Islam renounced the practice of sla

Islam renounced the practice of slavery some 1400 years ago and laid the foundation of the abolition of slavery and thereby the concept of ‘freeman’. According to Islam, granting lifetime freedom to a slave and ceasing his bondage earns loads of blessing to his owner. What Islam managed to eradicate in 600 A.D was revived due to an obstinate and power-obsessed mind-set of Europeans because the African people had begun to be transported, first to Europe and then the addiction glided over to the English settlers in Philadelphia, Virginia and Jamestown of North America where the ancestral Teutonic spirit was beating its waves against the African shore and claiming its so-called right for mastery. The ‘new England’ people having carved out a civilization from wilderness exploited the black hands of Africa brutally for the progress of their newly born nation.
Actually, this trait of trespassing, colonisation and imperialism goes back to their adventurous forefathers of Scandinavia. The Teutonic races of Scandinavia which survived the vegetation-less snowy land and tumultuous seas, had learned to exclude ‘fear’ from their genetic setup. This fearless spirit never left them through their adventures in Europe and their migration to America. Exercise of power and authority became their so-called birth-right. Soon after industrial revolution as well as the Renaissance, the European man’s spirit became restless once more and new lands began to be discovered every now and then. Discovery of America, Asia and Australia resulted in long-term struggle and civil disobedience on the part of the natives, followed by a suppressed acceptance for the Englishman as a ruthless ruler. But the results of imperialism in Africa had such an outcome which upturned the fate of the natives as free people. Missionaries were sent on the pretext of civilizing the black ‘children of devil’. The blacks were made to realize their inferior self due to their coal-dark complexion and that also in their own land, Africa. The English people colonised areas of the African land, setup their camps and business and made African natives serve them for minimal or no wages at all. At various places in African continent, the native youth were captured, chained and dumped into slave ships and thereafter a journey to North or South American subcontinent which would let loose a series of atrocities and an unimaginable brutality. Many a happy African souls fell victims to horrendous and dejected fate. This was not the end to everything as not less than seven or eight generations and some 250 years were lapsed until a bloody struggle involving personages like Abraham
Lincoln and Martin Luther King won the African slaves their partial rights as human beings and as American nationals. Even after restoration of American Republic and abolition of slavery, white American race still despises the black blood. People of both races, if involved in conjugal relations, are branded with a shameful endeavour to raise a ‘brown’ race. Not to mention the fact that God has been too merciful with the West or such words like bloodless, yellow or red race would have been at large, according to the complexion of far North Americans including Canada and Texas, Central America and equatorial areas of South America.
Such inhuman acts of racial discrimination scorched the human spirit down to its acumen and its wriggling scripts have penetrated almost every genre of American and European literature with fair amount of shamelessness for indifference on the part of the oppressors. The realm has expanded itself from short-stories, poems, biographies and novels to cinema theatres and schools of criticism and a distinct literature involves writings of African descent or white writers favouring Africans and therefore known as Black Literature. Themes concerning African slaves in America and their generations born and grown in the midst of white masters, brown race segregation, blacks being jailed for petty matters and their unprotected women and so on, are also taken up by prolific American writers, either white or black.
For next few pages, the paper shall be an attempt to analyse some of the American writings portraying the dilemma of the ‘rootless’ in the ‘roots’ of American land.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อิสลาม renounced ฝึกทาส 1400 ปีผ่านมา และวางรากฐานของการเลิกทาส และทำแนวคิดของฟรี 'แมน' ตามศาสนาอิสลาม สิทธิเสรีภาพชีวิตทาส และเบี้ยชายเขาเล่มโหลดของพรให้เจ้าของเขา อิสลามที่จัดการเพื่อขจัดใน 600 เริ่มถูกฟื้นฟูจาก mind-set การแหละ และเสือ หิวอำนาจของชาวยุโรปเนื่องจากคนแอฟริกาเริ่มต้องการขนส่ง ก่อน ไปยุโรป แล้วติดที่ทะยานผ่านไปตั้งถิ่นฐานในอังกฤษในฟิลาเดลเฟีย เวอร์จิเนียและ Jamestown ของอเมริกาเหนือที่ตีของคลื่นกับฝั่งแอฟริกา และขวาเรียกว่าการเป็นครูว่า วิญญาณ Teutonic โบราณ คนอังกฤษใหม่ที่มีการแกะสลักอารยธรรมจากถิ่นทุรกันดารสามารถมือสีดำของแอฟริกาจราสำหรับความคืบหน้าของชาติเกิดใหม่จริง นี้ติดของการบุกรุก อาณานิคมและลัทธิจักรวรรดินิยมกลับไปบรรพบุรุษของพวกเขาผจญภัยของสแกนดิเนเวีย แข่งขัน Teutonic ของสแกนดิเนเวียซึ่งรอดชีวิตแผ่นดินหิมะตกน้อยพืชพรรณและทะเล tumultuous ได้เรียนรู้การแยก 'กลัว' จากการตั้งค่าทางพันธุกรรม วิญญาณจอมคนผงาดโลกนี้ไม่เคยทิ้งพวกเขาผ่านการผจญภัยในยุโรปและการย้ายถิ่นของอเมริกา สิทธิและอำนาจกลายเป็น เกิดขวาเรียกว่า หลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นเรเนสซอง จิตวิญญาณของคนยุโรปเป็นสโมสรอีกครั้ง และดินแดนใหม่เริ่มที่จะพบทุกขณะนี้แล้ว ผลการค้นพบอเมริกา เอเชีย และออสเตรเลียในการต่อสู้ระยะยาวและอารยะขัดขืนในส่วนของชาวพื้นเมือง ตามยอมหยุดสำหรับชาวเป็นไม้หิน แต่ผลของลัทธิจักรวรรดินิยมในทวีปแอฟริกามีดังกล่าวผลที่ upturned ของชาวพื้นเมืองเป็นคนฟรี ข้าฯ ได้ส่งในข้ออ้างของ civilizing ดำ 'เด็กปีศาจ' ดำได้ทำการรับรู้ของตนเองน้อยเนื่องจากผิวของถ่านหินดำและที่ยังอยู่ในที่ดินของตนเอง แอฟริกา ภาษาอังกฤษคนพื้นที่ colonised ของแผ่นดินแอฟริกา ตั้งค่ายและธุรกิจของพวกเขา และทำให้บริการสำหรับชาวพื้นเมืองแอฟริกาเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีค่าจ้างที่ ในสถานต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกา เยาวชนท้องถิ่นถูกจับ chained และทิ้งสู่ชั้นเรือทาสและหลังจากนั้นเดินทางไปเหนือหรือใต้อนุทวีปที่จะปล่อยให้หลวมชุดในยามสงครามและความโหดร้ายที่คับขัน หลายความสุขแอฟริกาวิญญาณตกผู้ประสบชะตากรรมที่น่ากลัว และครูฝึกหดหู่ใจ นี้ไม่ได้สิ้นสุดไปทุกอย่างเป็นไม่น้อยกว่าเจ็ด หรือแปดรุ่นและปี 250 ถูกโธดอกจนการต่อสู้นองเลือดเกี่ยวข้องกับ personages เช่นอับราฮัมลินคอล์นและมาร์ตินลูเธอร์คิงได้รับรางวัลทาสแอฟริกาสิทธิบางส่วน เป็นมนุษย์ และ เป็นชาวอเมริกัน แม้หลังจากฟื้นฟูสาธารณรัฐอเมริกันและการเลิกทาส การแข่งขันอเมริกันขาว despises เลือดดำยัง คนทั้งสองเชื้อชาติ ถ้าเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ conjugal เป็นตราสินค้าที่ มี endeavour แม้จะยกการแข่งขัน 'น้ำตาล' ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่า พระเจ้ามีเมตตาเกินไปกับตะวันตก หรือกล่าวคำชอบรับการตบ การแข่งขันสีเหลือง หรือสีแดงจะได้ใหญ่ ตามผิวของฟาร์นอร์ทอเมริกันแคนาดา และเท็กซัส อเมริกากลาง และอเมริกาใต้เส้นศูนย์สูตรพื้นที่กระทำการแบ่งแยกเชื้อชาติเช่น inhuman scorched จิตวิญญาณของมนุษย์ลงไปอคิวเมนท์ และสคริปต์ของ wriggling มีอวัยวะเกือบทุกประเภทของวรรณคดีอเมริกันและยุโรป ด้วยจำนวน shamelessness สำหรับท่านในส่วนที่สู่เประเทศธรรม ขอบเขตมีขยายตัวเองจาก เรื่องสั้น บทกวี ชีวประวัติ และนวนิยายละครภาพยนตร์และโรงเรียนวิจารณ์ และวรรณกรรมทั้งหมดเกี่ยวข้องกับงานเขียนของเชื้อสายแอฟริกาหรือนักเขียนขาว favouring แอฟริกัน และดังนั้นจึง เรียกว่าวรรณคดีดำ ชุดรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับทาสแอฟริกันในอเมริกาและรุ่นของพวกเขาเกิด และเติบโตท่ามกลางต้นแบบสีขาว การแบ่งแยกเชื้อชาติสีน้ำตาล ดำถูกคุกเรื่อง petty และผู้หญิงของพวกเขาไม่มีการป้องกันใน ถูกยังนำ โดยลูกอเมริกันเขียน สีขาว หรือสีดำถัดไปไม่กี่หน้า กระดาษจะมีความพยายามที่จะวิเคราะห์ความต้องการของงานเขียนอเมริกันที่ขัดลำบากใจของการ 'rootless' ใน 'ราก' ของอเมริกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อิสลามละทิ้งการปฏิบัติของการเป็นทาสบาง 1400 ปีที่ผ่านมาและวางรากฐานของการเลิกทาสและด้วยเหตุนั้นแนวคิดของ 'อิสระ' ตามที่ศาสนาอิสลามอนุญาตให้เสรีภาพตลอดชีวิตในการเป็นทาสและยุติการเป็นทาสของเขาได้รับการโหลดของพระพรให้กับเจ้าของของเขา สิ่งที่ศาสนาอิสลามที่มีการจัดการที่จะกำจัดใน 600 AD ก็ฟื้นขึ้นมาเนื่องจากการดื้อรั้นและอำนาจหลงใจตั้งของชาวยุโรปเพราะคนแอฟริกันก็เริ่มที่จะถูกส่งครั้งแรกไปยังยุโรปและติดยาเสพติดแล้วร่อนไปตั้งถิ่นฐานภาษาอังกฤษในฟิลาเดเวอร์จิเนีย และเจมส์ทาวน์ของทวีปอเมริกาเหนือที่จิตวิญญาณของบรรพบุรุษเต็มตัวกำลังเต้นกับคลื่นชายฝั่งแอฟริกาและอ้างว่าที่เรียกว่าเหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ คนใหม่ของอังกฤษที่มีการแกะสลักจากอารยธรรมใช้ประโยชน์จากถิ่นทุรกันดารมือสีดำของแอฟริกาอย่างไร้ความปราณีสำหรับความคืบหน้าของประเทศเกิดใหม่ของพวกเขา.
ที่จริงแล้วลักษณะของการบุกรุกการล่าอาณานิคมและจักรวรรดินิยมนี้กลับไปที่บรรพบุรุษของพวกเขารักการผจญภัยของสแกนดิเนเวี การแข่งขันของสแกนดิเนเวีเต็มตัวที่รอดชีวิตแผ่นดินเต็มไปด้วยหิมะพืชน้อยและทะเลป่วนได้เรียนรู้ที่จะไม่รวม 'กลัว' จากการตั้งค่าทางพันธุกรรมของพวกเขา นี้จิตวิญญาณความกล้าหาญไม่เคยทิ้งพวกเขาผ่านการผจญภัยของพวกเขาในยุโรปและการย้ายถิ่นของพวกเขาไปอเมริกา การใช้สิทธิของพลังและอำนาจกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าการเกิดของพวกเขาขวา ไม่นานหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับเรเนสซองจิตวิญญาณของคนยุโรปกลายเป็นกระสับกระส่ายอีกครั้งและดินแดนใหม่เริ่มที่จะค้นพบทุกขณะนี้แล้ว การค้นพบของอเมริกาเอเชียและออสเตรเลียส่งผลให้ในการต่อสู้ในระยะยาวและการละเมิดสิทธิในส่วนของชาวบ้านตามด้วยการปราบปรามการยอมรับสำหรับอังกฤษในฐานะที่เป็นผู้ปกครองที่ไร้ความปรานี แต่ผลของจักรวรรดินิยมในแอฟริกาได้เช่นผลหงายซึ่งชะตากรรมของชาวบ้านเป็นคนที่ฟรี มิชชันนารีที่ถูกส่งในข้ออ้างของความเจริญดำ 'ลูกของพญามาร' คนผิวดำที่ถูกสร้างขึ้นที่จะตระหนักถึงตัวเองด้อยกว่าของพวกเขาเนื่องจากผิวถ่านหินมืดของพวกเขาและที่ยังอยู่ในดินแดนของตัวเอง, แอฟริกา ชาวอังกฤษอาณานิคมพื้นที่ของที่ดินแอฟริกัน, การติดตั้งค่ายของพวกเขาและทำธุรกิจและชาวพื้นเมืองแอฟริกันให้บริการพวกเขาสำหรับน้อยที่สุดหรือค่าจ้างที่ไม่ทั้งหมด ในสถานที่ต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกาเยาวชนพื้นเมืองถูกจับล่ามโซ่และทิ้งลงเรือทาสและหลังจากนั้นเดินทางไปเหนือหรือทวีปอเมริกาใต้ซึ่งจะปล่อยชุดของการทารุณโหดร้ายและเป็นไปไม่ได้ หลายคนแอฟริกันมีความสุขจิตวิญญาณของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อล้มลงกับชะตากรรมที่น่ากลัวและไม่มีความสุข นี้ยังไม่จบกับทุกสิ่งที่เป็นไม่น้อยกว่าเจ็ดหรือแปดรุ่นและบางส่วนถูก 250 ปีที่ผ่านพ้นไปจนกว่าจะมีการต่อสู้เลือดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลเช่นอับราฮัม
ลิงคอล์นและมาร์ตินลูเธอร์คิงได้รับรางวัลทาสแอฟริกันบางส่วนของพวกเขาสิทธิเป็นมนุษย์และเป็นชาวอเมริกัน แม้หลังจากการฟื้นฟูของสาธารณรัฐอเมริกันและการเลิกทาสการแข่งขันอเมริกันผิวขาวยังคงชิงชังเลือดสีดำ คนของการแข่งขันทั้งถ้ามีส่วนร่วมในความสัมพันธ์สมรสมีตราสินค้าที่มีความพยายามที่น่าอับอายที่จะยกระดับการแข่งขัน 'น้ำตาล' ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าพระเจ้าได้รับความเมตตาเกินไปกับเวสต์หรือคำดังกล่าวเช่นเลือดแข่งสีเหลืองหรือสีแดงจะได้รับที่มีขนาดใหญ่ตามผิวของไกลอร์ทอเมริกันรวมทั้งแคนาดาและเท็กซัสอเมริกากลางและพื้นที่แถบเส้นศูนย์สูตรของภาคใต้ อเมริกา.
การกระทำทารุณดังกล่าวของการเหยียดผิวเกรียมจิตวิญญาณของมนุษย์ลงไปที่เฉียบแหลมและสคริปต์บิดตัวไปมาของมันได้ทะลุเกือบทุกประเภทของวรรณคดีอเมริกันและยุโรปที่มีจำนวนเงินที่ยุติธรรมของไร้ยางอายไม่แยแสสำหรับในส่วนของการกดขี่ ดินแดนที่มีการขยายตัวออกมาจากเรื่องราวสั้นบทกวีและนวนิยายชีวประวัติที่จะฉายในโรงภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์และโรงเรียนของการวิจารณ์และวรรณกรรมที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเขียนเชื้อสายแอฟริหรือนักเขียนแอฟริกันสีขาวความนิยมและเป็นที่รู้จักจึงเป็นวรรณกรรมดำ ธีมเกี่ยวกับทาสแอฟริกันในอเมริกาและรุ่นของพวกเขาเกิดและเติบโตในท่ามกลางของโทสีขาวแยกแข่งขันสีน้ำตาล, สีดำถูกตัดสินจำคุกเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และผู้หญิงที่ไม่มีการป้องกันของพวกเขาและอื่น ๆ นอกจากนี้ยังจะถูกนำขึ้นโดยนักเขียนชาวอเมริกันที่อุดมสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นสีขาวหรือสีดำ .
สำหรับหน้าถัดไปไม่กี่กระดาษที่จะเป็นความพยายามที่จะวิเคราะห์บางส่วนของงานเขียนอเมริกันจิตรภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของ 'ราก' ใน 'ราก' ที่ดินอเมริกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศาสนาอิสลามละทิ้งการปฏิบัติของการเป็นทาสบาง 1400 ปีมาแล้ว และได้วางรากฐานของการเลิกทาส และตามแนวคิดของ ' ฟรีแมน ' ตามศาสนาอิสลาม ให้เสรีภาพและชีวิตเป็นทาสทาสของเขาจะหยุดโหลดของพรให้กับเจ้าของของเขา สิ่งที่อิสลามได้กำจัด 600 .D คือ ฟื้นฟู เนื่องจากพลังงานที่ดื้อรั้นและครอบงำจิตใจของชาวยุโรป เพราะคนแอฟริกันได้เริ่มถูกเคลื่อนย้าย ไปยุโรปครั้งแรกแล้วติดกไลดิดให้ชาวอังกฤษที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในฟิลาเดล , เวอร์จิเนียและเจมส์ทาวน์ในทวีปอเมริกาเหนือที่วิญญาณเต็มตัวบรรพบุรุษเต้นคลื่นจากชายฝั่งแอฟริกา และอ้างว่าตนถูกเรียกว่า สำหรับการจัด' อังกฤษ ' มีคนแกะออกอารยธรรมจากป่าใช้ประโยชน์มือดำแห่งแอฟริกา โหดเหี้ยม เพื่อความก้าวหน้าของประเทศเกิดใหม่ .
จริงๆ นิสัยนี้ของบุกรุก อาณานิคมจักรวรรดินิยม กลับไปที่การผจญภัยของบรรพบุรุษของสแกนดิเนเวีย แข่งเต็มตัวของสแกนดิเนเวียซึ่งรอดจากพืชที่ดินหิมะน้อยและป่วนสมุทรได้เรียนรู้ที่จะไม่รวม ' ความกลัว ' จากการติดตั้งทางพันธุกรรมของพวกเขา วิญญาณผู้กล้าไม่เคยปล่อยให้พวกเขาผ่านการผจญภัยของพวกเขาในยุโรปและการอพยพไปอเมริกา การออกกำลังกายของอำนาจและบารมีก็เรียกว่าลูกของพวกเขา หลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาวิญญาณของมนุษย์ก็เริ่มกระวนกระวายอีกครั้งในยุโรป และดินแดนใหม่ เริ่มมีการค้นพบว่า ทุกขณะนี้แล้ว การค้นพบทวีปอเมริกา เอเชีย และออสเตรเลีย มีผลในการต่อสู้ระยะยาว และอารยะขัดขืน ในส่วนของชาวบ้าน รองลงมาคือ การยอมรับว่าชาวอังกฤษเป็นผู้โหดเหี้ยมแต่ผลลัพธ์ของจักรวรรดินิยมในแอฟริกาได้ผลดังที่หงายชะตากรรมของชาวบ้านเป็นคนฟรี มิชชันนารีถูกส่งในข้ออ้างของ Civilizing สีดำเด็ก ' ปีศาจ ' คนผิวดำได้ตระหนักว่าตนเองด้อยกว่าของพวกเขาเนื่องจากพวกเขาถ่านหินเข้มผิวและยังอยู่ในที่ดินของตัวเอง , แอฟริกา คนอังกฤษอาณานิคมพื้นที่แผ่นดินแอฟริกาการตั้งค่าของค่าย และธุรกิจ และทำให้ชาวพื้นเมืองแอฟริกันเสิร์ฟให้น้อยที่สุด หรือ ไม่จ่ายค่าจ้างทั้งหมด ในสถานที่ต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกา เยาวชนพื้นเมืองถูกจับล่ามโซ่ไว้ และทิ้งลงในเรือทาสและหลังจากนั้นเดินทางไปเหนือ หรืออเมริกาใต้ ทวีปซึ่งจะปล่อยชุดของการทารุณและโหดร้ายเกินกว่าที่คาดคิดหลายคนมีความสุขในแอฟริกาวิญญาณตกเหยื่อให้น่ากลัวและขมมาก โชคชะตา นี้ไม่ได้สิ้นสุดทุกอย่างเป็นไม่น้อยกว่าเจ็ดหรือแปดรุ่น และบาง 250 ปีหมดอายุจนเลือดการต่อสู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ชอบอับราฮัม ลินคอล์น และมาร์ติน ลูเธอร์ คิง
ชนะแอฟริกา slaves บางส่วนสิทธิในฐานะมนุษย์และเป็นสัญชาติอเมริกันหลังจากการฟื้นฟูของสาธารณรัฐอเมริกันและการเลิกทาส การแข่งอเมริกันขาวยังเหยียดหยามเลือดสีดำ คนทั้งสนามแข่ง ถ้าเกี่ยวข้องกับคู่สมรสความสัมพันธ์ เป็นตราสินค้าที่มีความพยายามที่น่าอายที่จะยก ' บราวน์ ' การแข่งขัน ไม่พูดถึงความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงเมตตาเกินไปกับตะวันตก หรือคำพูด เช่น เลือด สีเหลืองหรือสีแดง การแข่งขันจะได้รับในขนาดใหญ่ตามผิวของทางเหนือไกลชาวอเมริกันรวมทั้งแคนาดาและเท็กซัส อเมริกากลาง และพื้นที่แถบเส้นศูนย์สูตร
ของอเมริกาใต้