Gamma irradiation is an ionic, non-

Gamma irradiation is an ionic, non-heating, processing technology. It has long been used to protect products from insect infestation and microbial contamination during storage and extraction, and to extend the shelf life of foods and medicines (Sabato et al., 2009). Currently, gamma irradiation has become well known as a very convenient tool for the modification of polymer materials through cross-linking, grafting and degradation techniques. This method significantly increases the mechanical properties of films by including cross-links between the starch chains. In addition, gamma irradiation as a cost-lowering and environmentally-friendly alternative method has been widely applied to produce modified starch.

Some researchers have been investigating the effect of gamma irradiation on the properties of starch films. Kim et al. (2008) studied the effect of gamma irradiation on the physicochemical properties of starch based film. They found that using gamma irradiation in aqueous starch based blends resulted in intact and smooth films. The tensile strength of the film increased at the highest value at 3 kGy and its percent elongation was 85% higher than its non-irradiated starch film. Furthermore, water vapor permeability of the starch based film was also improved by gamma irradiation. According to these results, gamma irradiation can be a useful tool as a cross-linking agent of starch to improve the functional properties of a starch based film if the optimum irradiation dose is applied. Akter et al. (2012) found that properties of starch and chitosan blend film could improved by using gamma radiation at optimum doses. The improvement of the mechanical and barrier properties of irradiated blend films resulted from the promoting of the cross-linking of polymer during the exposure to radiation. In addition, they concluded that gamma radiation was found to be an excellent method for grafting and cross-linking of synthetic and biodegradable films for packaging.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการฉายรังสีแกมมาคือ เทคโนโลยีการประมวลผลของไอออน ไม่ ร้อน มันยาวถูกใช้ เพื่อป้องกันผลิตภัณฑ์จากการรบกวนของแมลงและจุลินทรีย์ปนเปื้อนในระหว่างการเก็บข้อมูลและสกัด และ เพื่อยืดอายุการเก็บของอาหารและยา (Sabato et al. 2009) ในปัจจุบัน การฉายรังสีแกมมาได้กลายเป็นรู้จักกันดีเป็นเครื่องมือที่สะดวกมากสำหรับการเปลี่ยนแปลงของวัสดุพอลิเมอร์ผ่านการเชื่อมโยง การปลูกถ่ายและเทคนิคการลด วิธีนี้เพิ่มคุณสมบัติทางกลของฟิล์ม โดยการรวมการเชื่อมโยงข้ามระหว่างโซ่แป้ง นอกจากนี้ การฉายรังสีแกมมาเป็นวิธีทางเลือก ลดต้นทุน และสิ่งแวดล้อมได้ถูกใช้อย่างกว้างขวางในการผลิตแป้งที่ปรับเปลี่ยนนักวิจัยบางคนได้รับการตรวจสอบผลของการฉายรังสีแกมมากับคุณสมบัติของฟิล์มแป้ง Kim et al. (2008) ศึกษาผลของการฉายรังสีแกมมาในคุณสมบัติทางเคมีกายภาพของแป้งที่ใช้ฟิล์ม พวกเขาพบว่า ใช้วิธีการฉายรังสีแกมมาในการผสมแป้งอควีคะแนนส่งผลให้ฟิล์มเหมือนเดิม และราบรื่น เพิ่มแรงดึงของฟิล์มที่ค่าสูงสุดที่ 3 kGy และยืดตัวของเปอร์เซ็นต์ 85% สูงกว่าของฟิล์มแป้งไม่ฉายรังสี นอกจากนี้ การซึมผ่านไอน้ำของฟิล์มจากแป้งยังปรับปรุงการฉายรังสีแกมมา ตามผลลัพธ์เหล่านี้ วิธีการฉายรังสีแกมมาสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เป็นตัวแทนแป้ง cross-linking เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของฟิล์มแป้งที่ใช้ทำงานถ้ามีใช้ยาฉายรังสีที่เหมาะสม Akter et al. (2012) พบว่า คุณสมบัติของฟิล์มผสมแป้งและไคโตซานสามารถปรับปรุง โดยใช้รังสีแกมมาในปริมาณที่เหมาะสม การปรับปรุงคุณสมบัติของฟิล์มผสม irradiated กลและอุปสรรคที่เกิดจากการส่งเสริมความเชื่อมโยงของพอลิเมอร์ขณะฉายแสงรังสี นอกจากนี้ พวกเขาสรุปว่า รังสีแกมมาพบว่าเป็นวิธีดีสำหรับการปลูกถ่าย และการเชื่อมโยงของฟิล์มย่อยสลาย และสังเคราะห์สำหรับบรรจุภัณฑ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การฉายรังสีแกมมาเป็นอิออน, ไม่ร้อน, เทคโนโลยีการประมวลผล มันมีมานานใช้ในการป้องกันผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการรบกวนของแมลงและการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ระหว่างการเก็บรักษาและการสกัดและเพื่อยืดอายุการเก็บของอาหารและยารักษาโรค (Sabato et al., 2009) ปัจจุบันการฉายรังสีแกมมาได้กลายเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่สะดวกมากสำหรับการเปลี่ยนแปลงของวัสดุพอลิเมผ่านข้ามเชื่อมโยงการรับสินบนและเทคนิคการย่อยสลาย วิธีการนี้จะมีนัยสำคัญเพิ่มคุณสมบัติทางกลของภาพยนตร์โดยรวมถึงการเชื่อมโยงข้ามระหว่างโซ่แป้ง นอกจากนี้การฉายรังสีแกมมาเป็นค่าใช้จ่ายที่ลดลงและวิธีทางเลือกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้รับการใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตแป้งมันสำปะหลัง

นักวิจัยบางคนได้รับการตรวจสอบผลกระทบของรังสีแกมมาต่อสมบัติของฟิล์มแป้ง คิม, et al (2008) ศึกษาผลของการฉายรังสีแกมมาที่มีต่อสมบัติทางเคมีกายภาพของฟิล์มแป้งตาม พวกเขาพบว่าการใช้รังสีแกมมาในการผสมแป้งตามน้ำส่งผลให้ในหนังเหมือนเดิมและเรียบเนียน ความต้านทานแรงดึงของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มขึ้นที่ค่าสูงสุดที่ 3 กิโลเกรย์และการยืดตัวร้อยละ 85% สูงกว่าฟิล์มแป้งของมันที่ไม่ผ่านการฉายรังสี นอกจากนี้การซึมผ่านไอน้ำของฟิล์มแป้งที่ใช้ยังได้รับการปรับปรุงโดยการฉายรังสีแกมมา ตามผลเหล่านี้ฉายรังสีแกมมาสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เป็นสารเชื่อมโยงข้ามของแป้งการปรับปรุงคุณสมบัติการทำงานของฟิล์มตามแป้งถ้าฉายรังสีปริมาณที่เหมาะสมถูกนำไปใช้ akter et al, (2012) พบว่าคุณสมบัติของแป้งและภาพยนตร์ผสมผสานไคโตซานจะปรับตัวดีขึ้นโดยใช้รังสีแกมมาในปริมาณที่เหมาะสม การปรับปรุงสมบัติเชิงกลและอุปสรรคของการผสมผสานภาพยนตร์ฉายรังสีผลมาจากการส่งเสริมของการเชื่อมโยงข้ามของพอลิเมอในระหว่างการสัมผัสกับรังสี นอกจากนี้พวกเขาได้ข้อสรุปว่ารังสีแกมมาถูกพบว่าเป็นวิธีที่ดีสำหรับการปลูกถ่ายอวัยวะและการเชื่อมโยงข้ามสังเคราะห์และภาพยนตร์สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การฉายรังสีแกมมาเป็นไอออนที่ไม่ร้อน การประมวลผล เทคโนโลยี มันได้ถูกใช้เพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์จากแมลงและการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในระหว่างการเก็บรักษาและการแยกและการยืดอายุการเก็บของอาหารและ ยา ( ซาบาโต้ et al . , 2009 ) โดยการฉายรังสีแกมมาได้กลายเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่สะดวกมากสำหรับการเปลี่ยนแปลงของวัสดุพอลิเมอร์ที่ผ่านการเชื่อมโยงการเทคนิค , การย่อยสลาย วิธีนี้มีผลในการเพิ่มสมบัติเชิงกลของฟิล์ม โดยรวมข้ามการเชื่อมโยงระหว่างแป้งโซ่ โดยการฉายรังสีแกมมาเป็นวิธีทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุน และได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการผลิตแป้งดัดแปร .นักวิจัยได้ศึกษาผลของรังสีแกมมาต่อสมบัติของฟิล์มแป้ง . Kim et al . ( 2551 ) ได้ศึกษาผลของรังสีแกมมาต่อสมบัติทางเคมีและกายภาพของแป้ง ฟิล์มที่ใช้ พวกเขาพบว่า การใช้รังสีแกมมาจากแป้งผสมน้ำให้ฟิล์มเหมือนเดิม และราบรื่น ค่าความแข็งแรงของฟิล์มเพิ่มขึ้นในมูลค่าสูงสุดที่ 3 กิโลเกรย์และเปอร์เซ็นต์การยืดตัวเป็น 85% สูงกว่าแป้งไม่ฉายรังสีของฟิล์ม นอกจากนี้อัตราการซึมผ่านของไอน้ำของฟิล์มจากแป้งและการปรับปรุงโดยฉายรังสีแกมมา ตามผลลัพธ์เหล่านี้รังสีแกมม่าที่สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เช่นเมื่อตัวแทนของแป้งเพื่อปรับปรุงการทำงาน คุณสมบัติของฟิล์มจากแป้ง ถ้าปริมาณรังสีที่เหมาะสม คือ ใช้ akter et al . ( 2012 ) พบว่าคุณสมบัติของฟิล์มไคโตซานสามารถผสมแป้งและปรับปรุงได้โดยการใช้รังสีแกมมาที่ปริมาณที่เหมาะสม การปรับปรุงคุณสมบัติทางกลและอุปสรรคของการฉายรังสีผสมผสานภาพยนตร์ เป็นผลจากการส่งเสริมของโมเลกุลของพอลิเมอร์ในการสัมผัสกับรังสี นอกจากนี้ พวกเขาสรุปว่า การฉายรังสี พบว่า เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสังเคราะห์และย่อยสลายโมเลกุลของฟิล์มสำหรับบรรจุภัณฑ์