Results: Three hundred ninety-six (

Results: Three hundred ninety-six (70%) study subjects had resective surgery. Clinical factors such as a well-localized magnetic resonance imaging (MRI) abnormality and consistently localized EEG findings were most strongly associated with having surgery. Of those who underwent intracranial monitoring (189, 34%), 85% went on to have surgery. Race/ethnicity and marital status were marginally associated with having surgery. Age, education, and employment status were not. Demographic factors had little influence over the surgical decision. More than half of the patients had intractable epilepsy for ≥10 years and five or more drugs had failed by the time they initiated their surgical evaluation. During the recruitment period, eight new antiepileptic drugs were approved by the Food and Drug Administration for use in the United States and came into increasing use in this study's surgical candidates. Despite the increased availability of new therapeutic options, the proportion that had surgery each year did not fluctuate significantly from year to year. This suggests that, in this group of patients, the new drugs did not provide a substantial therapeutic benefit.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์: สามร้อยเก้าสิบ - หก (70%) การศึกษาวัตถุมีผ่าตัด resective สุดขอเกี่ยวข้อง ด้วยเพราะปัจจัยทางคลินิกเช่นความผิดปกติของการถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กแปลดี (MRI) และภาษาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องผล eeg ตามเวลาจริงได้ ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบ intracranial (189, 34%), 85% ก็ยังมีการผ่าตัด แข่งขัน/เชื้อชาติและสถานภาพการสมรสเกี่ยวข้องกับการมีการผ่าตัดเล็กน้อย อายุ การศึกษา และสถานะการจ้างงานได้ไม่ ปัจจัยทางประชากรมีอิทธิพลน้อยกว่าการตัดสินใจผ่าตัด มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่มีโรคลมชักแพทย์ปี ≥10 และล้มเหลวในขณะที่พวกเขาเริ่มการทดลองผ่าตัดยาห้า หรือมากกว่า ในระหว่างรอบระยะเวลาการสรรหาบุคลากร ยา antiepileptic ใหม่แปดรับรองจากอาหารและยาสำหรับใช้ในสหรัฐอเมริกา และเข้าใช้ในการศึกษานี้ผู้ผ่าตัดที่เพิ่มขึ้นมา แม้ มีการเพิ่มจำนวนตัวเลือกรักษาที่ใหม่ สัดส่วนที่ได้ผ่าตัดในแต่ละปีไม่ได้ผันผวนอย่างมากจากปี นี้แสดงให้เห็นว่า ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ ยาใหม่ไม่ได้ให้ประโยชน์รักษาโรคพบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผล: สามร้อยเก้าหก (70%) การศึกษาวิชาได้รับการผ่าตัด resective ปัจจัยทางคลินิกเช่นดีที่มีการแปลด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) ความผิดปกติอย่างต่อเนื่องและมีการแปลผลการวิจัย EEG ถูกมากที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการมีการผ่าตัด ของผู้ที่เข้ารับการตรวจสอบสมอง (189, 34%) 85% ก็ยังมีการผ่าตัด การแข่งขัน / เชื้อชาติและสถานภาพสมรสมีความสัมพันธ์เล็กน้อยกับมีการผ่าตัด อายุการศึกษาและสถานะการจ้างงานไม่ได้ ปัจจัยทางด้านประชากรศาสตร์มีอิทธิพลน้อยกว่าการตัดสินใจผ่าตัด มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่มีโรคลมชักว่ายากสำหรับ≥10ปีและห้าหรือมากกว่ายาเสพติดล้มเหลวในเวลาที่พวกเขาเริ่มต้นการประเมินผลการผ่าตัดของพวกเขา ในช่วงระยะเวลาการรับสมัครแปดยากันชักใหม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสำหรับใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาและเข้ามาใช้เพิ่มขึ้นในผู้สมัครผ่าตัดของการศึกษาครั้งนี้ แม้จะมีความพร้อมใช้งานที่เพิ่มขึ้นของการรักษาตัวเลือกใหม่ตามสัดส่วนที่ได้รับการผ่าตัดในแต่ละปีไม่ได้มีความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญจากปีที่ปี นี้แสดงให้เห็นว่าในผู้ป่วยกลุ่มนี้ยาเสพติดใหม่ไม่ได้ให้ประโยชน์ในการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ