบบขอบ มีคำนวณบางอย่างเบื้องต้นของเส้นผ่าศูนย์กลาง/ความยาวที่อิงความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในวรรณคดีที่กำหนดเงื่อนไขของระบบ แล้ว จำลองและการทดสอบในเงื่อนไขเพิ่มเติมจะต้องตรวจสอบว่า ในช่วงทั้งหมดของโปรแกรมประยุกต์ของระบบ สารทำความเย็นที่ทางออกของคอมเพรสเซอร์เป็นฟีด โดยไอดงเย็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงสำหรับความทนทาน ค่าธรรมเนียมการทำความเย็นได้อย่างเหมาะสมจะ เลือกขึ้นอยู่กับสารทำความเย็น เงื่อนไขการปฏิบัติ และระดับเสียงของระบบ ท่อจะไม่ได้ถูกเลี้ยง โดยของเหลวที่ไหลเข้า มีสภาพการทำงานไม่เสถียรสำหรับระบบ otherwhiseคำนึงถึงการพิจารณาเหล่านี้ และยังมี:-ความจริงที่ว่า สมการสำหรับการกำหนดขนาดของท่อมีไม่แม่น-ความจริงที่ว่า เส้นผ่าศูนย์กลางของท่อดังกล่าวมีขนาดเล็ก (น้อยกว่า 1.8 มม.ปกติ) และมีขนาดที่ไม่น่าเชื่อถือมากห้องปฏิบัติการใช้วิธีลองผิดพลาดดังต่อไปนี้แนะนำบางขั้นตอนตามมาตรฐาน คู่มือ ASHRAE (ตอนเย็น) รายงานการดำเนินการ การใช้ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดการทดลองในห้องปฏิบัติการกรุณาบัญชีที่อิงจากงานวิจัยจากห้องปฏิบัติการของเราเส้นผ่าศูนย์ กลาง/lenght คู่ของหลอดฝอย ค่าทำความเย็นและขนาดของคอมเพรสเซอร์ จะมีผลต่อประสิทธิภาพของปั๊มความร้อนหรือเย็นโดยเฉพาะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีไม่ได้ "คำตอบ" สำหรับคำถามที่คุณโพสต์ ความยาวและเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเส้นเลือดฝอยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราการไหลของมวลผ่านมัน อัตราการไหลของมวลขึ้นอยู่ไม่เพียงในเรขาคณิต แต่ยังอยู่ในเสาอุณหพลศาสตร์ของสารทำความเย็นและสภาพการใช้งาน: ดันและ subcooling ที่เข้าหลอดเส้นเลือดฝอย (ความดันที่ระเหยเป็นสิ่งสำคัญหากการไหลภายในหลอดเส้นเลือดฝอยไม่ได้สำลัก)

เมื่อคุณออกแบบปั๊มความร้อนหรือตู้เย็นที่มีหลอดเส้นเลือดฝอยมีเงื่อนไขทางเข้า / ทางออกที่แต่ละองค์ประกอบ (คอมเพรสเซอร์คอนเดนเซอร์ระเหยและหลอดเส้นเลือดฝอย) จะขึ้นอยู่กับการปรับขนาดของแต่ละองค์ประกอบของตัวเองและอยู่กับเงื่อนไข buondary ที่เกิดขึ้นจริง (อุณหภูมิ อัตราการไหลของของเหลวที่ระเหยและคอนเดนเซอร์) ดังนั้นการปรับสมดุลของระบบที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพการไหลเข้าในส่วนของแต่ละคนและเงื่อนไขที่แท้จริงอาจจะห่างไกลจากคนที่ระบุ.

ด้วยเหตุนี้มักจะขั้นตอนที่ใช้ในห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาสำหรับการออกแบบทางอุณหพลศาสตร์มีคำนวณเบื้องต้นบางส่วนของขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง / ความยาวขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในวรรณคดีที่ระบุเงื่อนไขของระบบ จากนั้นการจำลองและการทดสอบในสภาพที่ต่อไปจะต้องตรวจสอบว่าในทั้งช่วงของการประยุกต์ใช้ระบบทำความเย็นที่ประตูทางออกของคอมเพรสเซอร์ที่มีการเลี้ยงโดยยวดยิ่งของสารทำความเย็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงสำหรับความทนทานของมัน นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายสารทำความเย็นจะต้องมีการเลือกได้เหมาะสมขึ้นอยู่กับสารทำความเย็นสภาพการใช้งานและปริมาณของระบบ otherwhise หลอดเส้นเลือดฝอยจะไม่ได้กินอาหารอย่างถูกต้องโดยมีสภาพคล่องที่เข้ากับสภาพการทำงานที่ไม่เสถียรของระบบ.

คำนึงถึง บัญชีสำหรับการพิจารณาทั้งหมดเหล่านี้และยัง:

เผื่อความจริงที่ว่าสมการสำหรับการปรับขนาดของหลอดเส้นเลือดฝอยมีความถูกต้องน่าสงสาร;

เผื่อความจริงที่ว่ามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อดังกล่าวมีขนาดเล็ก (น้อยกว่า 1.8 มมปกติ) และของ ขนาดไม่น่าเชื่อถือดังนั้น

การทดลองใช้วิธีการลองและข้อผิดพลาดต่อไปนี้ขั้นตอนบาง reccommended มาตรฐาน ASHRAE คู่มือ (ส่วนเครื่องทำความเย็น) รายงานขั้นตอนดังกล่าว.

การใช้งานของโปรแกรมที่เหมาะสมจะช่วยลดการทดลองในห้องปฏิบัติการได้.

กรุณาบัญชีผู้ใช้ที่อยู่บนพื้นฐานของงานวิจัยจากห้องปฏิบัติการของเรามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางคู่ / ความยาวของหลอดเส้นเลือดฝอยที่มีค่าใช้จ่ายสารทำความเย็นและ ขนาดของคอมเพรสเซอร์จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสะดุดตาปั๊มความร้อนหรือตู้เย็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่มี " ตอบ " คำถามที่เธอวาง ความยาวและเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นเลือดฝอยหลอดมีผลต่ออัตราการไหลของอากาศผ่าน อัตราการไหลของมวลขึ้นอยู่ไม่เพียงในเรขาคณิตแต่ใน prop อุณหพลศาสตร์ของสารทำความเย็นและเงื่อนไข : ความดันและการซับคูลที่ปากน้ำ ( capillary ท่อความดันที่ระเหยเป็นสำคัญ ถ้าการไหลภายในท่อฝอยไม่สำลัก )เมื่อคุณออกแบบปั๊มความร้อนหรือตู้เย็นที่มีเส้นเลือดฝอยหลอดขาเข้า / ขาออกเงื่อนไขที่แต่ละองค์ประกอบ ( คอมเพรสเซอร์คอนเดนเซอร์ระเหยและหลอด capillary ) จะขึ้นอยู่กับขนาดของส่วนประกอบแต่ละตัว และมีเงื่อนไข buondary จริง ( อุณหภูมิ อัตราการไหลของของเหลวที่ระเหยและควบแน่น ) เพื่อความสมดุลของระบบจะมีผลต่อขาเข้าเงื่อนไขแต่ละองค์ประกอบและเงื่อนไขที่แท้จริงอาจจะไกลจากที่ปกติเหตุผลนี้มักจะใช้วิธีการภายใน R & D Labs สำหรับการออกแบบทางอุณหพลศาสตร์มีการคำนวณเบื้องต้นของขนาด / ความยาวขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของวรรณกรรมที่สภาวะปกติของระบบ แล้วจำลองและการทดสอบในเงื่อนไขเพิ่มเติม จะต้องตรวจสอบว่า ในช่วงของการประยุกต์ใช้ระบบ สารทำความเย็นที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ป้อนสารทำความเย็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงโดยยวดยิ่งสำหรับความทนทานของมัน นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายของสารทำความเย็นได้สามารถเลือกขึ้นอยู่กับสารทําความเย็นที่สภาวะการทำงานและปริมาตรของระบบ otherwhise C หลอดจะไม่ถูกเลี้ยงโดยของเหลวที่ใช้กับสภาพการทำงานที่ไม่เสถียรของระบบถ่ายลงในบัญชีสำหรับการเหล่านี้ทั้งหมดและยัง :- ความจริงที่ว่าสมการสำหรับขนาดของเส้นเลือดฝอยหลอดมีความถูกต้องจน- ความจริงที่เส้นผ่าศูนย์กลางของท่อดังกล่าวจะมีขนาดเล็ก ( น้อยกว่า 1.8 mm โดยปกติ ) และขนาดไว้ใจไม่ได้ทดลองใช้วิธีการลองผิดลองถูก ตามขั้นตอน reccommended ตามมาตรฐาน ส่วนคู่มือ ASHRAE ( แช่แข็ง ) รายงานขั้นตอนดังกล่าวการใช้ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดการทดลองในแลปบัญชีที่บนพื้นฐานงานวิจัยโปรดจากห้องปฏิบัติการของเราสองเส้นผ่าศูนย์กลาง / ยาวของอสรพิษ กับค่าใช้จ่ายและขนาดของคอมเพรสเซอร์ สารทำความเย็นจะมีผลต่อยวดประสิทธิภาพของปั๊มความร้อนหรือเย็น