Figure 6 shows the measured and sim

Figure 6 shows the measured and simulated VSWR characteristic
for the TEM horn antenna, displayed in Fig. 5. The simulated
performance was obtained using CST microwave studio simulator [22],
and measurements are accomplished using Agilent 8722ES network
analyzer. As shown, the measured and simulated VSWRs are similar to
each other. The measured results present that the proposed TEM horn
antenna has the frequency band of 1.45 to 14.20 GHz for VSWR ≤ 2.0.
The antenna gain and radiation pattern are measured in a fully
anechoic chamber. Fig. 7 shows measured E- and H-plane radiation
patterns at three different frequencies. As shown, at higher frequencies,
there is a fluctuation in radiation pattern; therefore the single main
lobe is split into two large side lobes that grow in an equally spaced
fashion around the 0◦
center axis while the main lobe appears to be
strongly indented. This can be due to the field distribution over the
aperture plane that has a destructive effect in the far field at the
broadside direction. The presence of these side lobes is particularly
problematic for EMC applications such as testing in an anechoic
chamber, which usually depend on a well-defined radiation pattern
with only a single main lobe. In the following section, a new method is
proposed to remove this drawback For frequencies below 10 GHz, the
radiation pattern looks as expected for a typical horn antenna, i.e., it
has one dominant main lobe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 6 แสดงให้เห็นถึงลักษณะ VSWR
วัดและจำลองสำหรับเสาอากาศฮอร์นTEM แสดงในรูปที่ 5.
จำลองประสิทธิภาพการทำงานที่ได้รับโดยใช้ไมโครเวฟจำลองสตูดิโอCST [22],
และการวัดจะทำได้โดยใช้เครือข่าย Agilent 8722ES
วิเคราะห์ ตามที่ปรากฏที่ VSWRs
วัดและจำลองคล้ายกับแต่ละอื่นๆ ผลการวัดในปัจจุบันว่าฮอร์น TEM
เสนอเสาอากาศมีความถี่ของ1.45-14.20 GHz สำหรับ VSWR ≤ 2.0.
กำไรเสาอากาศและรูปแบบการฉายรังสีจะถูกวัดอย่างเต็มที่ในห้อง anechoic
รูป 7 แสดงให้เห็นว่าวัดและ
E-H-เครื่องบินรังสีรูปแบบที่สามความถี่ที่แตกต่าง ตามที่ปรากฏที่ความถี่สูง,
มีความผันผวนในรูปแบบรังสี; ดังนั้นหลักเดียวกลีบแบ่งออกเป็นสองแฉกด้านข้างขนาดใหญ่ที่เติบโตในระยะห่างเท่า ๆ กันแฟชั่นรอบ0◦แกนศูนย์ขณะที่กลีบหลักดูเหมือนจะเยื้องอย่างยิ่ง นี้สามารถเกิดจากการกระจายสนามมากกว่าเครื่องบินรูรับแสงที่มีผลต่อการทำลายในเขตห่างไกลที่ทิศทางที่เอียงกระเท่เร่ การปรากฏตัวของกลีบข้างเคียงเหล่านี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสำหรับการใช้งานอีเอ็มซีเช่นการทดสอบใน anechoic ห้องซึ่งมักจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการฉายรังสีที่ดีที่กำหนดมีเพียงกลีบหลักเดียว ในส่วนต่อไปนี้เป็นวิธีการใหม่ที่มีการเสนอให้ลบอุปสรรคสำหรับความถี่นี้ต่ำกว่า 10 GHz ที่รูปแบบการฉายรังสีมีลักษณะตามที่คาดไว้สำหรับเสาอากาศฮอร์นโดยทั่วไปคือมันมีกลีบหลักที่โดดเด่น