Bull calves (n = 49), born at the U

Bull calves (n = 49), born at the University of Minnesota West Central Research and Outreach Center (Morris) between March and May 2011, were used to compare growth measurements and profitability of conventional and organic dairy steers. Calves were assigned to 1 of 3 replicated groups at birth: conventional (CONV; n = 16), organic (pasture and concentrate; ORG; n = 16), or organic grass only (GRS; n = 17), and analysis of variables was on a pen basis. Breed groups of calves were Holstein (HO; n = 9); Holsteins (n = 11) maintained at 1964 breed average level; crossbreds (n = 19) including combinations of HO, Montbéliarde, and Swedish Red; and crossbreds (n = 10) including combinations of HO, Jersey, Swedish Red, and Normande. The CONV steers were fed a diet of 80% concentrate and 20% forage. The ORG steers were fed a diet of organic corn, organic corn silage, and at least 30% of their diet consisted of organic pasture during the grazing season. The GRS steers grazed pasture during the grazing season and were fed high-quality hay or hay silage during the nongrazing season. Intakes of a total mixed ration were recorded daily with herd management software. A profit function was defined to include revenues and expenses for beef value, feed intake, pasture intake, health cost, and yardage. The GRS (358.6 kg) steers had lesser total gains from birth to slaughter than ORG (429.6 kg) and CONV (534.5 kg) steers. Furthermore, the GRS (0.61 kg/d) steers had lesser average daily gain from birth compared with ORG (0.81 kg/d) and CONV (1.1 kg/d) steers. The GRS and ORG steers had smaller rib eye area (49.5 and 65.8 cm2, respectively) compared with CONV (75.4 cm2) steers. For profitability, GRS steers had 43% greater profit than CONV steers due to organic beef price premiums and lower feed costs. On the other hand, ORG steers had substantially less profit than CONV steers. The higher cost of production for the ORG steers is due to the extreme high value of organic corn. The results of the current study illustrate the economic potential of alternative strategies for growing and marketing male offspring of organic dairy cattle in the Midwest.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Bull วัว (n = 49), เกิดที่มหาวิทยาลัยมินเนโซต้าเวสท์ศูนย์กลางวิจัยและศูนย์บริการวิชาการ (มอร์ริส) ระหว่างเดือนมีนาคมถึง 2554 พฤษภาคม ใช้ในการเปรียบเทียบการวัดการเจริญเติบโตและผลกำไรของสำเร็จนมธรรมดา และอินทรีย์ วัวถูกกำหนดเป็น 1 กลุ่ม 3 จำลองที่เกิด: ธรรมดา (CONV; n = 16), อินทรีย์ (ทุ่งหญ้า และมี สมาธิ องค์กร n = 16), หรือหญ้าอินทรีย์เท่านั้น (GRS; n = 17), และการวิเคราะห์ตัวแปรตามปากกา กลุ่มสายพันธุ์ของวัวถูกโฮลชไตน์ (โฮจิมินห์ n = 9); Holsteins (n = 11) ยังคงอยู่ที่ระดับเฉลี่ยของสายพันธุ์ 1964 ลสไตน์ (n = 19) รวมทั้งชุดโฮ Montbéliarde และ แดงสวีเดน ลสไตน์และ (n = 10) รวมทั้งชุดโฮ เจอร์ซีย์ แดงสวีเดน และ Normande สำเร็จ CONV ได้รับอาหารข้น 80% และ 20% อาหารสัตว์ สำเร็จองค์กรได้รับอาหารข้าวโพดอินทรีย์ อินทรีย์ข้าวโพดไซเลจต่อ และน้อยกว่า 30% ของอาหารของพวกเขาประกอบด้วยพาสเจอร์อินทรีย์ในระหว่างฤดูกาล grazing สำเร็จ GRS grazed พาสเจอร์ระหว่างฤดูกาล grazing และได้รับคุณภาพเฮย์หรือไซเลจต่อเฮย์ใน nongrazing ภาคของอาหารผสมรวมได้บันทึกทุกวันกับซอฟต์แวร์การจัดการฝูง มีกำหนดฟังก์ชันกำไรรวมรายได้และค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเนื้อ อาหารบริโภค พาสเจอร์ปริมาณ ต้นทุนสุขภาพ และ yardage GRS (358.6 กิโลกรัม) ปัญหามีน้อยกว่าผลรวมกำไรเกิดเข่นฆ่ากว่าองค์กร (429.6 กิโลกรัม) และปัญหา CONV (534.5 กิโลกรัม) นอกจากนี้ สำเร็จ GRS (0.61 kg/d) ได้ค่าเฉลี่ยน้อยกว่าทุกวันที่ได้รับจากการเกิดเปรียบเทียบกับองค์กร (0.81 kg/d) และปัญหา CONV (1.1 kg/d) สำเร็จ GRS และองค์กรได้ตั้งตาซี่โครงเล็ก (49.5 และ 65.8 cm2 ตามลำดับ) เมื่อเทียบกับสำเร็จ (75.4 cm2) CONV สำหรับผลกำไร GRS ปัญหามี 43% กำไรมากกว่า กว่า CONV สำเร็จเนื่องจากอินทรีย์เนื้อเบี้ยราคาต่ำกว่าต้นทุนเลี้ยง บนมืออื่น ๆ สำเร็จองค์กรมีกำไรมากน้อยกว่าปัญหา CONV ต้นทุนสูงกว่าผลิตสำเร็จองค์กรเนื่องจากค่าสูงสุดของข้าวโพดอินทรีย์ได้ ผลของการศึกษาปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของทางเลือกกลยุทธ์ การเติบโตตลาดลูกหลานชายของนมอินทรีย์ละมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลูกวัวกระทิง (n = 49) เกิดที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตาตะวันตกกลางศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ (มอร์ริส) ระหว่างเดือนมีนาคมและเดือนพฤษภาคม 2011, ถูกนำมาใช้เพื่อเปรียบเทียบการวัดการเจริญเติบโตและการทำกำไรของนมโคธรรมดาและอินทรีย์ น่องได้รับมอบหมายให้ 1 จาก 3 กลุ่มการจำลองแบบที่เกิด: ธรรมดา (CONV; n = 16), อินทรีย์ (ทุ่งหญ้าและมีสมาธิ; ORG; n = 16) หรือหญ้าอินทรีย์เท่านั้น (GRS; n = 17) และการวิเคราะห์ของตัวแปร อยู่บนพื้นฐานปากกา กลุ่มสายพันธุ์ของลูกเป็นโฮล (HO; n = 9); Holsteins (n​​ = 11) ไว้ที่ 1,964 สายพันธุ์ระดับค่าเฉลี่ย; ลูกผสม (n = 19) รวมถึงการรวมกันของ HO, ซุปเปอร์, และสวีเดนแดง; และลูกผสม (n = 10) รวมถึงการรวมกันของ HO, นิวเจอร์ซีย์, สวีเดนแดงและ Normande โค CONV ได้รับอาหารข้น 80% และอาหารสัตว์ 20% โค ORG ได้รับการเลี้ยงดูอาหารของข้าวโพดอินทรีย์ข้าวโพดหมักอินทรีย์และอย่างน้อย 30% ของอาหารของพวกเขาประกอบด้วยทุ่งหญ้าอินทรีย์ในช่วงฤดู​​ทุ่งเลี้ยงสัตว์ โค GRS เล็มหญ้าทุ่งหญ้าในช่วงฤดู​​ทุ่งเลี้ยงสัตว์และได้รับการเลี้ยงดูฟางมีคุณภาพสูงหรือหมักฟางในช่วงฤดู​​ nongrazing การบริโภคของอาหารผสมทั้งหมดถูกบันทึกไว้ทุกวันด้วยซอฟต์แวร์การจัดการฝูง ฟังก์ชั่นกำไรได้รับการกำหนดให้มีรายได้และค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเนื้อปริมาณอาหารที่กินปริมาณทุ่งหญ้า, ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและความระมัดระวัง GRS (358.6 กิโลกรัม) โคมีกำไรรวมน้อยตั้งแต่แรกเกิดถึงฆ่ากว่า ORG (429.6 กิโลกรัม) CONV (534.5 กิโลกรัม) โค นอกจากนี้ GRS (0.61 กก. / วัน) โคมีกำไรเฉลี่ยต่อวันน้อยตั้งแต่แรกเกิดเมื่อเทียบกับ ORG (0.81 กก. / วัน) และ CONV (1.1 กก. / วัน) โค GRS และนำพา ORG มีพื้นที่ซี่โครงขนาดเล็ก (49.5 และ 65.8 cm2 ตามลำดับ) เมื่อเทียบกับ CONV (75.4 cm2) โค สำหรับการทำกำไรโค GRS มีกำไรมากขึ้น 43% กว่าโค CONV เนื่องจากพรีเมี่ยมราคาเนื้อวัวอินทรีย์และลดต้นทุนอาหารสัตว์ ในทางตรงกันข้าม, ORG โคมีกำไรอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่า CONV โค ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นของการผลิตเพื่อนำพา ORG เกิดจากการที่มีมูลค่าสูงมากของข้าวโพดอินทรีย์ ผลที่ได้จากการศึกษาในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของกลยุทธ์ทางเลือกสำหรับการเจริญเติบโตและการตลาดลูกหลานชายของโคนมอินทรีย์ในมิดเวสต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัวลูกวัว ( n = 49 ) เกิดที่ศูนย์วิจัยส่วนกลางและประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยมินนิโซตา West ( มอริส ) ระหว่างเดือนมีนาคมและพฤษภาคม 2554 เพื่อเปรียบเทียบการวัดการเจริญเติบโตและผลกำไรปกติและอินทรีย์นมเพศผู้ . ลูกโคได้รับ 1 ใน 3 ของจำนวนกลุ่มที่กำเนิด : ปกติ ( CONV ; n = 16 ) , อินทรีย์ ( หญ้าและสมาธิ ; การทำงาน ; n = 16 )หรืออินทรีย์หญ้าเท่านั้น ( GRS ; n = 17 ) และการวิเคราะห์ตัวแปรที่เป็นปากกา พื้นฐาน กลุ่มพันธุ์ของลูกโคโฮลสไตน์ ( โฮ ) ; n = 9 ) holsteins ( n = 11 ) ไว้ที่ระดับเฉลี่ย 2507 พันธุ์ ; พันธุ์ ( n = 19 ) รวมถึงการรวมกันของโฮ montb é liarde , สวีเดนสีแดง และพันธุ์ ( N = 10 ) รวมถึงการรวมกันของโฮ , Jersey , สวีเดนสีแดง normande .ที่ลำเลียงโคได้รับอาหารข้น 80% และ 20% อาหารสัตว์ ส่วนเพศผู้ที่ได้รับอาหารจากข้าวโพดอินทรีย์ข้าวโพดหมักอินทรีย์และอย่างน้อย 30% ของอาหารของพวกเขาประกอบด้วยทุ่งหญ้าปศุสัตว์อินทรีย์ในช่วงฤดูกาล โดย GRS ทุ่งหญ้าทุ่งเลี้ยงสัตว์มี ถากในระหว่างฤดูกาลและได้รับหญ้าแห้งหรือฟางหมักที่มีคุณภาพสูงใน nongrazing ฤดูกาลการบริโภคของอาหารผสมครบส่วนที่ถูกบันทึกไว้ทุกวัน กับซอฟต์แวร์การจัดการฝูง กำไรคือนิยามฟังก์ชัน ได้แก่ รายได้ และค่าใช้จ่าย สำหรับค่า ปริมาณอาหารที่กินหญ้า เนื้อ , ปริมาณ , ต้นทุน , สุขภาพและหลา . โดย GRS ( 358.6 กิโลกรัม ) มีได้น้อย รวมกำไรจากกำเนิดฆ่ากว่า org ( 429.6 กิโลกรัม ) และลำเลียง ( 534.5 กิโลกรัม ) มี . นอกจากนี้ GRS ( 061 kg / d ) ดำเนินการได้น้อยกว่าค่าเฉลี่ยรายวันได้ตั้งแต่แรกเกิด เมื่อเทียบกับองค์กร ( 0.77 kg / d ) และลำเลียง ( 1.1 kg / d ) โค . และมีขนาดเล็กที่ GRS org มีซี่โครง ( 65.8 cm2 และพื้นที่ 49.5 ตามลำดับ ) เมื่อเทียบกับลำเลียง ( 22.8 ตร. ซม. ) มี . เพื่อทำกำไร ได้มากกว่า 80% มี GRS กำไรกว่า CONV เพศผู้เนื่องจากเบี้ยราคาเนื้อวัวอินทรีย์และลดต้นทุนอาหารสัตว์ บนมืออื่น ๆมีไรมากน้อยกว่า org ได้ลำเลียงซาก . สูงกว่าต้นทุนการผลิตสำหรับองค์กรดำเนินการเนื่องจากมูลค่าสูงสุดของข้าวอินทรีย์ ผลการศึกษาในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกลยุทธ์ทางเลือกสำหรับการปลูกและการตลาดลูกชายของอินทรีย์ การเลี้ยงโคนมในมิดเวสต์