Despite India according the MFN sta

Despite India according the MFN status to Pakistan in 1996, Basit said his country had been reluctant to reciprocate owing to the "massive" adverse balance of trade with India.

"Bilateral trade now stands at $2.7 billion with Pakistan export to India accounting just $0.4 billion. While we would certainly like to see the bilateral trade to grow, there are practical problems that need to be sorted out.

"There's visa problems, connectivity is very poor, and then there are the non-tariff barriers. So, if there is a political will, then all these can be sorted out. That is why it is imperative for the dialogue process to resume and continue," he said.

Lamenting poor connectivity, Basit also called for enhancing investment opportunities in both countries.

"It's not only trade, what is imperative is we need to create investment opportunities in both the countries. At present such opportunities are almost negligible. I would also urge Indian government and private airlines to resume and start operations to and from Pakistan. Right now we have just three flights connecting India and Pakistan," he noted.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ มีอินเดีย ตามสถานะ MFN กับปากีสถานในปี 1996, Basit กล่าวว่า ประเทศของเขาได้สนอง เพราะ "ใหญ่" ร้ายดุลการค้ากับอินเดียไม่"ค้าทวิภาคีขณะยืนที่ $2.7 พันล้านกับการส่งออกของปากีสถานอินเดียบัญชีเพียง 0.4 พันล้านเหรียญ ในขณะที่เราแน่นอนอยากดูการค้าทวิภาคีจะเติบโต มีปัญหาทางปฏิบัติที่จำเป็นต้องเรียงลำดับออก"มีปัญหาวีซ่า การเชื่อมต่อยาก และมีอุปสรรคไม่ใช่ภาษี ดังนั้น ถ้าอยู่เมือง แล้วทั้งหมดนี้สามารถจะแยกออก นั่นคือเหตุผลที่มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกระบวนการเจรจาเพื่อดำเนินต่อ และต่อ, "เขากล่าวว่าเสียใจจนเชื่อมต่อ Basit เรียกว่าเพิ่มโอกาสลงทุนในประเทศทั้งสอง"มันไม่ใช่เฉพาะทางการค้า ความจำเป็นคือ เราต้องสร้างโอกาสในการลงทุนในทั้งสองประเทศ มี โอกาสดังกล่าวเป็นระยะเกือบ นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังจะขอให้รัฐบาลอินเดียและสายการบินส่วนตัวเพื่อสมัครงาน และเริ่มดำเนินการ และ จากปากีสถาน ตอนนี้เรามีเพียงสามเที่ยวบินเชื่อมต่ออินเดียและปากีสถาน เขากล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้จะมีอินเดียตามสถานะ MFN ปากีสถานในปี 1996 ซิตกล่าวว่าประเทศของเขาได้รับการลังเลที่จะตอบสนองเนื่องจาก "ใหญ่" ความสมดุลที่ไม่พึงประสงค์ของการค้ากับอินเดีย. "การค้าทวิภาคีขณะนี้อยู่ที่ $ 2700000000 กับการส่งออกปากีสถานอินเดียคิดเป็นสัดส่วนเพียง $ 0400000000 . ในขณะที่แน่นอนเราต้องการที่จะเห็นการค้าทวิภาคีที่จะเติบโตมีปัญหาในทางปฏิบัติที่จะต้องมีการแยกออก. "มีปัญหาการขอวีซ่าการเชื่อมต่อเป็นที่น่าสงสารมากและก็มีปัญหาและอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี ดังนั้นถ้ามีเจตจำนงทางการเมืองแล้วทั้งหมดเหล่านี้สามารถจะแยกออก นั่นคือเหตุผลที่มันเป็นความจำเป็นสำหรับกระบวนการเจรจาเพื่อดำเนินการและดำเนินการต่อ "เขากล่าว. เสียใจการเชื่อมต่อที่ไม่ดีซิตนอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการเสริมสร้างโอกาสในการลงทุนในทั้งสองประเทศ." มันไม่ใช่การค้าเพียงสิ่งที่มีความจำเป็นคือเราต้องสร้างโอกาสในการลงทุน ในทั้งสองประเทศ ในโอกาสดังกล่าวปัจจุบันเล็กน้อยเกือบ ฉันยังอยากขอร้องให้รัฐบาลอินเดียและสายการบินเอกชนที่จะกลับมาและเริ่มดำเนินการไปและกลับจากประเทศปากีสถาน ตอนนี้เรามีเพียงสามเที่ยวบินเชื่อมต่ออินเดียและปากีสถาน "เขาตั้งข้อสังเกต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้อินเดียตามสถานะ MFN ปากีสถานในปี 1996 , เบซิตกล่าวว่าประเทศของเขาได้รับการลังเลที่จะตอบสนองด้วยการ " ใหญ่ " ไม่สมดุลของการค้ากับอินเดีย

" ทวิภาคีการค้า ตอนนี้ยืนที่ $ 2.7 พันล้านกับปากีสถานส่งออกไปอินเดียบัญชีเพียง $ 0.4 พันล้าน ในขณะที่เราอย่างแน่นอนจะชอบที่จะเห็นการค้าเติบโตมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องแยกออกมาแล้ว

" มีปัญหาวีซ่า , การเชื่อมต่อที่ดีมาก และก็มีอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี . ดังนั้น ถ้าจะมีทางการเมืองแล้ว ทั้งหมดเหล่านี้สามารถจัดเรียงออก นั่นคือเหตุผลที่มันเป็นความจำเป็นสำหรับกระบวนการเจรจาต่อ และต่อไป " เขากล่าว

และการเชื่อมต่อที่ไม่ดีเบซิทเรียกว่าเพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนในประเทศทั้งสอง

" มันไม่เพียง แต่การค้า มีอะไรขวางอยู่ เราต้องสร้างโอกาสการลงทุนในทั้งสองประเทศ ปัจจุบันโอกาสดังกล่าวเกือบจะกระจอก ฉันก็ยังเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียและสายการบินเอกชนที่จะกลับมาและเริ่มปฏิบัติการและจากปากีสถานตอนนี้เรามีแค่สามเที่ยวบินอินเดียและปากีสถาน , " เขากล่าว .