Most of the Colorado desert (Coache

Most of the Colorado desert (Coachella Valley and relatedarea) normally receives less than five inches (127 mm) of rainper year. This aridity is the result of several environmentalfactors: the stable Pacific high pressure cell which divertsstorms to the north; the cold California current whichprecipitates rain before it reaches land, and series of mountainsalong the western periphery of the Colorado desert which create arain shadow effect (Bainbridge & Virginia, 1986.) Stormsgenerated from tropical air masses moving north from the Gulf ofCalifornia can drop rain equal to the yearly average in a matterof minutes (Bainbridge & Virginia, 1986). Storms such asthese recharge soil moisture and are important in the spring andfall for establishing seedlings. In 1991, late spring rainsresulted in considerable creosote bush germination andestablishment at a site in Imperial county and at Red Rock CanyonState Park in the Mojave Desert.

The high temperature and limited annual rainfall ofCalifornia's deserts result in plant water stress. Astemperatures rise, the rate of evaporation increases and with itthe water demands of the vegetation (Nir, 1974). Peaktemperatures in the 100's ƒF (38 ƒC) occur from June throughSeptember when less than 1.5" (37.5mm) of precipitationnormally occurs.

Temperature and precipitation values can be combined tographically portray the aridity of a region. A graph ofprecipitation values in millimeters plotted against temperaturevalues in ƒC with a scale of 1ƒC :2 mm is a common climaticyardstick. When the curve of precipitation values is below thetemperature curve, then the amount of precipitation is smallerthan twice the temperature length and intensity of the dryseason. Graphs of temperature and precipitation values forseveral weather stations in the Colorado desert illustrate theyear round water deficit, figures 2, 3.

Wide temperature variation, daily and annual, ischaracteristic of both the Mojave and Colorado deserts ofsouthern California. In the summer months. the difference betweenmean high and low temperatures can be greater than 30ƒF (17ƒC), 100ƒF to 70ƒF (38-21 ƒC) (NOAA).

Ambient air temperature and soil temperature have a pronouncedeffect on plants. The high air temperatures of the summer,increase the plants water demand for evapo-transpiration. InJanuary, mean low temperatures are between 35-40 ƒF (1.5-4.5 ƒC), with highs between 60-70 ƒF (16-21 ƒC ) a span of 25 ƒF.

Freezing temperatures are not uncommon on clear winter nights,but hard freezes only occur about every decade. Several hours ofbelow 26 ƒF temperatures can damage sensitive plants (Bainbridge& Virginia, 1986). In August 1989 a rainfall initiated growthof many palo verde seedlings in the Colorado desert. The majorcauses of death in the initial months were herbivore, frost,tramplings, and flood damage. Thus freezing can affect theseplants as significantly as high temperatures ( Bainbridge &Virginia, 1990).

Bare soil temperature in the sun may reach 57-64 ƒF (14-18ƒC) or greater above ambient air temperature under windlessconditions. When the wind is blowing, exposed soil temperaturesmay be only 4 ƒC above ambient air temperature (Wallace &Romey, 1972). Optimum root growth for mesquite and many othersummer active desert plants occurs at soil temperatures in thehigh 80's ƒF (27 ƒC ), usually not achieved in until earlysummer.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนใหญ่ของทะเลทรายโคโลราโด (Coachella Valley และ relatedarea) ได้รับน้อยกว่า 5 นิ้ว (127 mm) rainper ปีตามปกติ Aridity นี้เป็นผลของหลาย environmentalfactors: เสถียรแปซิฟิกแรงดันเซลล์ที่ divertsstorms เหนือ ฝนเย็นแคลิฟอร์เนียปัจจุบัน whichprecipitates ก่อนที่จะถึงที่ดิน และชุดของ mountainsalong รอบนอกตะวันตกของทะเลทรายโคโลราโดซึ่งสร้างลักษณะพิเศษเงา arain (เบนและเวอร์จิเนีย 1986) Stormsgenerated จากมวลอากาศเขตร้อนที่เคลื่อนไหวเหนือจาก ofCalifornia อ่าวสามารถปล่อยฝนเท่ากับค่าเฉลี่ยรายปีในนาที matterof (เบนและเวอร์จิเนีย 1986) พายุความชื้นในดินอีก asthese และมีความสำคัญในการ andfall สปริงสำหรับการสร้างต้นกล้าดังกล่าว ในปี 1991, rainsresulted ปลายฤดูใบไม้ผลิในครีโอซอตซึ่งมากพุ่มไม้ andestablishment การงอก ที่ไซต์ในมณฑลอิมพีเรียล และ สวน CanyonState หินสีแดงในทะเลทรายฟเนอุณหภูมิสูงและทะเลทรายจำกัดประจำปีปริมาณน้ำฝน ofCalifornia ของผลพืชขาดน้ำ Astemperatures เพิ่มขึ้น อัตราการระเหยเพิ่มขึ้น และ itthe ความต้องการน้ำของพืช (Nir, 1974) Peaktemperatures ใน ƒF 100 (38 ƒC) เกิดขึ้นจาก throughSeptember มิถุนายนเมื่อน้อยกว่าขนาด 1.5 นิ้ว (37.5 มม.) ของ precipitationnormally เกิดขึ้นรวมค่าอุณหภูมิและปริมาณฝนได้ tographically แสดงภาพ aridity ของภูมิภาค Ofprecipitation กราฟเป็นค่าในพล็อตกับ temperaturevalues ใน ƒC ด้วยขนาดของ 1ƒC มิลลิเมตร: หนา 2 มม.เป็นแบบ climaticyardstick ทั่วไป เมื่อเส้นโค้งของค่าฝนอยู่ด้านล่างเส้นโค้ง thetemperature แล้วปริมาณของฝนเป็น smallerthan สองความยาวอุณหภูมิและความเข้มของการ dryseason กราฟของอุณหภูมิและปริมาณฝนค่า forseveral สถานีตรวจอากาศในทะเลทรายโคโลราโดแสดง theyear รอบน้ำขาด ตัวเลข 2, 3เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกว้าง รายวัน และประจำปี ischaracteristic ฟเนและโคโลราโดทะเลทรายแคลิฟอร์เนีย ofsouthern ในฤดูร้อน betweenmean ความแตกต่างสูงและต่ำอุณหภูมิอาจสูงกว่า 30ƒF (17ƒC), 100ƒF กับ 70ƒF (38-21 ƒC) (NOAA)อุณหภูมิอากาศแวดล้อมและอุณหภูมิดินมีการ pronouncedeffect ในพืช อุณหภูมิอากาศสูงของฤดูร้อน เพิ่มความต้องการน้ำของพืชการคายน้ำ evapo InJanuary หมายถึง อุณหภูมิต่ำอยู่ระหว่าง 35-40 ƒF (1.5-4.5 ƒC), กับเสียงสูงระหว่าง 60-70 ƒF (16-21 ƒC) ระยะ 25 ƒFอุณหภูมิแช่แข็งไม่ใช่เรื่องแปลกในคืนฤดูหนาวชัดเจน แต่หยุดการทำงานหนักเกิดขึ้นเพียงเกี่ยวกับทุกทศวรรษ หลายชั่วโมง ofbelow 26 ƒF อุณหภูมิสามารถทำลายพืชไวต่อ (เบนและเวอร์จิเนีย 1986) สิงหาคม พ.ศ.2532 ฝนเริ่ม growthof ต้นกล้าพาโลเวิร์ดมากมายในทะเลทรายที่โคโลราโด Majorcauses ตายในเดือนแรกถูกห้าม น้ำแข็ง tramplings และความเสียหายน้ำท่วม ดังนั้น การแช่แข็งมีผลต่อ theseplants เป็นอย่างมากที่อุณหภูมิสูง (เบนและเวอร์จิเนีย 1990)อุณหภูมิดินเปลือยอาบแดดอาจถึง ƒF 57-64 (14-18ƒC) ขึ้นสูงกว่าอุณหภูมิอากาศแวดล้อมภายใต้ windlessconditions เมื่อลมเป่า สัมผัสดิน temperaturesmay จะเท่า ƒC 4 เหนืออุณหภูมิอากาศแวดล้อม (Wallace & Romey, 1972) เจริญเติบโตของรากที่เหมาะสมสำหรับอ่านและ othersummer ใช้งานทะเลทรายพืชเกิดขึ้นที่อุณหภูมิดินใน thehigh 80 ƒF (27 ƒC), มักจะไม่ประสบความสำเร็จในจนถึง earlysummer

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่สุดของทะเลทรายโคโลราโด ( หุบเขาโค๊ชเชล และ relatedarea ) ปกติจะได้รับน้อยกว่า 5 นิ้ว ( 127 มิลลิเมตร ) rainper ปี แห้ง ซึ่งเป็นผลจากหลายปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม : มั่นคง แปซิฟิก แรงดันสูง เซลล์ที่ divertsstorms ไปเหนือ เย็นแคลิฟอร์เนียในปัจจุบัน whichprecipitates ฝนก่อนที่จะถึงพื้นดิน และชุด mountainsalong รอบนอกตะวันตกของทะเลทรายโคโลราโด arain ซึ่งสร้างผลเงา ( บริดจ์ & เวอร์จิเนีย , 1986 ) stormsgenerated จากมวลอากาศร้อนไปทางเหนือจาก อ่าว ofcalifornia สามารถปล่อยฝนเฉลี่ยรายปีเท่ากับใน matterof นาที ( บริดจ์ & เวอร์จิเนีย , 1986 ) พายุ asthese เติมความชื้นดังกล่าวและมีความสําคัญในฤดูใบไม้ผลิ andfall จัดตั้งต้นกล้า 2534 ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ rainsresulted มาก creosote บุชงอก andestablishment ที่เว็บไซต์ในเมืองหลวง และที่หินแดง canyonstate Park ในทะเลทราย Mojaveอุณหภูมิสูงและ จำกัด ปริมาณฝน ofcalifornia ทะเลทรายน้ำพืชผลในความเครียด astemperatures เพิ่มขึ้น , เพิ่มอัตราการระเหยและความต้องการน้ำของพืชด้วยหรือเปล่า ( 1974 เนียร์ ) peaktemperatures ใน 100 ƒ F ( 38 ƒ C ) เกิดขึ้นจากเมื่อเดือนมิถุนายน throughseptember น้อยกว่า 1.5 " ( 37.5mm ) ของ precipitationnormally เกิดขึ้นค่าอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนที่สามารถรวม tographically วาดภาพแห้งของภูมิภาค กราฟค่า ofprecipitation มิลลิเมตรงัดข้อกับ temperaturevalues ในƒ C กับสเกล 1 ƒ C : 2 มม. เป็น climaticyardstick ทั่วไป เมื่อตกตะกอนอยู่ด้านล่างโค้งค่าอุณหภูมิโค้งแล้วปริมาณการตกตะกอนเป็น smallerthan สองครั้งอุณหภูมิความยาวและความเข้มของ dryseason . กราฟของอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝน ค่า forseveral สถานีอากาศในทะเลทรายโคโลราโดแสดงให้เห็นถึงการขาด น้ำรอบ ตัวเลข 2 , 3การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกว้างรายวันและรายปี ischaracteristic ทั้งซ้อมและโคโลราโดทะเลทราย ofsouthern แคลิฟอร์เนีย ในฤดูร้อน ความแตกต่าง betweenmean สูงและอุณหภูมิต่ำได้มากกว่า 30 ƒ F ( 17 ƒ C ) , 100 ƒ F 70 ƒ F ( 38-21 ƒ C ) ( NOAA )อุณหภูมิอากาศและอุณหภูมิดินมี pronouncedeffect บนพืช อุณหภูมิสูงอากาศของฤดูร้อน เพิ่มไม้น้ำความต้องการ evapo การคายน้ำ . injanuary ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิต่ำอยู่ระหว่าง 35-40 ƒ F ( 1.5-4.5 ƒ C ) กับ scientific ( nws ) ระหว่าง 60-70 ƒ F ( 16-21 ƒ C ) ช่วง 25 ƒ Fอุณหภูมิแช่แข็งไม่ได้ผิดปกติในฤดูหนาวชัดเจนคืน แต่แข็งค้างเกิดขึ้นเกี่ยวกับทุกทศวรรษ หลายชั่วโมง ofbelow 26 ƒ F อุณหภูมิสามารถทำลายพืชที่ละเอียดอ่อน ( บริดจ์ & เวอร์จิเนีย , 1986 ) ในเดือนสิงหาคม ปี 1989 เป็นฝนเริ่ม seedlings Palo Verde ารหลายในทะเลทรายโคโลราโด การ majorcauses เสียชีวิตในเดือนแรกเป็นมังสวิรัติ , น้ำค้างแข็ง , tramplings และความเสียหายน้ำท่วม จึงจะสามารถส่งผลกระทบต่อ theseplants เป็นอย่างมากเป็นอุณหภูมิสูง ( บริดจ์ & เวอร์จิเนีย , 1990 )อุณหภูมิดินเปลือยในดวงอาทิตย์อาจถึง 57-64 ƒ F ( 14-18 ƒ C ) หรือมากกว่าบนอากาศอุณหภูมิภายใต้ windlessconditions . เมื่อลมพัดสัมผัส temperaturesmay ดินได้เพียง 4 ƒ C สูงกว่าอุณหภูมิอากาศแวดล้อม ( วอลเลซ & โรมี่ , 1972 ) การเจริญเติบโตของรากในเมสกีตและหลาย othersummer ปราดเปรียวทะเลทรายพืชเกิดขึ้นที่อุณหภูมิในดินสูง 80 ƒ F ( 27 ƒ C ) มักจะไม่ประสบความสำเร็จ จนถึง earlysummer .