In fact, what is routinely called “

In fact, what is routinely called “capitalism” is more accurately described as “consumerism,” wherein the customer is sovereign—those with the gold rule. While the marketing concept has existed for decades, it is regularly ignored because businesses routinely lose sight of the fact that the sole rea- son they exist is to serve customers outside of their four walls.
A company exists to serve real flesh-and-blood people, not some mass of demographics known as “the market.” As Stanley Marcus (the son of one of the founders of Neiman-Marcus) used to love to point out, no market ever purchased anything in one of his stores, but a lot of customers came in and bought things and made him a rich man. In the final analysis, a business does not exist to be efficient, control costs, perform cost accounting, or give people fancy titles and power over the lives of others. It exists to create results and wealth outside of itself. This profound lesson must not be forgotten.
Unfortunately, in many instances, this lesson has never been learned. The conventional wisdom in business is to buy low and sell high and measure the bottom line by the historical profit-and-loss statement, which any first-year accounting student can manipulate. Our 500-year-old accounting model is

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในความเป็นจริงสิ่งที่เรียกว่าเป็นประจำ "ทุนนิยม" อธิบายไว้ถูกต้องมากขึ้นเป็น "บริโภค" นั้นลูกค้าเป็นกษัตริย์เหล่านั้นด้วยกฎทอง ในขณะที่แนวคิดการตลาดมีมานานหลายสิบปีก็จะถูกละเว้นอย่างสม่ำเสมอเนื่องจากธุรกิจประจำสูญเสียสายตาของความจริงที่ว่า แต่เพียงผู้เดียวเรียลูกพวกเขาอยู่คือการให้บริการลูกค้าที่อยู่นอกสี่ผนังของพวกเขา.
บริษัท ที่มีอยู่เพื่อให้บริการประชาชนเนื้อและเลือดจริงไม่มวลของประชากรที่รู้จักกันเป็นบางส่วน "ตลาด." เป็น stanley marcus (ลูกชายของหนึ่งในผู้ก่อตั้งนีแมนมาร์คัส) ที่ใช้ในการรักที่จะชี้ให้เห็นในตลาดไม่มี เคยซื้ออะไรในร้านค้าของเขา แต่จำนวนมากของลูกค้าเข้ามาซื้อและสิ่งที่ทำให้เขาเป็นคนร่ำรวย ในการวิเคราะห์สุดท้ายธุรกิจไม่ได้อยู่ที่จะมีประสิทธิภาพการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินการบัญชีค่าใช้จ่ายหรือให้คนชื่อแฟนซีและมีอำนาจเหนือชีวิตของผู้อื่น มันมีอยู่ในการสร้างผลงานและความมั่งคั่งด้านนอกของตัวเอง บทเรียนที่ลึกซึ้งนี้จะต้องไม่ถูกลืม.
แต่น่าเสียดายที่ในหลายกรณีบทเรียนนี้ไม่เคยได้รับการเรียนรู้ภูมิปัญญาดั้งเดิมในการดำเนินธุรกิจคือการซื้อต่ำและขายสูงและวัดบรรทัดด้านล่างโดยงบกำไรขาดทุนในอดีตซึ่งมีนักศึกษาการบัญชีปีแรกสามารถจัดการ แบบบัญชีของเรา 500 ปีเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในความเป็นจริง สิ่งเป็นประจำเรียกว่า "ทุนนิยม" จะอธิบายได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเป็นบริโภค "นิยม นั้นลูกค้ามีอธิปไตยเช่นมีกฎทอง ในขณะที่แนวคิดทางการตลาดมีอยู่สำหรับทศวรรษที่ผ่านมา มันเป็นประจำละเว้นเนื่องจากธุรกิจเป็นประจำเสียสายตาของความจริงที่ว่าแต่เพียงผู้เดียวสวทช.บุตรจะให้บริการลูกค้าภายนอกของผนัง 4.
บริษัทที่มีอยู่เพื่อคนจริงเนื้อ และเลือด ไม่ใช่มวลของลักษณะประชากรที่เรียกว่า "การตลาด" สแตนลีย์มาร์คัส (บุตรของหนึ่งในผู้ก่อตั้งของมาร์คัส Neiman) ใช้รักไป ไม่เคยซื้ออะไรในร้านของเขา แต่จำนวนมากของลูกค้าที่มาซื้อสิ่ง และทำให้เขาเป็นคนรวย ในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย ธุรกิจมีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุน การบัญชีต้นทุน หรือให้คนชื่อแฟนซีและพลังชีวิตของผู้อื่น มันมีอยู่เพื่อสร้างผลลัพธ์และทรัพย์สมบัติภายนอกเอง บทเรียนนี้ลึกซึ้งต้องไม่ถูกลืม
อับ ในหลายกรณี บทเรียนนี้มีไม่เคยรับรู้ ภูมิปัญญาดั้งเดิมในธุรกิจซื้อต่ำขายสูง และวัดสุดท้าย โดยงบกำไรขาดทุนย้อนหลัง ซึ่งนักเรียนบัญชีปีแรกสามารถจัดการได้ โมเดลของเราบัญชี 500 ปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในความเป็นจริงแล้วเป็นประจำคืออะไรเรียกว่า"ระบบทุนนิยม"เป็นได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้นตามที่อธิบายไว้ใน"ลัทธิ บริโภค นิยม"ซึ่งลูกค้าที่เป็นรัฐบาลที่มีกฎข้อที่สีทอง ในขณะที่แนวความคิดด้านการตลาดที่มีอยู่หลายทศวรรษที่ผ่านมาอันนี้อยู่เป็นประจำไม่สนใจเนื่องจากองค์กรธุรกิจเป็นประจำไม่เห็นของจริงที่แต่เพียงผู้เดียวก็พร้อมที่จะพัฒนาต่อไป - บุตรชายที่มีอยู่คือการให้บริการลูกค้าอยู่นอกกำแพงของพวกเขา.
ที่บริษัทมีอยู่แล้วในการให้บริการอย่างแท้จริงเนื้อและเลือดคน,ไม่ขนส่งมวลชนของข้อมูลทั่วไปของรู้จักกันในชื่อ"ที่ตลาด"สแตนลีย์ Marcus (ที่บุตรชายของหนึ่งในผู้ก่อตั้งของ neiman-marcus )ที่ใช้ในการรักที่จะจุดออกมา,ไม่มีตลาดไม่เคยซื้ออะไรที่หนึ่งในร้านของเขาแต่เป็นจำนวนมากของลูกค้ามาในและซื้อและทำให้เขาร่ำรวย. ในการวิเคราะห์สุดท้ายธุรกิจที่ไม่มีการทำงานอย่างมี ประสิทธิภาพ การควบคุมค่าใช้จ่ายในการจัดการการบัญชีต้นทุนหรือทำให้ผู้คนและการใช้พลังงานมากกว่าชื่อคิดว่าชีวิตความเป็นอยู่ของผู้อื่น มันมีอยู่แล้วเพื่อสร้างความมั่งคั่งและผลทางด้านนอกของตัวมันเอง บทเรียนอันลึกซึ้งนี้จะต้องไม่ถูกลืมไปแล้ว.
เป็นที่น่าเสียดายว่าในหลายกรณีบทเรียนนี้ยังไม่เคยรับการเรียนรู้พระปรีชาสามารถในการดำเนินธุรกิจทั่วไปคือการซื้อและขายสูงต่ำและวัดสายด้านล่างโดยกำไรและขาดทุนทางประวัติศาสตร์ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนนักศึกษาปีแรกที่สามารถปรับเปลี่ยน รุ่นคิดเป็นสัดส่วน 500 ปีของเราคือ
ตามมาตรฐาน