This decline in diversity leaves fa

This decline in diversity leaves farming more vulnerable. “If all of our pollination is reliant upon just a small number of species and something happens to those species, then there’s nothing to fill that gap. That’s one of the values of diverse insect populations – a sort of insurance policy.”
The changes in farming practices have been profound, he adds. “In the 19th century, set-aside was very common: farmers would leave a field to go fallow, or maybe sow a crop of something like red clover and then dig it in to build up the fertility of the soil. By the 20th century, when inorganic nitrogen fertilizers started to be produced, suddenly there was no need to have those fallow periods or to use clovers – and so farmers could intensify production and use fields all year around. Therefore that fallow field, that habitat, that resource to be used by pollinators has disappeared. That was a massive landscape-level change.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลดลงนี้ในความหลากหลายใบการเกษตรเสี่ยงมากขึ้น "ถ้าทั้งหมดของการผสมเกสรของเราคือการพึ่งพาเพียงจำนวนน้อยชนิดและสิ่งที่เกิดขึ้นชนิดเหล่านั้นแล้วไม่มีอะไรที่จะเติมเต็มช่องว่างที่ นั่นเป็นหนึ่งในค่านิยมของประชากรแมลงที่มีความหลากหลาย -. การจัดเรียงของนโยบายการประกันเป็น
"การเปลี่ยนแปลงในการเลี้ยงได้รับลึกซึ้งเขากล่าวเสริม "ในศตวรรษที่ 19 ตั้งกันเป็นเรื่องธรรมดามาก: เกษตรกรจะออกจากสนามไปรกร้างหรืออาจจะหว่านพืชบางอย่างเช่นไม้จำพวกถั่วแดงแล้วขุดมันเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยศตวรรษที่ 20 เมื่อปุ๋ยไนโตรเจนอนินทรีเริ่มที่จะมีการผลิตก็ไม่มีความจำเป็นที่จะมีช่วงเวลาที่รกร้างเหล่านั้นหรือใช้โคลเวอร์ - และเพื่อให้เกษตรกรสามารถกระชับและสาขาการผลิตการใช้งานตลอดทั้งปี ดังนั้นว่าสนามที่รกร้างที่อยู่อาศัยที่ทรัพยากรที่จะใช้โดยการถ่ายละอองเรณูได้หายไป นั่นคือการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ระดับขนาดใหญ่. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความหลากหลายในการลดลงนี้ใบอ่อนแอมากขึ้น " ถ้าผสมของเราคืออียิปต์เมื่อเพียงจำนวนเล็ก ๆของชนิดและเกิดอะไรขึ้นกับชนิดเหล่านั้น แล้วไม่มีอะไรที่จะเติมช่องว่างที่ นั่นเป็นหนึ่งในค่านิยมของประชากรแมลงที่หลากหลายและประเภทของนโยบายการประกัน . "
การเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการได้ลึกซึ้ง เขาเพิ่ม . " ในศตวรรษที่ 19 ,ตั้งไว้ถูกมาก : เกษตรกรจะออกจากสนามเพื่อไปไถ หรืออาจจะหว่านพืชบางอย่าง เช่น เรด โคลเวอร์ แล้วขุดมันเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยศตวรรษที่ 20 เมื่อปุ๋ยอนินทรีย์ไนโตรเจน จะเริ่มผลิตก็ไม่จำเป็นจะต้องมีระยะเวลาที่รกร้างหรือใช้แฉก–และเกษตรกรสามารถกระชับการผลิตและใช้เขตข้อมูลทั้งหมดปีรอบ ดังนั้นที่นาฟางลอย , สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรที่ถูกใช้โดยผสมเกสรได้หายไป ที่ใหญ่ในระดับเปลี่ยนภูมิทัศน์”