There is the global recession in 20

There is the global recession in 2008-2009. US entered a severe recession. When the country face a recession problem, the government have to use expansionary fiscal policy to stimulate the economy by increase public spending and reduce taxes. But after spending a lot of money, they will have more debts. In 2011, US decided to cut deficit by reducing government spending and change the way to collect taxes and adjust the amount of welfare expenses and this might not be a good way in a recession time, but they should do like this to cut the debts to prevent bankruptcy

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถดถอยทั่วโลกในปี 2008-2009 ได้ สหรัฐอเมริกาป้อนถดถอยรุนแรง เมื่อประเทศประสบปัญหาภาวะถดถอย รัฐบาลได้ใช้นโยบายการคลังขยายตัวทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะ และลดภาษี แต่หลังจากการใช้จ่ายเงินจำนวนมาก พวกเขาจะมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ใน 2011 สหรัฐอเมริกาตัดสินใจตัดขาดดุล ด้วยการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล และการเปลี่ยนแปลงวิธีการเก็บภาษี และปรับปรุงยอดเงินของค่าใช้จ่ายสวัสดิการ และนี้อาจไม่ดีในเวลาถดถอย แต่พวกเขาควรทำเช่นนี้ให้ตัดหนี้ให้ล้มละลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีภาวะถดถอยทั่วโลกใน 2008-2009 คือ สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง เมื่อประเทศเผชิญกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รัฐบาลต้องใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายของประชาชนและการลดภาษี แต่หลังจากการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากที่พวกเขาจะมีหนี้มากขึ้น ในปี 2011 สหรัฐฯตัดสินใจที่จะลดการขาดดุลโดยการลดการใช้จ่ายภาครัฐและการเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดเก็บภาษีและปรับจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการและสิ่งนี้อาจจะไม่ได้เป็นวิธีที่ดีในภาวะถดถอยครั้ง แต่พวกเขาควรจะทำเช่นนี้จะตัดหนี้ให้กับ ป้องกันไม่ให้ล้มละลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีภาวะถดถอยทั่วโลกในปี 2551-2552 เราเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง เมื่อประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลต้องใช้นโยบายการคลังขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ และลดภาษี แต่หลังจากการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก พวกเขาจะมีหนี้มากขึ้น ใน 2011 ,เราตัดสินใจที่จะตัดการขาดดุลโดยการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล และการเปลี่ยนแปลงวิธีการเก็บภาษี และปรับสัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการ และนี่อาจเป็นวิธีที่ดีในยุโรป แต่พวกเขาควรทำเช่นนี้เพื่อตัดหนี้เพื่อป้องกันการล้มละลาย