). Having adementing condition may

). Having a
dementing condition may also put the person at increasedrisk of acute confusion, as the incidence of delirium is greater
in people with dementia (Weber et al., 2004). The average
incidence rate for acute confusion among hospitalized older
people over the age of 65 is 40% (Weber et al., 2004).
However, this may be a conservative figure as Fick and
4Foreman (2000) suggest that as many as seven out of 10
patients with delirium are going undetected. Failure to detect
dementia and delirium will affect the choice of treatment and
strategies used to care for and manage these people.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

). มีการdementing เงื่อนไขอาจยังใส่บุคคลที่ increasedrisk สับสนเฉียบพลัน เป็นอุบัติการณ์ของเพ้อมากในคนที่มีภาวะสมองเสื่อม (เวเบอร์ et al. 2004) ค่าเฉลี่ยอัตราอุบัติการณ์ความสับสนเฉียบพลันรักษาในโรงพยาบาลเก่าคนอายุมากกว่า 65 ปีเป็น 40% (เวเบอร์ et al. 2004)อย่างไรก็ตาม นี้อาจเป็นตัวเลขที่อนุรักษ์นิยมเป็นอสุจิ และ4Foreman (2000) แนะนำว่า เป็น 7 เต็ม 10ผู้ป่วยที่เพ้อจะตรวจไม่พบ ความล้มเหลวในการตรวจสอบภาวะสมองเสื่อมและเพ้อจะมีผลต่อทางเลือกของการรักษา และกลยุทธ์ที่ใช้ในการดูแล และจัดการคนเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

) มี
สภาพ dementing ยังอาจทำให้คนที่ increasedrisk ของความสับสนเฉียบพลันเป็นอุบัติการณ์ของเพ้อเป็นมากขึ้น
ในผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม (Weber et al., 2004) ค่าเฉลี่ยของ
อัตราอุบัติการณ์ความสับสนเฉียบพลันในหมู่รักษาในโรงพยาบาลที่มีอายุมากกว่า
คนที่อายุมากกว่า 65 ปีคือ 40% (Weber et al., 2004).
แต่นี้อาจจะเป็นรูปแบบอนุรักษ์นิยมเป็น Fick และ
4Foreman (2000) ชี้ให้เห็นว่ามากที่สุดเท่าที่เจ็ด 10
ผู้ป่วยที่มีความคุ้มคลั่งจะตรวจไม่พบ ความล้มเหลวในการตรวจสอบ
ภาวะสมองเสื่อมและเพ้อจะมีผลต่อทางเลือกของการรักษาและ
กลยุทธ์ที่ใช้ในการดูแลและจัดการคนเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

) มีdementing สภาพยังอาจใส่คนที่ increasedrisk สับสนเฉียบพลัน เช่นเกิดคุ้มคลั่งเป็นมากกว่าในผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม ( Weber et al . , 2004 ) โดยเฉลี่ยความสับสนระหว่างอัตราอุบัติการณ์เฉียบพลันโรงพยาบาลเก่าคนอายุ 65 เป็น 40% ( Weber et al . , 2004 )อย่างไรก็ตาม , นี้อาจจะคิดอนุรักษ์นิยม ฟิก และ4foreman ( 2000 ) ได้แนะนำว่า ให้มากที่สุดเท่าที่ 7 จาก 10ผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อคลั่ง จะไม่สามารถตรวจพบ ความล้มเหลวในการตรวจสอบภาวะสมองเสื่อม และเพ้อจะมีผลต่อทางเลือกของการรักษาและกลยุทธ์ที่ใช้ในการดูแลและจัดการกับคนเหล่านี้