Our first aim in this paper is to m

Our first aim in this paper is to map the dynamics in vertical
and horizontal control packages in municipal JVs and
to investigate the relational factors that affect them. Based
on our three case studies of municipal JVs in the waste
disposal business, all of which were founded to exploit
economies of scale, we conclude that four relational factors
affect vertical control packages. A higher degree of vertical
goodwill and competence trust reduces the need for
broad and tight action controls, and (inversely) a reduction
in vertical goodwill trust may result in broader and tighter
action control and results control. Broader results control
and action control (although not necessarily more tightly
used) may be caused by parent differences in size (in combination
with control competence) and in management
style. Parent diversification, that is, a limited relationship
between the JV’s activity and the parents’ other activities,
leads to narrow and loose control since it increases
information asymmetry, reduces the need for coordination,
and dilutes parents’ attention (especially if the activity is
politically uninteresting). Also, a well-designed horizontal
control package (e.g., rules for parent interaction and
the distribution of work) leads to proactive controls and
a readiness to impose new formal controls in the vertical
dimension. Regarding the horizontal control packages, we
conclude that the existence of goodwill trust, system trust
and calculative trust limit control to fairly narrow and loose
action control. We also conclude that parent differences in
size make it easier to develop structures for parent interaction
and social control, and that equality of treatment
among the parents may drive horizontal action control.
Our second aim in this paper is to contribute to the
discussion on the relationship between trust and control
in inter-organizational relationships. In our case studies,
we observed that over time goodwill trust and competence
trust made action control narrower and looser
and that diminished trust was followed by broader and
tighter action control and results control. We found many
instances where new, formal control did not destroy trust.
This conclusion supports the theoretical view that new,
formal controls may be implemented without damage to
established trust, that is, without signalling distrust. Furthermore,
we observed an inverted “crowding out” effect
of trust on control (i.e., the high ambition to maintain
trust may lead to underdeveloped formal controls). Trust
appears to lead to loose and narrow control that perhaps is
suitable for the present situation but insufficient for future
contingencies. This may be because trust inhibits consideration
of the need for control and because control is thought
to endanger goodwill trust. Well-designed horizontal controls
make it easier to deal with emerging control gaps in
vertical relationships.
In addition, we found that the ambition to preserve trust
may inhibit the realisation of economies of scale. JV Companies
that value autonomy and manage their activities to
preserve vertical and horizontal trust may not take advantage
of economically justified opportunities. This strategy
contradicts the very reason for the creation of municipal
JVs.
An important generalization of this study is that the
relationship between control and trust is multifaceted.
However, this generalization (as well as the interrelations
presented above) should be regarded as tentative due to
the nature of case study research. While we offer some
insights about how control processes create or impair trust,
we call for additional studies in this area. We conclude that
formal control is not a homogenous factor that influences
trust. We need to pay attention to the different processes
and techniques of control. In general, research needs to
acknowledge the potential of control as a positive force
in coordination and as an indication of trust. Furthermore,
our choice of case studies narrows our findings to the situation
of fairly homogeneous parents. Future research may
determine if vertical and horizontal control packages for
heterogeneous parents are broader and tighter.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป้าหมายของเราครั้งแรกในเอกสารนี้คือการเปลี่ยนแปลงในแนวตั้งและแพคเกจตัวควบคุมแนวนอนในษทรัเทศบาล และการตรวจสอบปัจจัยเกี่ยวข้องที่มีผลต่อพวกเขา ใช้บนเราสามกรณีศึกษาของกิจการร่วมค้าเทศบาลในการเสียขายทิ้งธุรกิจ ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อประหยัดจากขนาด เราสรุปว่า สี่ปัจจัยเชิงส่งผลกระทบต่อแพคเกจแนวควบคุม แนวตั้งในระดับสูงขึ้นค่าความนิยมและความเชื่อถือลดความต้องการควบคุมดำเนินการกว้าง และแน่น และ (inversely) ลดลงในแนวตั้งคความ เชื่อถืออาจส่งผลในวงกว้าง และเข้มงวดมากขึ้นการดำเนินการควบคุมและการควบคุมผล ควบคุมผลที่กว้างขึ้นและควบคุมการดำเนินการ (แม้ว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มเติมคับใช้) อาจเกิดจากความแตกต่างหลักขนาด (ในชุดสามารถควบคุม) และ ในการจัดการสไตล์ หลักกระจาย คือ ความสัมพันธ์จำกัดระหว่างกิจกรรมของ JV และของพ่อแม่กิจกรรมอื่น ๆนำไปสู่การควบคุมที่แคบ และหลวมตั้งแต่ขึ้นข้อมูลความไม่สมดุล ช่วยลดความต้องการประสานงานและ dilutes ความสนใจของพ่อแม่ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นกิจกรรมทางการเมืองไม่น่าทึ่ง) นอกจากนี้ แนวนอนการออกแบบแพคเกจตัวควบคุม (เช่น กฎหลักการ และการกระจายการทำงาน) ไปสู่เชิงรุกควบคุม และพร้อมกำหนดใหม่อย่างเป็นทางการควบคุมในแนวตั้งมิติของ แพคเกจตัวควบคุมแนวนอน เกี่ยวกับเราสรุปว่า การดำรงอยู่ของความเชื่อถือความนิยม ระบบความเชื่อถือและความน่าเชื่อถือ calculative จำกัดควบคุมที่ค่อนข้างแคบ และหลวมการควบคุมการดำเนินการ เรายังสรุปหลักที่แตกต่างในขนาดทำให้ง่ายต่อการพัฒนาโครงสร้างการโต้ตอบหลักและควบคุมทางสังคม และที่ความเสมอภาคของการรักษาในหมู่ผู้ปกครองอาจทำแนวการดำเนินการควบคุมเป้าหมายของเราสองในเอกสารนี้คือการ มีส่วนร่วมในการอภิปรายความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อถือและการควบคุมในความสัมพันธ์ที่ inter-organizational ในกรณีศึกษาของเราเราสังเกตที่เวลาความนิยมเชื่อถือและความสามารถความน่าเชื่อถือในการทำการดำเนินการควบคุมแคบ และโล่งโปร่งสบายและที่น่าเชื่อถือลดลงตามมาด้วยวงกว้าง และควบคุมการดำเนินการเข้มงวดและควบคุมผล เราพบหลายอินสแตนซ์ที่ใหม่ ทางควบคุมไม่ได้ทำลายความน่าเชื่อถือข้อสรุปนี้สนับสนุนมุมมองเชิงทฤษฎีที่ใหม่การควบคุมอย่างเป็นทางอาจนำมาใช้โดยไม่เสียหายสร้างความน่าเชื่อถือ คือ ไม่ มีไฟสัญญาณความหวาดระแวง นอกจากนี้เราตรวจสอบผลคว่ำ "เบียดเสียดออก"ความเชื่อถือในการควบคุม (เช่น ในความมุ่งมั่นตั้งใจในการรักษาความน่าเชื่อถืออาจทำให้การควบคุมทางธรรมชาติ) ความน่าเชื่อถือจะ นำไปควบคุมที่หลวม และแคบที่เป็นบางทีเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ไม่เพียงพอสำหรับอนาคตภาระผูกพัน อาจเป็น เพราะความไว้วางใจยับยั้งพิจารณาความจำเป็นสำหรับการควบคุม และการควบคุมเป็นความคิดจะเป็นอันตรายต่อความน่าเชื่อถือนิยม ควบคุมการออกแบบแนวนอนง่ายกับการควบคุมช่องว่างเกิดขึ้นในความสัมพันธ์แนวตั้งนอกจากนี้ เราพบว่าต้องรักษาความน่าเชื่อถืออาจยับยั้งปัญหาของเศรษฐกิจของ บริษัท JVที่ค่าอิสระ และจัดการกิจกรรมการรักษาแนวตั้ง และแนวนอนใจอาจใช้ประโยชน์โอกาสที่ชิดขอบทางด้านเศรษฐกิจ กลยุทธ์นี้ขัดกับหลักการเหตุผลสำหรับการสร้างของเทศบาลกิจการร่วมค้าลักษณะที่สำคัญของการศึกษานี้คือการมีหลายแง่มุมความสัมพันธ์ระหว่างการควบคุมและความน่าเชื่อถืออย่างไรก็ตาม ลักษณะนี้ (รวมทั้งการ interrelationsนำเสนอข้างต้น) ควรเป็นไม่แน่นอนเนื่องจากธรรมชาติของการวิจัยกรณีศึกษา ในขณะที่เราเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการควบคุมกระบวนการสร้าง หรือทำให้เสียความน่าเชื่อถือเราเรียกการศึกษาเพิ่มเติมในพื้นที่นี้ เราสรุปที่ควบคุมอย่างเป็นทางไม่เป็นเนื้อเดียวกันปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเชื่อถือ เราต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการอื่นและเทคนิคการควบคุม ทั่วไป งานวิจัยความต้องการรับทราบศักยภาพของตัวควบคุมเป็นพลังบวกในการประสานงาน และ เป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้เลือกกรณีศึกษาแคบของเราพบกับสถานการณ์ของพ่อแม่ค่อนข้างเหมือนกัน งานวิจัยในอนาคตอาจตรวจสอบถ้าควบคุม แนวแพคเกจสำหรับพ่อแม่แตกต่างกันเป็นวงกว้าง และเข้มงวดมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายแรกของเราในบทความนี้คือการทำแผนที่การเปลี่ยนแปลงในแนวตั้ง
แพคเกจการควบคุมและแนวนอนใน บริษัท ร่วมทุนที่เทศบาลและ
เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสัมพันธ์กับพวกเขา จาก
สามกรณีศึกษาของ บริษัท ร่วมทุนในเขตเทศบาลเมืองเสียของเรา
ธุรกิจกำจัดซึ่งทั้งหมดได้รับการก่อตั้งขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จาก
การประหยัดจากขนาดที่เราสรุปได้ว่าปัจจัยสี่สัมพันธ์
ส่งผลกระทบต่อแพคเกจการควบคุมในแนวตั้ง ระดับสูงของแนวตั้ง
ความปรารถนาดีและความสามารถไว้วางใจจะช่วยลดความจำเป็นในการ
ในวงกว้างและแน่นควบคุมการกระทำและ (ผกผัน) ลดลง
ในความไว้วางใจของค่าความนิยมในแนวตั้งอาจส่งผลให้กว้างขึ้นและเข้มงวดมากขึ้น
การควบคุมการกระทำและผลการควบคุม การควบคุมผลที่กว้างขึ้น
และการควบคุมการกระทำ ( แต่ไม่จำเป็นต้องให้กระชับยิ่งขึ้น
ใช้) อาจจะเกิดจากความแตกต่างของผู้ปกครองในขนาด (ในการรวมกัน
กับความสามารถในการควบคุม) และการจัดการ
รูปแบบ การกระจายความเสี่ยงของผู้ปกครองที่เป็นความสัมพันธ์ที่ จำกัด
ระหว่างกิจกรรม JV และพ่อแม่ 'กิจกรรมอื่น ๆ
นำไปสู่การลดลงและการควบคุมหลวมตั้งแต่มันจะเพิ่ม
ความไม่สมดุลข้อมูลช่วยลดความจำเป็นในการประสานงาน
และการเจือจางของผู้ปกครองให้ความสนใจ (โดยเฉพาะถ้ากิจกรรมคือ
การเมือง จืด) นอกจากนี้แนวนอนที่ออกแบบอย่างดี
แพคเกจการควบคุม (เช่นกฎระเบียบสำหรับการปฏิสัมพันธ์ของผู้ปกครองและ
การกระจายของการทำงาน) จะนำไปสู่การควบคุมเชิงรุกและ
การเตรียมความพร้อมที่จะกำหนดควบคุมอย่างเป็นทางการใหม่ในแนวตั้ง
มิติ เกี่ยวกับแพคเกจการควบคุมแนวนอนเรา
สรุปได้ว่าการดำรงอยู่ของความไว้วางใจของค่าความนิยมไว้วางใจระบบ
และการควบคุมวงเงินไว้วางใจ calculative จะค่อนข้างแคบและหลวม
การควบคุมการดำเนินการ นอกจากนี้เรายังสรุปได้ว่าความแตกต่างของผู้ปกครองใน
ขนาดให้ง่ายต่อการพัฒนาโครงสร้างสำหรับการปฏิสัมพันธ์กับผู้ปกครอง
และการควบคุมทางสังคมและความเท่าเทียมกันของการรักษาที่
ผู้ปกครองอาจจะขับรถควบคุมการกระทำในแนวนอน.
จุดมุ่งหมายที่สองของเราในบทความนี้คือการมีส่วนร่วมใน
การอภิปรายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างความไว้วางใจและการควบคุม
ในความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร ในกรณีศึกษาของเรา,
เราตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อเวลาผ่านไปความไว้วางใจความปรารถนาดีและความสามารถ
ไว้วางใจทำให้การควบคุมการกระทำที่แคบและโยก
และความไว้วางใจที่ลดลงตามมาด้วยที่กว้างขึ้นและ
เข้มงวดมากขึ้นการควบคุมการกระทำและผลการควบคุม เราพบว่าหลาย
กรณีที่ใหม่การควบคุมอย่างเป็นทางการไม่ได้ทำลายความไว้วางใจ.
ข้อสรุปนี้สนับสนุนมุมมองทางทฤษฎีที่ใหม่
การควบคุมอย่างเป็นทางการอาจจะดำเนินการได้โดยไม่เกิดความเสียหายต่อ
ความไว้วางใจที่ยอมรับว่ามีความไม่ไว้วางใจโดยไม่ต้องส่งสัญญาณ นอกจากนี้
เราพบฤๅษี "เบียดขับออก" ผลกระทบ
ของความไว้วางใจในการควบคุม (เช่นความทะเยอทะยานสูงในการรักษา
ความไว้วางใจอาจนำไปสู่การควบคุมอย่างเป็นทางการด้อยพัฒนา) ความไว้วางใจ
จะปรากฏขึ้นเพื่อนำไปสู่การควบคุมหลวมและแคบ ๆ ที่อาจจะเป็น
ที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ไม่เพียงพอสำหรับอนาคต
ภาระผูกพัน ซึ่งอาจเป็นเพราะความไว้วางใจในการยับยั้งการพิจารณา
ความจำเป็นในการควบคุมและการควบคุมเพราะเป็นความคิด
ที่จะเป็นอันตรายต่อความไว้วางใจของค่าความนิยม การออกแบบที่ดีการควบคุมแนวนอน
ทำให้มันง่ายที่จะจัดการกับช่องว่างที่เกิดขึ้นใหม่ในการควบคุม
ความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง.
นอกจากนี้เราพบว่ามีความทะเยอทะยานที่จะรักษาความไว้วางใจ
อาจยับยั้งการก่อให้เกิดการประหยัดจากขนาด บริษัท ร่วมทุน
ที่มีค่าความเป็นอิสระและจัดการกิจกรรมของพวกเขาที่จะ
รักษาความไว้วางใจในแนวตั้งและแนวนอนอาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์
จากโอกาสที่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ กลยุทธ์นี้
ขัดแย้งกับเหตุผลมากสำหรับการสร้างเทศบาล
บริษัท ร่วมทุน.
ทั่วไปที่สำคัญของการศึกษาครั้งนี้คือการที่
ความสัมพันธ์ระหว่างการควบคุมและความไว้วางใจเป็น multifaceted.
อย่างไรก็ตามทั่วไปนี้ (เช่นเดียวกับสัมพันธ์
นำเสนอข้างต้น) ควรจะถือว่าเป็นเบื้องต้นเนื่องจาก
ธรรมชาติของการวิจัยกรณีศึกษา ในขณะที่เรามีบาง
ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการควบคุมกระบวนการสร้างหรือทำให้ความไว้วางใจ
ที่เราเรียกว่าการศึกษาเพิ่มเติมในพื้นที่นี้ เราสรุปได้ว่า
การควบคุมอย่างเป็นทางการไม่ได้เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเป็นเนื้อเดียวกัน
ความไว้วางใจ เราจำเป็นต้องให้ความสนใจกับกระบวนการที่แตกต่างกัน
และเทคนิคของการควบคุม โดยทั่วไปการวิจัยความต้องการที่จะ
ได้รับทราบถึงศักยภาพของการควบคุมเป็นพลังด้านบวก
ในการประสานงานและเป็นตัวบ่งชี้ของความไว้วางใจ นอกจากนี้
ทางเลือกของกรณีศึกษาของเราแคบค้นพบของเราให้เข้ากับสถานการณ์
ของพ่อแม่ที่เป็นเนื้อเดียวกันอย่างเป็นธรรม การวิจัยในอนาคตอาจจะ
ตรวจสอบว่าแพคเกจการควบคุมตั้งและแนวนอนสำหรับ
พ่อแม่ผู้ปกครองที่แตกต่างกันมีความกว้างขึ้นและเข้มงวดมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป้าหมายแรกของเราในกระดาษนี้คือแผนที่พลวัตในแนวตั้งและแนวนอน JVs เทศบาลและชุดควบคุมเพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์ที่มีผลต่อพวกเขา ตามของเราสามกรณีศึกษาของ JVs เทศบาลในขยะธุรกิจขายทิ้งหมด ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด เราสรุปได้ว่า ปัจจัยที่สัมพันธ์ชุดควบคุมต่อแนวตั้ง ระดับที่สูงขึ้นของแนวตั้งค่าความนิยมและเชื่อถือความสามารถลดความต้องการสำหรับกว้างและควบคุมการกระทำที่แน่นและ ( ไม่ ) ลดในความไว้วางใจค่าความนิยมแนวตั้งอาจส่งผลให้กว้างขึ้นและสัดการควบคุมผลการควบคุมการกระทำและ •ผลการควบคุมและการควบคุมการกระทำ ( แต่ไม่จำเป็นมากแน่นใช้ ) อาจเกิดจากความแตกต่างในขนาด ( ในชุดแม่มีความสามารถในการควบคุม ) และการจัดการสไตล์ พ่อแม่ วิสาหกิจ คือ ความสัมพันธ์ จำกัดระหว่างกิจกรรมของ บริษัท และผู้ปกครองอื่น ๆกิจกรรมนำไปสู่แคบและควบคุมหลวมเพราะมันเพิ่มขึ้นสารสนเทศอสมมาตร ลดความต้องการสำหรับการประสานงานการเจือจางและความสนใจของพ่อแม่ ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกิจกรรมคือไม่การเมือง ) นอกจากนี้ การออกแบบแนวนอนชุดควบคุม ( เช่น กฎสำหรับการโต้ตอบกับผู้ปกครองและการกระจายงานไปสู่การควบคุมและเชิงรุกความพร้อมในการกำหนดควบคุมอย่างเป็นทางการใหม่ในแนวตั้งมิติ เกี่ยวกับแพคเกจควบคุมแนวนอน , เราสรุปได้ว่า การดำรงอยู่ของค่าความนิยมไว้ใจ เชื่อใจระบบรอบจัดและไว้ใจจำกัดควบคุมค่อนข้างแคบและหลวมควบคุมการกระทำ เราก็สรุปได้ว่าผู้ปกครองแตกต่างกันขนาดทำให้มันง่ายขึ้นเพื่อพัฒนาโครงสร้างสำหรับการโต้ตอบกับผู้ปกครองและควบคุมสังคม และความเสมอภาคของการรักษาระหว่างผู้ปกครองอาจไดรฟ์ควบคุมการกระทำในแนวนอนเป้าหมายที่สองของเราในกระดาษนี้จะนำไปสู่การอภิปรายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความไว้วางใจและการควบคุมในความสัมพันธ์ระหว่างองค์การ ในการศึกษากรณีของเราเราสังเกตว่าเวลาและความสามารถมากกว่าเชื่อค่าความนิยมเชื่อถือได้ควบคุมการกระทำที่แคบ และหลวมและลดความน่าเชื่อถือตามมาด้วย และ กว้างผลการดําเนินการการควบคุมและการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น . เราพบหลายกรณีที่ใหม่ , การควบคุมแบบไม่ทำลายความไว้วางใจข้อสรุปนี้สนับสนุนทฤษฎีดูที่ใหม่การควบคุมทางอาจจะดำเนินการโดยไม่เสียหายสร้างความเชื่อใจ คือไม่มีสัญญาณรบกวน . นอกจากนี้เราพบกลับ " เบียด " ผลความน่าเชื่อถือในการควบคุม ( เช่น ความทะเยอทะยานสูง เพื่อรักษาเชื่ออาจนำไปสู่การควบคุมอย่างเป็นทางการด้อยพัฒนา ) ไว้ใจจะปรากฏขึ้นเพื่อนำไปสู่การควบคุมที่บางทีอาจจะหลวม และแคบที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ไม่เพียงพอสำหรับอนาคตภาระผูกพัน . ซึ่งอาจเป็นเพราะเชื่อยับยั้งการพิจารณาที่จำเป็นสำหรับการควบคุม และเพราะการควบคุมจะคิดว่าเพื่อนำความปรารถนาดีเชื่อถือ การออกแบบการควบคุมในแนวนอนทำให้มันง่ายที่จะจัดการกับช่องว่างควบคุมใหม่ความสัมพันธ์แนวดิ่งนอกจากนี้ เราพบว่า ความมุ่งมั่นที่จะรักษาความไว้วางใจอาจยับยั้งการก่อให้เกิดการประหยัดจากขนาด บริษัท เจวีคุณค่าของตนเอง และจัดการกิจกรรมแนวตั้งและแนวนอนรักษาเชื่ออาจไม่ใช้ประโยชน์ของเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ โอกาสทางธุรกิจ กลยุทธ์นี้ขัดแย้งกับเหตุผลมากสำหรับการสร้างของเทศบาลJVs .การสรุปความสำคัญของการศึกษานี้คือ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างการควบคุมและความไว้วางใจเป็น multifaceted .อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ ( รวมทั้ง interrelationsที่แสดงข้างต้น ) ควรจะถือเป็นแน่นอนเนื่องจากธรรมชาติของการวิจัยกรณีศึกษา . ในขณะที่เรามีบางส่วนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการวิธีการควบคุมการสร้างหรือทำให้เสียความน่าเชื่อถือเราเรียกการศึกษาเพิ่มเติมในพื้นที่นี้ เราสรุปได้ว่าการควบคุมอย่างเป็นทางการไม่ใช่ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อเดียวความไว้วางใจ เราต้องให้ความสนใจกับกระบวนการต่าง ๆและเทคนิคการควบคุม ในทั่วไป , งานวิจัย ต้องยอมรับศักยภาพของการควบคุมเป็นแรงบวกในการประสานงาน และเป็นตัวบ่งชี้ของความไว้ใจ นอกจากนี้ทางเลือกของเราของกรณีศึกษาแคบค้นพบของเรากับสถานการณ์พ่อแม่ที่ค่อนข้างเป็นเนื้อเดียวกัน การวิจัยในอนาคตอาจระบุว่า การควบคุมแบบแนวตั้ง และแนวนอนพ่อแม่พันธุ์เป็นวงกว้างและสัด