In 1975 Afremov met his wife to be,

In 1975 Afremov met his wife to be, Inessa Kagan, who he married the following year. In 1977 his first son Dmitry was born. The young family lived in a 2 room apartment together with Inessa’s parents, grandmother and sister. In 1982 they bought their own home where they lived until 1990. After graduating from college, Afremov worked as a label designer in a local beer and liquor factory. Then he briefly worked in a local theater as a set designer.
In the early 1980’s he started doing free lance work for communal farms and schools, designing and making various propaganda posters, themed rooms and walls for certain communist events and holidays. He was also doing template sculptures of Lenin from plaster. He had a very good reputation in that field and was invited back by many farms and schools. This type of work was available only during the summer and spring. In November 1984 his second son Boris was born.

Leonid on the left with family 1989.
During the cold Russian winter, Afremov stayed at home painting. He was not allowed to participate in government exhibitions because of his Jewish roots and was not allowed to be a member of the local art associations. His early work was sold privately via family and friends and was not seen by many people. A lot of his work in the 1980’s was just given away for free. He did not keep records of his work then and not much of it survived. He currently does not have pictures of anything before 1990.
In 1986 the Chernobyl disaster happened. Vitebsk was only a few hundred kilometers from Chernobyl, close enough for radiation to travel with the wind and rain. The ecological situation in the area worsened, local crops and water becoming contaminated with radioactive fallout. Small children were affected strongly, including Afremov's two year old son. At the same time Leonid Afremov was experiencing serious discrimination and insults for his Jewish heritage. The liberal politics of Mikhail Gorbachev allowed Jewish soviet citizens to migrate to Israel in the late 1980s. After being fed up with anti-semitism and problems caused by radiation, Leonid decided to move to Israel without hesitation as soon as the doors were opened.
On 14 May 1990 the Afremov family left by train from Minsk to Warsaw where they stayed in a hostel for 3 days. Then on 17 May 1990 they took a flight to Israel provided by the Israeli immigration authorities. The Afremov family was among the first to migrate from USSR in the Russian–Jewish immigration wave of the 1990s.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1975 Afremov พบภรรยาของเขาจะเป็น Inessa Kagan เขาแต่งงานปีต่อไป ในปี 1977 บุตรแรกครั้งโดยใช้เวลาเกิด ครอบครัวหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่ในพักร่วมกับผู้ปกครองของ Inessa คุณยาย และน้องสาว ในปี 1982 เขาซื้อบ้านของตนเองที่พวกเขาอาศัยอยู่จนถึงปี 1990 หลังจากจบจากวิทยาลัย Afremov ทำงานเป็นนักออกแบบป้ายในโรงงานเบียร์และสุราท้องถิ่น แล้ว เขาสั้น ๆ ทำงานในโรงละครท้องถิ่นเป็นผู้ออกแบบกำหนดในทศวรรษ 1980 เขาเริ่มทำงานฟรีแลนซ์รวมฟาร์มและโรงเรียน ออกแบบ และทำโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อต่าง ๆ ห้อง และผนังบางเหตุการณ์คอมมิวนิสต์และวันหยุด นอกจากนี้เขายังกำลังทำแม่แบบรูปปั้นของเลนินจากปูนปลาสเตอร์ เขามีชื่อเสียงที่ดีมากในเขตข้อมูลนั้น และได้รับเชิญจากหลายฟาร์มและโรงเรียนกลับ งานชนิดนี้มีเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ ใน 1984 พฤศจิกายนบุตรสอง บอริเกิดLeonid ด้านซ้ายกับครอบครัว 1989ในระหว่างฤดูหนาวเย็นรัสเซีย Afremov พักทาสีบ้าน เขาไม่อนุญาตให้เข้าร่วมในการจัดนิทรรศการของภาครัฐเนื่องจากรากของยิว และไม่อนุญาตให้สมาชิกของความสัมพันธ์ของศิลปะท้องถิ่น งานของเขาก่อนถูกขายเอกชนผ่านเพื่อนและครอบครัว และไม่เห็น ด้วยหลายคน การทำงานของเขาในปี 1980 มากถูกเพียงแจกฟรี เขาไม่ได้เก็บบันทึกการงานของเขาแล้วและพอมันรอด เขาในขณะนี้ไม่มีภาพอะไรก่อนปี 1990ในปี 1986 ภัยพิบัติฟ้าเกิดขึ้น Vitebsk ได้เพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตรจากฟ้า ใกล้พอสำหรับรังสีต้องเดินทางกับลมและฝน สถานการณ์ระบบนิเวศในพื้นที่แย่ลง พืชท้องถิ่น และน้ำกลายเป็นการปนเปื้อน ด้วยสารกัมมันตรังสีออกมาเสีย เด็กเล็กได้รับผลขอ รวมถึงบุตรอายุ 2 ปีของ Afremov ในเวลาเดียวกัน Leonid Afremov ถูกพบรุนแรงแบ่งแยกและดูหมิ่นมรดกของชาวยิว การเมืองเสรีนิยมของอิลอนุญาตให้ชาวยิวโซเวียตพลเมืองในการโยกย้ายไปยังอิสราเอลในปลายทศวรรษ 1980 หลังจากถูกเลี้ยงดูด้วย semitism ป้องกันและปัญหาที่เกิดจากรังสี Leonid ตัดสินใจย้ายไปอิสราเอลโดยไม่ลังเลทันทีที่เปิดประตูบน 14 อาจ 1990 ครอบครัว Afremov ซ้ายโดยรถไฟจากมินสก์ไปวอร์ซอที่พวกเขาอยู่ในพัก 3 วัน แล้ว บน 17 1990 พฤษภาคม พวกเขาเอาเที่ยวบินให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอิสราเอลอิสราเอล ครอบครัว Afremov เป็นคนแรกที่ย้ายจากโซเวียตในคลื่นตรวจคนเข้าเมืองชาวยิวรัสเซีย – 1990

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1975 Afremov พบภรรยาของเขาจะเป็น Inessa Kagan ที่เขาแต่งงานในปีต่อไป ในปี 1977 ลูกชายคนแรกของเขา Dmitry เกิด ครอบครัวของเด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้น 2 ห้องพักร่วมกับผู้ปกครอง Inessa ของคุณยายและน้องสาว ในปี 1982 พวกเขาซื้อบ้านของตัวเองที่พวกเขาอาศัยอยู่จนถึงปี 1990 หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัย Afremov ทำงานเป็นนักออกแบบฉลากในเบียร์และสุราโรงงานในท้องถิ่น จากนั้นเขาก็สั้น ๆ ทำงานอยู่ในโรงละครท้องถิ่นเป็นนักออกแบบชุด.
ในช่วงต้นปี 1980 เขาเริ่มทำงานฟรีแลนซ์สำหรับฟาร์มของชุมชนและโรงเรียนการออกแบบและการทำโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อต่างๆแกนห้องและผนังสำหรับการจัดกิจกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์บางอย่างและวันหยุด นอกจากนี้เขายังทำรูปปั้นแม่แบบของเลนินจากพลาสเตอร์ เขามีชื่อเสียงที่ดีมากในสาขาที่และได้รับเชิญให้กลับมาหลาย ๆ ฟาร์มและโรงเรียน ประเภทของงานนี้มีเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ ในพฤศจิกายน 1984 ลูกชายคนที่สองของเขาบอริสเกิด. Leonid ด้านซ้ายกับครอบครัวปี 1989 ในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียเย็น Afremov อยู่ที่ภาพวาดบ้าน เขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการจัดนิทรรศการของรัฐบาลเพราะรากของชาวยิวและไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นสมาชิกของสมาคมศิลปะท้องถิ่น งานแรกของเขาคือการขายแบบส่วนตัวผ่านครอบครัวและเพื่อน ๆ และก็ไม่มีใครเห็นโดยคนจำนวนมาก จำนวนมากของการทำงานของเขาในปี 1980 เพิ่งได้รับไปฟรี เขาไม่ได้เก็บบันทึกการทำงานของเขาแล้วและไม่มากของมันรอดชีวิต ปัจจุบันเขาไม่ได้มีภาพของอะไรก่อนปี 1990 ในปี 1986 ภัยพิบัติที่เชอร์โนบิลที่เกิดขึ้น Vitebsk เป็นเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตรจากเชอร์โนบิลใกล้พอสำหรับการฉายรังสีจะเดินทางมากับลมและฝน สถานการณ์ของระบบนิเวศในพื้นที่แย่พืชท้องถิ่นและกลายเป็นน้ำที่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีออกมาเสีย เด็กเล็กได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงรวมถึงลูกชายวัยสองขวบของ Afremov ในเวลาเดียวกัน Leonid Afremov กำลังประสบปัญหาการเลือกปฏิบัติอย่างจริงจังและด่าเป็นมรดกของชาวยิว การเมืองเสรีนิยมของ Mikhail Gorbachev ได้รับอนุญาตให้พลเมืองของสหภาพโซเวียตของชาวยิวในการโยกย้ายไปยังอิสราเอลในปลายทศวรรษ 1980 หลังจากที่ถูกเบื่อกับการต่อต้านชาวยิวและปัญหาที่เกิดจากรังสี Leonid ตัดสินใจที่จะย้ายไปยังอิสราเอลโดยไม่ลังเลทันทีที่ประตูถูกเปิด. เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1990 ครอบครัว Afremov ซ้ายโดยรถไฟจากมินสค์ไปยังกรุงวอร์ซอที่พวกเขาอยู่ในหอพัก 3 วัน จากนั้นในวันที่ 17 พฤษภาคม 1990 พวกเขาเอาเครื่องบินไปอิสราเอลให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอิสราเอล ครอบครัว Afremov เป็นกลุ่มแรกที่อพยพมาจากสหภาพโซเวียตในคลื่นลูกตรวจคนเข้าเมืองของรัสเซียยิวของปี 1990

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1975 afremov พบภรรยาของเขาเป็น inessa คาแกน คนที่เขาแต่งงานกันในปีต่อไป ในปี 1977 ลูกชายคนแรกของเขา Dmitry เกิด ครอบครัวยังอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ 2 ห้องร่วมกับผู้ปกครอง inessa , ยายและน้องสาว ในปี 1982 พวกเขาซื้อพวกเขาเป็นเจ้าของบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่จนถึงปี 1990 หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัย afremov ทำงานเป็นนักออกแบบฉลากเบียร์ท้องถิ่นและโรงงานสุรา แล้วเขาสั้น ๆทำงานในโรงละครท้องถิ่น เป็นชุด ดีไซเนอร์ในช่วงต้น 1980 เขาเริ่มทำงานอิสระสำหรับฟาร์มของชุมชนและโรงเรียน ออกแบบและทำป้ายโฆษณาต่างๆ , ห้องและผนังสำหรับเหตุการณ์คอมมิวนิสต์บางและวันหยุด เขายังทำแม่แบบรูปปั้นของเลนิน จากปูนปลาสเตอร์ เขาได้รับชื่อเสียงดีมากในสาขานั้น และได้รับเชิญกลับไปฟาร์มมากมาย และโรงเรียน งานประเภทนี้ใช้ได้เฉพาะในช่วงฤดูร้อน และฤดูใบไม้ผลิ ในพฤศจิกายน 2527 ลูกชายคนที่สองของเขาบอริสเกิดเลโอนิด บนซ้ายกับครอบครัว 1989ในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียอยู่ที่เย็น afremov ภาพวาดบ้าน เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในการจัดนิทรรศการรัฐบาลเพราะรากของเขาชาวยิวและไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นสมาชิกของสมาคมศิลปะท้องถิ่น งานแรกของเขาคือการขายส่วนตัวผ่านทางครอบครัวและเพื่อน และไม่เห็นด้วยหลายคน มากของงานของเขาใน 1980 ก็แจกฟรี เขาไม่ได้เก็บบันทึกการทำงานของเขาแล้วและไม่เหมือนมันรอดมาได้ ปัจจุบันเขาไม่ได้มีรูปอะไรก่อนปี 1990ในปี 1986 ภัยพิบัติเชอร์โนบิลเกิดขึ้น มอลโดวาเป็นเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตรจากเชอร์โนบิล ใกล้พอที่จะรังสีเดินทางกับลมและฝน ระบบนิเวศ สถานการณ์ในพื้นที่เลวร้าย ท้องถิ่นพืชและน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีเป็นกัมมันตภาพรังสี เด็กเล็กได้รับผลกระทบอย่างมาก รวมทั้ง afremov สองขวบ ลูกชาย ในเวลาเดียวกัน ลีโอนิด afremov ประสบการร้ายแรงและดูหมิ่นสำหรับชาวยิวมรดกของเขา การเมืองเสรีนิยมของมิคาอิล กอร์บาชอฟ อนุญาตประชาชนโซเวียตชาวยิวอพยพไปยังอิสราเอลในไฟต์ล่าช้า หลังจากเบื่อหน่ายกับปัญหาต่อต้านชาวยิว และเกิดจากรังสี เลโอนิด ตัดสินใจที่จะย้ายไปยังอิสราเอลโดยไม่ลังเล ทันทีที่ประตูถูกเปิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2533 ครอบครัว afremov ซ้ายโดยรถไฟจากเมืองมินสค์ในวอร์ซอที่พวกเขาอยู่ในหอพัก เป็นเวลา 3 วัน แล้ววันที่ 17 พฤษภาคม 1990 พวกเขาใช้เวลาเที่ยวบินไป อิสราเอล โดย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอิสราเอล ครอบครัว afremov เป็นหนึ่งในครั้งแรกที่จะโยกย้ายจากสหภาพโซเวียตในรัสเซีย และชาวยิวอพยพคลื่นของยุค 90