โซอิชิโร ฮอนดะ (Soichiro Honda)
เจ้าของธุรกิจรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น "ฮอนด้า" ที่เรารู้จักกันดี ผู้ต้องล้มลุกคลุกคลานในวงการธุรกิจก่อนจะกลายเป็นนักธุรกิจพันล้านเช่นทุกวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเขาเองเคยเดินเข้าสัมภาษณ์งานกับบริษัทคู่แข่งอย่าง โตโยต้า มาก่อนในตำแหน่งวิศวกร ก่อนถูกปฏิเสธงานไป ซึ่งทำให้เขาต้องเดินเตะฝุ่นอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเริ่มสร้างรถสกู็ตเตอร์ด้วยตัวเองที่บ้าน และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน โซ อิชิโรฮอนด้าเกิดอยู่ในหมู่บ้านโคเมียวอำเภออิวาตะแถบชานเมืองประเทศญี่ปุ่น เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัวฮอนด้าซึ่งมีอาชีพช่างตีเหล็กมาหลายชั่วอายุคน ครอบครัวของโซอิชิโรมีฐานะปานกลางทำให้ตอนเด็กโซอิชิโรมีโอกาสได้เรียน หนังสือจนจบชั้นประถม โซอิชิโรเป็นเด็กที่หัวไวแต่ฉลาดแกมโกงครั้ง หนึ่งเขาได้แอบตีระฆังสัญญาณบอกเวลาเที่ยงก่อนเวลา1ชั่วโมงเพื่อจะได้ทาน มื้อเที่ยงก่อนเวลาเนื่องจากโซอิชิโรรู้สึกหิวข้าวมาก ด้วยความที่โซอิชิโรเป็นเด็กซุก ซนทำให้ก่อเรื่องอยู่เป็นประจำซึ่งเวลาที่ถูกลงโทษผู้ที่เข้ามาช่วยอยู่เสมอ คือคุณย่า
ช่วง เริ่มต้นโซอิชิโรดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดที่ต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาต้อง นำหน้าคนอื่นอยู่เสมอโดยงานที่ไม่มีใครทำเขาจะทำโซอิชิโรได้พยายามพันไดนาโม ใหม่จนสำเร็จสามารถชาร์จไฟได้ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นงานที่ไม่มีใครทำใน ญี่ปุ่นเพราะถ้าทำอะไรเหมือนคนอื่นชื่อเสียงของบริษัทอาร์ตต้องเสื่อมแน่ ซึ่งโซอิชิโรมักไม่พอใจในสภาพปัจจุบันเขาจะหมั่นปรับปรุงอยู่เสมอโดยต่อมาโซ อิชิโรได้ปรับปรุงซี่ล้อไม้ซึ่งบิดเบี้ยวง่ายไหม้ง่ายและยังใช้ไม่สะดวก เปลี่ยนมาทำซี่ล้อด้วยโลหะหล่อแทนซึ่งซี่ล้อเหล็กที่โซอิชิโรคิดค้นขึ้นนั้น ได้รับคำชมเชยมากเมื่อส่งไปในงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมแห่งชาติและยังผลิตส่ง ออกไปขายถึงประเทศอินเดีย จุดพลิกผันของธุรกิจ หลัง จากเมืองฮานามัตษุได้ถูกกองทัพอเมริกันทิ้งระเบิดอย่างหนักหน่วงจนกระทั่ง ถูกไหม้รายเป็นหน้ากลองสงครามก็ได้สิ้นสุดลงโซอิชิโรก็ขายสิทธิ์ในกิจการ บริษัทไทโกเซกิให้กับบริษัทโตโยดะไปหมดสิ้นและเขาได้เริ่มใช้ชีวิตเที่ยว เล่นตามสบายที่บ้านเดิมของภรรยาแต่ไม่นานนักโซอิชิโรก็เริ่มเบื่อการเที่ยว เล่นและเขาได้ซื้อโรงงานร้างจากบ้านเกิดและนำมาสร้างใหม่บนที่ดินของบริษัท โทโกเซกิเดิมที่เมืองฮานามัตษุและขึ้นป้ายในนามของ“สถานวิจัยเทคโนโลยี ฮอนด้า”ขึ้นมาโซอิชิโรได้ลองผิดลองถูกมาตลอดในการหาว่าจะผลิตสินค้าอะไรดีจน กระทั่งวันหนึ่งโซอิชิโรได้ผลิตรถจักรยานติดเครื่องยนต์ออกมาจำหน่ายและตลาด ได้ตอบรับรถจักรยานติดเครื่องยนต์นี้อย่างมากโดยมีการสั่งซื้อจนสถานวิจัย เทคโนโลยีฮอนด้าผลิตให้ไม่ทันทำให้สถานวิจัยฮอนด้าต้องจ้างพนักงาน12คนและทำ งานเต็มกำลังทุกวัน ต่อมาชื่อเสียงของรถจักรยานติดเครื่องยนต์ขจรขจายก็เริ่มมีผู้ผลิตเลียนแบบแต่ทว่า โซ อิชิโรได้พยายามไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเสมอด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ติดรถ จักรยานแบบAขึ้นมาด้วยตนเองและต่อมาก็ได้พัฒนาจนสามารถผลิตรถจักรยานยนต์ รุ่นแรกของบริษัท(รุ่นDreamD)ออกมาจำหน่ายได้แม้ว่ายอดขายรถDreamDจะดีแต่ก็ ไม่สามารถเก็บเงินจากการขายสินค้าไปแล้วได้เป็นจำนวนมากจนกระทั่งมีเพื่อน สนิทซึ่งเข้าใจสภาพทางด้านการขายของบริษัทฮอนด้าแนะนำให้โซอิชิโรได้รู้จัก กับฟุจิซาวะซึ่งมีความสามารถทางด้านธุรกิจอย่างมากมาเป็นผู้ร่วมงานและช่วย วางรากฐานให้กับบริษัททั้งในด้านการจัดหาทุนเพื่อขยายและวางเครือข่ายการจัด จำหน่ายที่ดีให้แก่บริษัทฮอนด้าทำให้ช่วยลดภาระของโซอิชิโรลงได้อย่างมากและ ช่วยให้เขาได้ใช้พรสวรรค์ที่มีอย่างเต็มที่ในการพัฒนารถของฮอนด้าซึ่งต่อมา โซอิชิโรก็สามารถคิดค้นรถจักรยานยนต์รุ่นDreamซึ่งใช้เครื่องยนต์แบบ E(4จังหวะ146ซีซี)และรถจักรยานยนต์ติดเครื่องยนต์รุ่นใหม่CABF(เครื่องยนต์ 50ซีซี1.2แรงม้า)ออกมาได้โดยรถจักรยานยนต์2รุ่นนี้ของฮอนด้าได้รับความนิยม สูงมากทำให้โรงงานเดิมมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอโซอิชิโรจึงต้องสร้างโรงงาน ใหม่เพิ่มขึ้นและมีการลงทุนด้านอุปกรณ์และเครื่องจักรอย่างมโหฬารส่งผลให้ บริษัทฮอนด้าได้กลายมาเป็นบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ญี่ปุ่นได้ในที่สุด
แหล่งที่มา:http://www.metukyang.com