The question of internal validity o

The question of internal validity often pops up from members of the scientific
community who quantify phenomena by validating instruments such as surveys
and test measurements. The internal validity of qualitative research, in contrast,
comes from keeping meticulous records of all sources of information used, using
detailed transcripts, and taking field notes of all communications and reflective
thinking activities during the research process. This is known as an audit trail. A
concurrent activity qualitative researchers employ is maintaining a chain-ofevidence.
This chain takes the information recorded in the audit trail and records
the decisions made concerning all aspects of the research process as they unfold
and demonstrates how the links and conclusions between the data and analysis
were derived. Finally, qualitative researchers declare any personal bias which may
impact on their role as a researcher and make known the theoretical and
conceptual perspectives on which the study is based.
Finally, the inability of qualitative research findings to be generalized to other
communities has also been argued as a limitation. However, as generalization is
not a fundamental component of this type of research, qualitative researchers are
not bothered by this limitation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำถามมีผลบังคับใช้ภายในมักจะปรากฏขึ้นจากสมาชิกของทางวิทยาศาสตร์ชุมชนที่กำหนดปริมาณปรากฏการณ์ โดยตรวจสอบเครื่องมือเช่นแบบสำรวจและทดสอบวัด มีผลบังคับใช้ภายในของการวิจัยเชิงคุณภาพ คมชัดมาเก็บบันทึกอย่างพิถีพิถันของทุกแหล่งข้อมูลใช้ ใช้ใบแสดงผลรายละเอียด และใช้ฟิลด์บันทึกย่อ ของการสื่อสารทั้งหมด และสะท้อนแสงกิจกรรมคิดระหว่างการวิจัย การนี้เรียกว่าการตรวจสอบ Aกิจกรรมที่เกิดขึ้นพร้อมกันว่าจ้างนักวิจัยเชิงคุณภาพคือการรักษาโซ่-ofevidenceสายนี้ใช้ข้อมูลที่บันทึกในการตรวจสอบและระเบียนทำการตัดสินใจเกี่ยวกับด้านการวิจัยจะแฉและแสดงให้เห็นถึงวิธีการเชื่อมโยงและสรุปข้อมูลและวิเคราะห์ได้มา ในที่สุด นักวิจัยเชิงคุณภาพประกาศอคติส่วนบุคคลใด ๆ ซึ่งอาจในบทบาทของตนเป็นนักวิจัยที่ส่งผลกระทบ และทำให้รู้จักที่ทฤษฎี และมุมมองแนวคิดที่เป็นพื้นฐานการศึกษาสุดท้าย ไม่สามารถของผลการวิจัยการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นการตั้งค่าทั่วไปอื่น ๆนอกจากนี้ยังมีการโต้เถียงชุมชนเป็นข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม เป็น generalization คือไม่พื้นฐานส่วนประกอบของงานวิจัยประเภทนี้ นักวิจัยเชิงคุณภาพจะไม่ใส่ใจจากข้อจำกัดนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำถามของความถูกต้องภายในมักจะปรากฏขึ้นจากสมาชิกของวิทยาศาสตร์ในชุมชนที่ปริมาณปรากฏการณ์โดยการตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้เช่นการสำรวจและการวัดการทดสอบ ความถูกต้องภายในของการวิจัยเชิงคุณภาพในทางตรงกันข้ามมาจากการเก็บบันทึกพิถีพิถันของแหล่งที่มาของข้อมูลที่ใช้ในการใช้จิตบำบัดรายละเอียดและการบันทึกด้านการสื่อสารและสะท้อนกิจกรรมการคิดในระหว่างขั้นตอนการวิจัย นี้เรียกว่าเส้นทางการตรวจสอบ กิจกรรมพร้อมกันนักวิจัยเชิงคุณภาพการจ้างงานยังคงรักษาห่วงโซ่ ofevidence. ห่วงโซ่นี้จะนำข้อมูลที่บันทึกไว้ในรายงานการตรวจสอบและบันทึกการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับทุกแง่มุมของกระบวนการวิจัยที่พวกเขาแฉและแสดงให้เห็นถึงวิธีการเชื่อมโยงและข้อสรุประหว่างข้อมูลและการวิเคราะห์ได้มา ในที่สุดนักวิจัยเชิงคุณภาพประกาศอคติส่วนบุคคลใด ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบทบาทของพวกเขาเป็นนักวิจัยและทำให้เป็นที่รู้จักในทางทฤษฎีและมุมมองความคิดที่การศึกษาเป็นไปตาม. ในที่สุดไม่สามารถของผลการวิจัยเชิงคุณภาพที่จะทั่วไปอื่น ๆของชุมชนนอกจากนี้ยังได้รับการถกเถียงกันอยู่ เป็นข้อ จำกัด แต่เป็นลักษณะทั่วไปคือไม่ได้เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของประเภทของการวิจัยนี้นักวิจัยเชิงคุณภาพจะไม่ได้รับการใส่ใจจากข้อจำกัด นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คำถามของความถูกต้องภายในมักจะปรากฏขึ้นจากสมาชิกของชุมชนที่ตรวจวัดปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์
โดยการตรวจสอบเครื่องมือ เช่น การสำรวจ
และการวัดทดสอบ ส่วนความตรงภายในของการวิจัยเชิงคุณภาพในทางตรงกันข้าม
มาจากการรักษาบันทึกพิถีพิถันทุกแหล่งข้อมูลที่ใช้ ใช้
รายละเอียดการรายงานและบันทึกการสื่อสารทั้งหมดและสะท้อนแสง
คิดกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างกระบวนการ นี้เรียกว่าการตรวจสอบเส้นทาง a
พร้อมกันกิจกรรมนักวิจัยเชิงคุณภาพใช้การรักษาห่วงโซ่พยานหลักฐาน .
โซ่นี้ใช้ข้อมูลที่บันทึกในการตรวจสอบเส้นทางและบันทึก
การตัดสินใจด้านทั้งหมดของกระบวนการวิจัยที่พวกเขาแฉ
และแสดงให้เห็นว่าการเชื่อมโยงและข้อสรุประหว่างข้อมูลและการวิเคราะห์
ได้มา . ในที่สุด นักวิจัยเชิงคุณภาพ ประกาศตั้งค่าส่วนบุคคลใด ๆซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบทบาท
เป็นนักวิจัย และให้รู้ทฤษฎีและแนวคิดมุมมอง
ที่ศึกษาจาก .
ในที่สุด การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นแบบอื่น
ชุมชนยังมีการถกเถียงกันอยู่เป็นข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม การเป็น
ไม่ส่วนประกอบพื้นฐานของงานวิจัยประเภทนี้ นักวิจัยเชิงคุณภาพมี
ไม่ได้รบกวนด้วยข้อจำกัดนี้