FINDINGSThe average age of the part

FINDINGS
The average age of the participating nurses was 24.7 ± 3.58 years, and the majority of these were women
(96.6%). 55.5% of the nurses were working in pediatric inpatient wards. More than half of the nurses (69.9%)
stated that they had been working in a pediatric inpatient ward for 1–5 years. 52.1% of the nurses stated
that they were caring for 1–5 patients per shift, more than half of the nurses (63%) stated that a typical shift
involved continuous work for 48–50 hours (Table 1)


As shown in Table 2, nurses’ opinions regarding the primary causes of medication errors were predominantly
long work hours (68.1%), a high patient/nurse ratio (58.8%), and unavailability of medications in dosages
and forms appropriate for pediatric patients (56.3%).



From the compiled results it was estimated that, overall, only 47.9% of medication errors were notified.
Among the reasons given for not notifying errors, potential blaming of nurses was the most common response
(52.9%). The rate of notification was significantly higher among intensive care nurses than among service
nurses (t = 5.98; P = 0.01), and also among nurses looking after 1–5 patients (t = 4.78; P = 0.01) than for
nurses caring for an average of 6–10 patients (Table 4). There were no statistically significant differences in
notification rates according to age, years of work experience, or working hours (P > 0.05).


Regarding avoidance of medication errors, a substantial proportion of nurses (45.4%) emphasized the importance
of formal instructions accompanying medications that provide details of recommended use including typical
dosage schedules, patient exclusions and potential adverse reactions (Table 5). This suggestion was followed
by reducing the patient/nurse ratio (19.3%) and reducing work hours (16.8%) (Table 5).


CONCLUSION
The rate of medication errors is largely governed by human factors that, despite current developments in
informatics and computer technology, are not easily amenable to monitoring. Errors in medication administration
compromise patient safety and can increase morbidity and mortality. Pediatric patients are relatively vulnerable
compared to adults, reflecting their incomplete physiological development, and children are therefore more
likely to be adversely affected by medication errors. Pediatric nurses have a key role in monitoring, notifying
and avoiding medication errors. The perspective of pediatric nurses regarding medication errors is therefore
an important foundation point for developing strategies to avoid medication errors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการศึกษาอายุเฉลี่ยของพยาบาลร่วม 24.7 ±ปี 3.58 และส่วนใหญ่ ผู้หญิง(96.6%) . 55.5% ของพยาบาลทำงานในหอผู้ป่วยผู้ป่วยในเด็ก มากกว่าครึ่งหนึ่งของพยาบาล (69.9%)ระบุว่า พวกเขาได้ทำงานใน ward ผู้ป่วยในเด็ก 1-5 ปี 52.1% ของพยาบาลที่ระบุไว้ว่า พวกเขามีการดูแลผู้ป่วย 1-5 ต่อกะ มากกว่าครึ่งหนึ่งของพยาบาล (63%) ระบุไว้ที่กะทั่วไปทำงานต่อเนื่องเกี่ยว 48-50 ชั่วโมง (ตาราง 1)ดังแสดงในตารางที่ 2 คิดเห็นของพยาบาลเกี่ยวกับสาเหตุหลักของข้อผิดพลาดยาเป็นส่วนใหญ่ชั่วโมง (68.1%), อัตราความสูงผู้ป่วย/พยาบาล (58.8%), การทำงานนาน และไม่พร้อมใช้งานของยาในปริมาณที่และรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเด็ก (56.3%) จากผลการรวบรวมประมาณ นั้น ทั้งหมด เฉพาะ 47.9% ผิดพลาดยาได้รับแจ้งเหตุผลได้รับการแจ้งให้ทราบข้อผิดพลาดไม่ได้ อาจเกิดโทษของพยาบาลคือ การตอบสนองทั่วไป(52.9%) อัตราของการแจ้งเตือนเป็นนัยสำคัญระหว่างพยาบาลอภิบาลกว่าหมู่บริการพยาบาล (t = 5.98 P = 0.01), และยัง หมู่พยาบาลดูแลผู้ป่วย 1-5 (t = 4.78 P = 0.01) กว่าสำหรับพยาบาลดูแลผู้ป่วย 6-10 (ตาราง 4) ค่าเฉลี่ย มีความแตกต่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติในแจ้งราคาตามอายุ ปี ประสบการณ์การทำงานหรือชั่วโมงทำงาน (P > 0.05)เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดยา เป็นสัดส่วนของพยาบาล (45.4%) เน้นความสำคัญคำแนะนำอย่างเป็นทางการมาพร้อมกับยาที่ให้รายละเอียดแนะนำให้ใช้รวมถึงทั่วไปตารางการให้ยา ยกเว้นผู้ป่วย และอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ (ตาราง 5) ตามมาแนะนำโดยลดอัตราผู้ป่วย/พยาบาล (19.3%) และลดชั่วโมงทำงาน (16.8%) (ตาราง 5)สรุปอัตราการใช้ยาผิดพลาดส่วนใหญ่จะถูกควบคุมโดยมนุษย์ปัจจัยที่ แม้ มีการพัฒนาในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ จะไม่คล้อยตามได้อย่างง่ายดายเพื่อการตรวจสอบ ข้อผิดพลาดในการบริหารยาประนีประนอมความปลอดภัยผู้ป่วย และสามารถเพิ่มการเจ็บป่วยและตาย ผู้ป่วยเด็กที่มีความเสี่ยงค่อนข้างเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการทางสรีรวิทยาไม่สมบูรณ์ และเด็กดังนั้นจึงเพิ่มเติมแนวโน้มที่จะถูกผลกระทบจากข้อผิดพลาดของยา เด็กพยาบาลมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบ แจ้งและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการใช้ยา ดังนั้นจึงเป็นมุมมองของเด็กพยาบาลเกี่ยวกับยาข้อผิดพลาดจุดสำคัญพื้นฐานสำหรับการพัฒนากลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการใช้ยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อค้นพบ
อายุเฉลี่ยของพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการเป็น 24.7 ± 3.58 ปีและส่วนใหญ่เหล่านี้เป็นผู้หญิง
(96.6%) 55.5% ของพยาบาลที่ทำงานในหอผู้ป่วยผู้ป่วยเด็ก มากกว่าครึ่งหนึ่งของพยาบาล (69.9%)
ระบุว่าพวกเขาได้รับการทำงานในแผนกผู้ป่วยในเด็ก 1-5 ปีที่ผ่านมา 52.1% ของพยาบาลที่ระบุ
ว่าพวกเขากำลังดูแลผู้ป่วยต่อการเปลี่ยนแปลง 1-5 มากกว่าครึ่งหนึ่งของพยาบาล (63%) ระบุว่ามีการเปลี่ยนแปลงโดยทั่วไป
ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานอย่างต่อเนื่องสำหรับ 48-50 ชั่วโมง (ตารางที่ 1)


ดังแสดงในตารางที่ 2 ความคิดเห็นของพยาบาลเกี่ยวกับสาเหตุหลักของความคลาดเคลื่อนทางยาส่วนใหญ่เป็น
ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน (68.1%) ผู้ป่วยสูง / อัตราส่วนพยาบาล (58.8%) และความไม่พร้อมของยาในปริมาณ
และรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเด็ก (56.3%).



จาก ผลการรวบรวมมันเป็นที่คาดว่าโดยรวมเพียง 47.9% ของความคลาดเคลื่อนทางยาได้รับแจ้ง.
เหตุผลที่ได้รับไม่ได้แจ้งข้อผิดพลาดที่อาจเกิดโทษของพยาบาลคือการตอบสนองที่พบมากที่สุด
(52.9%) อัตราการแจ้งเตือนอย่างมีนัยสำคัญของพยาบาลดูแลอย่างเข้มข้นกว่าในหมู่บริการ
พยาบาล (t = 5.98; p = 0.01) และยังอยู่ในหมู่พยาบาลดูแลผู้ป่วย 1-5 (t = 4.78; p = 0.01) จะสูงกว่า
พยาบาลสำหรับดูแล ค่าเฉลี่ยของผู้ป่วยที่ 6-10 (ตารางที่ 4) มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติใน
อัตราการแจ้งเตือนตามอายุปีมีประสบการณ์การทำงานหรือชั่วโมงการทำงาน (p> 0.05).


เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดยาสัดส่วนของพยาบาล (45.4%) เน้นความสำคัญ
ของคำสั่งอย่างเป็นทางการพร้อมกับยา ที่ให้รายละเอียดของการใช้งานรวมทั้งแนะนำทั่วไป
ตารางปริมาณการยกเว้นผู้ป่วยและอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น (ตารางที่ 5) ข้อเสนอแนะนี้ตามมา
ด้วยการลดผู้ป่วย / อัตราส่วนพยาบาล (19.3%) และการลดชั่วโมงการทำงาน (16.8%) (ตารางที่ 5).


สรุปผลการศึกษา
อัตราความคลาดเคลื่อนทางยาเป็นหน่วยงานส่วนใหญ่โดยปัจจัยมนุษย์ว่าแม้จะมีการพัฒนาในปัจจุบันใน
สารสนเทศและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ จะไม่ได้อย่างง่ายดายคล้อยตามการตรวจสอบ ข้อผิดพลาดในการบริหารยาที่
ปลอดภัยของผู้ป่วยการประนีประนอมและสามารถเพิ่มเจ็บป่วยและการตาย ผู้ป่วยเด็กที่มีความเปราะบาง
เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาทางสรีรวิทยาของพวกเขาไม่สมบูรณ์และเด็กดังนั้นจึงมี
แนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากข้อผิดพลาดของการใช้ยา พยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบการแจ้งเตือน
และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของการใช้ยา มุมมองของพยาบาลเด็กเกี่ยวกับข้อผิดพลาดยาจึงเป็น
จุดเชื่อมต่อการวางรากฐานที่สำคัญในการพัฒนากลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของการใช้ยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อมูลอายุเฉลี่ยของการ พยาบาลก็± 3.58 24.7 ปี และส่วนใหญ่ของเหล่านี้เป็นผู้หญิง( 96.6 % ) 55.5 % ของพยาบาลที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยเด็ก หอผู้ป่วย มากกว่าครึ่งหนึ่งของพยาบาล ( 69.9 )กล่าวว่าพวกเขาได้ทำงานในหอผู้ป่วยเด็ก 1 - 5 ปี ภาคใต้ของพยาบาล ระบุที่พวกเขาดูแล 1 – 5 คน / กะ มากกว่าครึ่งหนึ่งของพยาบาล ( 63% ) ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับงานต่อเนื่อง 48 - 50 ชั่วโมง ( ตารางที่ 1 )ดังแสดงในตารางที่ 2 ความคิดเห็นของพยาบาลเกี่ยวกับสาเหตุหลักของความคลาดเคลื่อนในการใช้ยาเป็นเด่นชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน ร้อยละ 68.1 อัตราส่วนผู้ป่วย พยาบาลสูง ( 58.8 % ) และ unavailability ของยาในยาและรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเด็ก ( 56.3 % )จากการรวบรวมผลมันคือประมาณว่าโดยรวมเพียง 47.9 % ของความคลาดเคลื่อนในการใช้ยาได้รับแจ้งแล้วระหว่างให้เหตุผลไม่แจ้งข้อผิดพลาด อาจเกิดโทษของพยาบาลคือการตอบสนองที่พบบ่อยที่สุด( 52.9 % ) อัตราประกาศสูงกว่าของพยาบาลเข้มข้นกว่าของบริการพยาบาล ( t = 5.98 ; p = 0.01 ) และพยาบาลดูแลผู้ป่วย 1 – 5 ( t = 4.78 , p = 0.01 ) กว่าพยาบาลดูแลผู้ป่วยเฉลี่ย 6 – 10 ( ตารางที่ 4 ) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในแจ้งราคาตามอายุ ประสบการณ์ทำงาน หรือทำงาน ( P > 0.05 )เกี่ยวกับการบดบังของความคลาดเคลื่อนในการใช้ยา สัดส่วนมากของพยาบาลร้อยละ 45.4 เน้นความสำคัญเป็นทางการของคำสั่งประกอบที่ให้รายละเอียดของยารวมทั้งโดยทั่วไป แนะนำ ให้ ใช้ตารางการใช้ส่วนขยายของผู้ป่วยและอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น ( ตารางที่ 5 ) ข้อเสนอแนะนี้ได้ตามโดยการลดอัตราป่วย / พยาบาล ( ร้อยละ 22.4 ) และการลดชั่วโมงทำงาน ( ร้อยละ 16.8 ) ( ตารางที่ 5 )สรุปอัตราความคลาดเคลื่อนทางยาเป็นส่วนใหญ่ภายใต้ปัจจัยมนุษย์ที่แม้จะมีการพัฒนาในปัจจุบันสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยี ไม่ซูฮกได้อย่างง่ายดายเพื่อการตรวจสอบ . ความคลาดเคลื่อนในการบริหารยาประนีประนอมความปลอดภัยของผู้ป่วย และสามารถเพิ่มอัตราการเจ็บป่วยและการตาย ผู้ป่วยเด็กค่อนข้างเปราะบางเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการทางสรีรวิทยาของตนเองไม่สมบูรณ์ และเด็กมีมากขึ้นดังนั้นมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากยาผิดพลาด พยาบาลวิชาชีพ มีบทบาทสำคัญในการประกาศและหลีกเลี่ยงการใช้ยาผิด ความคิดเห็นของพยาบาลวิชาชีพเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนในการใช้ยา จึงเป็นจุดพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนากลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงยาผิดพลาด