Finally, the third line of research

Finally, the third line of research, which has grown recently, deals with the use of GPS data of varying coverage levels that
provide a reliable source of information with great potential for speed monitoring. For example, Storey and Holtom (2003)
presented a United Kingdom application that uses historical data from different types of vehicles and concluded that GPS
speed measurements are more accurate than moving car observer measurements. Jiang (2001) studied the effect of road
work areas (on the Indiana freeway) on speed using a test vehicle equipped with a GPS. They estimated acceleration and
deceleration rates based on one-second time intervals. They affirmed that GPS data are more accurate than data obtained
using traffic counters. Greaves and Figliozzi (2008) used a GPS survey of commercial vehicles in Melbourne, Australia to obtain
profiles of truck speeds. Furthermore, Gurushinghe et al. (2002) reported the result of an empirical study made on a
probing field, which concluded that the accuracy of the data obtained using GPS technology was superior to that of the same
data obtained using conventional measurements.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สุดท้าย บรรทัดที่สามของงานวิจัย ที่ได้พัฒนาล่าสุด เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูล GPS ของแตกต่างกันระดับความครอบคลุมที่มีแหล่งน่าเชื่อถือของข้อมูลที่มีศักยภาพที่ดีสำหรับการตรวจสอบความเร็ว ตัวอย่าง ชั้นและ Holtom (2003)นำเสนอโปรแกรมประยุกต์สหราชอาณาจักรที่ใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากยานพาหนะชนิดต่าง ๆ และสรุป ว่า GPSวัดความเร็วจะถูกต้องมากกว่าการย้ายวัดแหล่งรถ เจียง (2001) ได้ศึกษาผลของถนนทำงานพื้นที่ (บนฟรีเวย์อินดีแอนา) กับความเร็วที่ใช้ทดสอบรถที่เพียบพร้อมไป ด้วยแหล่ง พวกเขาประเมินความเร่ง และอัตราชะลอตัวลงจากช่วงเวลาหนึ่งวินาที พวกเขายืนยันว่า ข้อมูล GPS จะถูกต้องมากกว่าการได้รับข้อมูลใช้ตัวนับการจราจร Greaves และ Figliozzi (2008) ใช้ GPS สำรวจยานพาหนะพาณิชย์ในเมลเบิร์น ออสเตรเลียจะได้รับโปรไฟล์ของความเร็วของรถบรรทุก นอกจากนี้ Gurushinghe et al. (2002) รายงานผลของการทำการศึกษาผลการโดยอาศัยฟิลด์ ซึ่งสรุปว่า ความถูกต้องของข้อมูลที่ได้โดยใช้เทคโนโลยี GPS จะที่เดียวกันข้อมูลที่ได้รับโดยใช้หน่วยวัดทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สุดท้ายบรรทัดที่สามของการวิจัยที่มีการปลูกเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของข้อมูล GPS ของระดับที่แตกต่างคุ้มครองที่
ให้เป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ของข้อมูลที่มีศักยภาพที่ดีสำหรับการตรวจสอบความเร็ว ตัวอย่างเช่นชั้นและ Holtom (2003)
นำเสนอแอพลิเคชันสหราชอาณาจักรที่ใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากประเภทที่แตกต่างกันของยานพาหนะและได้ข้อสรุปว่าจีพีเอส
วัดความเร็วมีความถูกต้องมากกว่าที่จะย้ายวัดสังเกตการณ์รถ เจียง (2001) ศึกษาผลของถนน
พื้นที่ทำงาน (บนทางด่วนอินดีแอนา) กับความเร็วในการใช้รถทดสอบการติดตั้งจีพีเอส พวกเขาคาดอัตราเร่งและ
อัตราการชะลอตัวขึ้นอยู่กับช่วงเวลาหนึ่งวินาที พวกเขายืนยันว่าข้อมูล GPS มีความถูกต้องมากกว่าข้อมูลที่ได้รับ
การจราจรโดยใช้เคาน์เตอร์ และสนับ Figliozzi (2008) ที่ใช้ในการสำรวจจีพีเอสของรถเพื่อการพาณิชย์ในเมลเบิร์น, ออสเตรเลียที่จะได้รับ
โพรไฟล์ของความเร็วรถ นอกจากนี้ Gurushinghe et al, (2002) รายงานผลจากการศึกษาเชิงประจักษ์ทำใน
สนามละเอียดซึ่งได้ข้อสรุปว่าถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับการใช้เทคโนโลยีจีพีเอสจะดีกว่าที่เดียวกัน
ข้อมูลที่ได้ใช้การวัดแบบเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สุดท้าย บรรทัดที่สามของการวิจัย ซึ่งมีขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลจีพีเอสที่แตกต่างกันครอบคลุมระดับที่
ให้เป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ของข้อมูลที่มีศักยภาพที่ดีสำหรับการตรวจสอบความเร็ว ตัวอย่างเช่น ชั้นและ โฮลท ( 2003 )
เสนอสหราชอาณาจักร โปรแกรมประยุกต์ที่ใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากประเภทที่แตกต่างกันของยานพาหนะและสรุปได้ว่า GPS
วัดความเร็วจะถูกต้องกว่าการวัดสังเกตการณ์เคลื่อนย้ายรถ เจียง ( 2544 ) ได้ศึกษาผลของพื้นที่ทำงานที่ถนน
( บนทางด่วนอินเดียน่า ) ในความเร็วที่ใช้ทดสอบรถที่ติดตั้ง GPS พวกเขาประเมินและอัตราการเร่ง
ขึ้นอยู่กับหนึ่งครั้งที่สองช่วงเวลา พวกเขากล่าวว่าข้อมูลจีพีเอสแม่นยำกว่าข้อมูล
ใช้เคาน์เตอร์จราจรกรีฟ และ figliozzi ( 2008 ) ที่ใช้ GPS ในการสำรวจของยานพาหนะเชิงพาณิชย์ในเมลเบิร์น ออสเตรเลีย เพื่อขอรับ
โปรไฟล์ของความเร็วรถบรรทุก นอกจากนี้ gurushinghe et al . ( 2002 ) รายงานผลของการศึกษาเชิงประจักษ์ที่ทำบน
ละเอียด ฟิลด์ ซึ่งสรุปได้ว่า ความถูกต้องของข้อมูล โดยใช้เทคโนโลยี GPS กว่าของข้อมูลเดียวกัน
ได้รับโดยใช้การวัดแบบดั้งเดิม