Lists types of defects on the x-axi

Lists types of defects on the x-axis and the frequency of occurrence (number of defective cases) on the y-axis. This is obviously borrowed from high-volume production as most projects would not have such high incidences of any defect. Milosevic [17], however, uses the X-axis of the Pareto diagram to describe different types of quality problems while Kloppenborg and Petrick [18] use the X-axis of the Pareto diagram to describe “data collected”. Unlike the PMBOK standard [23], these authors therefore expand the use of the diagram from analysis of defects (that is typical of operations management environments) to be more useful on most types of project.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แสดงรายการชนิดของข้อบกพร่องบนแกน x และความถี่ของการเกิด (จำนวนคดีที่มีข้อบกพร่อง) ในแกน y นี้จะเห็นได้ชัดที่ยืมมาจากการผลิตในปริมาณสูงที่สุดเท่าที่โครงการส่วนใหญ่จะไม่ได้อุบัติการณ์ดังกล่าวสูงของข้อบกพร่องใด ๆ milosevic [17] อย่างไรก็ตามใช้แกนของแผนภาพพาเรโตที่จะอธิบายความแตกต่างของปัญหาคุณภาพในขณะที่ Kloppenborg และ petrick [18] ใช้แกนของแผนภาพพาเรโตที่จะอธิบาย "ข้อมูลที่รวบรวม" ซึ่งแตกต่างจากมาตรฐาน PMBOK [23],ผู้เขียนเหล่านี้จึงขยายการใช้แผนภาพจากการวิเคราะห์ข้อบกพร่อง (ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสภาพแวดล้อมการจัดการการดำเนินงาน) จะเป็นประโยชน์มากขึ้นในเกือบทุกประเภทของโครงการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แสดงชนิดของข้อบกพร่องบนแกน x และความถี่ของเหตุการณ์ (จำนวนกรณีชำรุด) บนแกน y ยืมนี้อย่างชัดเจนมาจากปริมาณผลิต ตามโครงการส่วนใหญ่จะมี incidences เช่นสูงของความบกพร่องใด ๆ Milosevic [17], แต่ ใช้แกนของ Pareto แผนภาพเพื่ออธิบายชนิดต่าง ๆ ของปัญหาด้านคุณภาพในขณะที่ Kloppenborg และ Petrick [18] ใช้แกนของ Pareto แผนภาพเพื่ออธิบาย "เก็บข้อมูล" ซึ่งแตกต่างจากมาตรฐาน PMBOK [23], ดังนั้นผู้เขียนเหล่านี้ขยายการใช้ไดอะแกรมจากการวิเคราะห์ความบกพร่อง (ที่เป็นปกติของการดำเนินการจัดการสภาพแวดล้อม) มีประโยชน์ในชนิดของโครงการส่วนใหญ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แสดง ประเภท ของความบกพร่องใน X - แกนและความถี่ของการเกิด(หมายเลขของกรณีมีข้อบกพร่อง)บนแกน Y โรงแรมแห่งนี้คือขอยืมเงินมาจากการผลิตระดับสูงการที่โครงการมากที่สุดจะไม่มีจัดหาอาหารสูงเช่นมีข้อบกพร่องใดๆอย่างเห็นได้ชัด รักษาระเบียบ[ 17 ]อย่างไรก็ตามใช้ X - แกนของแผนผัง pareto ที่จะอธิบายถึง ประเภท ที่แตกต่างกันไปของปัญหาเกี่ยวกับ คุณภาพ ของในขณะที่ kloppenborg และ petrick [ 18 ]ใช้ X - แกนของแผนผัง pareto ที่จะอธิบายถึง"ข้อมูลที่เก็บรวบรวม" ไม่เหมือนกับมาตรฐาน pmbok [ 23 ]ผู้เขียนเหล่านี้จึงขยายการใช้ ภาพ นี้จากการวิเคราะห์ของข้อบกพร่อง(ที่มีลักษณะตามแบบอย่างของ สภาพแวดล้อม ในการบริหารงานจะมีประโยชน์มากกว่าในเกือบทุก ประเภท ของโครงการ