India is the birthplace of Hinduism

India is the birthplace of Hinduism, Buddhism, Jainism and Sikhism, collectively known as Indian religions.[4] Indian religions are a major form of world religions along with Abrahamic ones. Today, Hinduism and Buddhism are the world's third and fourth-largest religions respectively, with over 2 billion followers altogether,[5][6][7] and possibly as many as 2.5 or 2.6 billion followers.[5][8]

India is one of the most religiously diverse nations in the world, with some of the most deeply religious societies and cultures. Religion plays a central and definitive role in the life of many of its people.

According to the 2011 census, 78.35% of the population of India practice Hinduism. Islam (14.88%), Christianity (2.5%), Sikhism (1.9%), Buddhism (0.8%) and Jainism (0.4%) are the other major religions followed by the people of India.[9][10] Many tribal religions, such as Sarnaism, are found in India, though these have been affected by major religions such as Hinduism, Buddhism, Islam and Christianity.[11] Jainism, Zoroastrianism, Judaism, and the Bahá'í Faith are also influential but their numbers are smaller.[11] Atheism and agnostics also have visible influence in India, along with a self-ascribed tolerance to other faiths.[11]

The Hindu religion has many schools, each with their own unique views.[12] For example, according to Yogavasistha, a spiritual text of the Advaita school of Hindu religion, the values of the liberated (Hindi: जीवन्मुक्ति), self-actualised human being, may be summarised as follows:[13][14][15] "Pleasures do not delight him; pains do not distress. Although engaged in worldly actions, he has no attachment to any object. He is busy outwardly, yet calm inwardly. He feels free from restrictions of scriptures, customs, age, caste or creed. He is happy, but his happiness does not depend on anything else. He does not feel needy, proud, agitated, troubled, depressed or elated. He is full of compassion and forgiveness even to those who mean him harm. He does the right thing, regardless of the pressures. He is patient, perseverant, and without any impurity in his heart. He is free of delusions, he does not crave for anything. His sense of freedom comes from his spirit of inquiry. The fruits of his inquiry are his strength, intellect, efficiency and punctuality. He keeps company of wise and enlightened persons. He is content."

There is significant historical discourse in India on the notion, relevance, and the existence and non-existence of God. Dharmakirti, for example, in the 7th century wrote in Pramanavarttikam:[16][17]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินเดียเป็นบ้านเกิดของฮินดูพุทธศาสนาเชนและศาสนาซิกข์เป็นที่รู้จักกันเป็นอินเดียศาสนา. [4] อินเดียศาสนาเป็นรูปแบบที่สำคัญของศาสนาโลกพร้อมกับคนที่อับราฮัม วันนี้ศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาเป็นอันดับสามของโลกและศาสนาที่สี่ที่ใหญ่ที่สุดตามลำดับโดยมีกว่า 2 พันล้านผู้ติดตามทั้งหมด [5] [6] [7] และอาจจะมากที่สุดเท่าที่ 2.5 หรือ 2600000000 ติดตาม. [5] [8] อินเดีย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายมากที่สุดในโลกศาสนาที่มีบางส่วนของสังคมที่เคร่งศาสนามากที่สุดและวัฒนธรรม ศาสนามีบทบาทสำคัญและชัดเจนในชีวิตของหลายคนของตน. ตามการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2011 78.35% ของประชากรของประเทศอินเดียปฏิบัติศาสนาฮินดู ศาสนาอิสลาม (14.88%) คริสต์ (2.5%) ศาสนาซิกข์ (1.9%) พระพุทธศาสนา (0.8%) และเชน (0.4%) เป็นศาสนาที่สำคัญอื่น ๆ ตามมาด้วยคนของอินเดีย. [9] [10] ศาสนาของชนกลุ่มน้อยจำนวนมาก เช่น Sarnaism จะพบในประเทศอินเดียแม้ว่าเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากศาสนาที่สำคัญเช่นฮินดูพุทธศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์. [11] เชนโซโรอัสเตอร์ศาสนายูดายและBaháíผู้ศรัทธานอกจากนี้ยังมีอิทธิพล แต่ตัวเลขของพวกเขา ที่มีขนาดเล็ก. [11] ต่ำช้าและงมงายยังมีอิทธิพลต่อการมองเห็นในอินเดียพร้อมกับความอดทนตนเองกำหนดศาสนาอื่น ๆ . [11] ศาสนาฮินดูมีโรงเรียนจำนวนมากแต่ละคนมีมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง. [12] ตัวอย่างเช่นตาม เพื่อ Yogavasistha, ข้อความจิตวิญญาณของโรงเรียนแอดของศาสนาฮินดูค่าของไท (ภาษาฮินดี: जीवन्मुक्ति) ที่ตัวเอง actualised มนุษย์อาจจะสรุปได้ดังนี้ [13] [14] [15] "ความสุขไม่ได้ ความสุขของเขาปวดไม่ทุกข์แม้ว่ามีส่วนร่วมในการดำเนินการทางโลกเขามีสิ่งที่แนบมากับวัตถุใด ๆ ที่เขาไม่ว่างภายนอก แต่ความสงบในใจ.. เขารู้สึกเป็นอิสระจากข้อ จำกัด ของพระคัมภีร์ศุลกากรอายุวรรณะหรือความเชื่อ เขามีความสุข แต่ความสุขของเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งอื่น เขาไม่ได้รู้สึกยากจนภาคภูมิใจใจทุกข์หดหู่เศร้าหรือความสุข เขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยความรักความเมตตาและการให้อภัยแม้กับผู้ที่เขาหมายถึงอันตราย เขาทำสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่คำนึงถึงความกดดัน เขาเป็นผู้ป่วย Perseverant และไม่มีสิ่งเจือปนในหัวใจของเขาใด ๆ เขาเป็นอิสระจากการหลงผิดที่เขาไม่อยากอะไร ความรู้สึกของเขาเสรีภาพมาจากจิตวิญญาณของเขาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ผลของการสอบสวนของเขามีความแข็งแรงของเขาสติปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพและตรงต่อเวลา เขาช่วยให้ บริษัท ของบุคคลที่ฉลาดและรู้แจ้ง เขาเป็นเนื้อหา ". มีวาทกรรมทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในอินเดียในความคิดที่เกี่ยวข้องและการดำรงอยู่และไม่ดำรงอยู่ของพระเจ้า Dharmakirti ตัวอย่างเช่นในศตวรรษที่ 7 เขียนไว้ใน Pramanavarttikam:. [16] [17]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินเดียเป็นสถานที่เกิดของศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ ศาสนาเชน และศาสนาซิกข์ , รวมเรียกว่าอินเดียศาสนา . [ 4 ] อินเดียศาสนาเป็นหลักรูปแบบของศาสนาโลกพร้อมกับอับราฮัมที่ วันนี้ ศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่สามและสี่ตามลำดับ กว่า 2 พันล้านบาท ผู้ติดตามทั้งหมด [ 5 ] [ 6 ] [ 7 ] และอาจจะมากที่สุดเท่าที่ 2.5 หรือ 2.6 พันล้าน followers . [ 5 ] [ 8 ]

อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายมากที่สุดหรือใน โลกมีที่สุดบางลึกทางศาสนา สังคม และวัฒนธรรม ศาสนามีบทบาทกลาง และเด็ดขาดในชีวิตของผู้คนจำนวนมากของมัน

ตาม 2011 ทะเบียนบ้าน 78.35 % ของประชากรของการปฏิบัติอินเดีย ศาสนาฮินดู ศาสนาอิสลาม ( 40.10% ) ศาสนาคริสต์ ( ร้อยละ 2.5 ) , ศาสนาซิกข์ ( 1.9% ) , พุทธศาสนา ( 0.8% ) และเชน ( 04 % ) เป็นศาสนาหลักๆ ตามคนอินเดีย [ 9 ] [ 10 ] หลายองค์การศาสนา เช่น sarnaism จะพบในอินเดีย แต่เหล่านี้จะได้รับผลกระทบจากศาสนา เช่น ฮินดู พุทธ อิสลาม และคริสต์ [ 11 ] ศาสนาเชน ศาสนาโซโรอัสเตอร์ศาสนายูดาย และบา , มาร์ตินยังมีอิทธิพลต่อความเชื่อ . kgm ' แต่ตัวเลขของพวกเขามีขนาดเล็ก[ 11 ] และยังได้ agnostics Atheism มองเห็นอิทธิพลในอินเดีย พร้อมกับตนเองดีต่อศาสนาอื่น ๆ . [ 11 ]

นับถือศาสนาฮินดู มีหลายโรงเรียนที่แต่ละคนมีมุมมองเฉพาะของตนเอง . [ 12 ] ตัวอย่างเช่น ตาม yogavasistha , ข้อความทางจิตวิญญาณของ advaita โรงเรียนของศาสนาฮินดู , คุณค่าของการปลดปล่อย ( ภาษาฮินดี : जीवन्मुक्ति ) ด้วยตนเอง actualised มนุษย์อาจจะสรุปได้ดังนี้ [ 13 ] [ 14 ] [ 15 ] " ความสุขที่ไม่พอใจเขา เจ็บปวด ไม่ทุกข์ ถึงแม้ว่าการกระทำร่วมในทางโลก เขาไม่ยึดติดกับวัตถุใด ๆ เขายุ่งอยู่ภายนอก ยังสงบอยู่ในใจ เขารู้สึกฟรีจากข้อ จำกัด ของพระคัมภีร์ , ศุลกากร , อายุ , วรรณะหรือศาสนา . เขามีความสุข แต่ความสุขของเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งใด เขาไม่ได้รู้สึกขัดสน , ภูมิใจ , กระสับกระส่ายทุกข์เศร้าหรือร่าเริง เขาเต็มไปด้วยความเมตตา และการให้อภัย แม้ผู้ที่หมายความว่าเขาอันตราย เขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยไม่สนใจแรงกดดัน . เขาเป็นคนไข้ ยืนหยัดอยู่ได้ และปราศจากความมัวหมองในจิตใจของเขา เขาเป็นอิสระของการหลอกตัวเอง เขาไม่อยากกินอะไรเลย ความรู้สึกของเขาเป็นอิสระที่มาจากพระวิญญาณของพระองค์ สอบถามได้ ผลของการสอบสวนของเขาเป็นพลัง สติปัญญาประสิทธิภาพ และการตรงต่อเวลา เขาทำให้ บริษัท ของปัญญา และบุคคลที่ตรัสรู้ . เขาพอใจ "

มีวาทกรรมทางประวัติศาสตร์ในอินเดีย ในแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่และไม่ใช่การดำรงอยู่ของพระเจ้า dharmakirti ตัวอย่างเช่น ในศตวรรษที่ 7 เขียนใน pramanavarttikam : [ 16 ] [ 17 ]