The One and the Many Very early in

The One and the Many
Very early in history, the idea of one Reality manifest in many forms became commonly accepted among Hindus. They were convinced that differences in names and forms did not mean that they represented different realities. Hindus recognize one Supreme Being, while they maintain that He makes Himself available to humans in many forms and names. All the deities are aspects of the Truth of the Supreme Spirit. Brahman, or God, is the source and sustenance of all things material and spiritual; He is self existent and subsists everywhere and in everything, and without Him nothing is or can be. In the evolution of the Hindu tradition, this idea of God as unity has been present right from the time of the ancient text, the Rigveda. The innumerable names and forms of God are merged in the Supreme Brahman, who is worshipped as Unity. But the names and forms of the One are recognized as useful. Hence the oft-quoted verse from the Rigveda: “Reality is one; sages call it by different names.” This idea is also responsible for the Hindu view that the visions of the Divine as presented in other religious traditions are also valid as expressions of Truth. One of the greatest breakthroughs in the Hindu tradition came when the Upanishadic seers discovered that the Ultimate Reality is nameless and formless, and yet makes itself available to us in many names and forms. Because of this the core truth of Hinduism finds expression in monotheistic traditions as well as in non-theistic traditions. This is one of the great strengths of of the religion.

Early Greek and Roman thinkers were interested in India’s material, cultural and spiritual riches. Greek philosophers were among the first to take note of India's uniqueness. Modern British, French and German thinkers have continued the inquiry. Five hundred years ago, Columbus went in search of India. He missed it and landed in America. Now America has broadened western interest in the wisdom of the subcontinent. The Theosophical Society, founded by Madame Blavatsky and Colonel Olcott in New York, has made many Hindu classics available to the English reading public. Ralph Waldo Emerson, one of the seminal figures in American cultural history, drew attention to the significance of Hindu thought, and recommended that American youth read “Hindu books”. Other influential leaders who have derived inspiration from the Hindu thought include Thomas Jefferson, Henry David Thoreau, Walt Whitman, Mark Twain, Aldous Huxley, Christopher Isherwood, to name but a few. In recent years, more and more scientists have noted striking similarities between Hindu philosophy and modern scientific thinking. It is fascinating that affirmations of Hindu sacred texts find conformity with modern science in matters such as cosmology, astronomy, causality, the conception of time and structure of the universe and the theory of evolution. Some scientists are turning towards the East, especially to Hindu treatises, for insight into macrocosmic and microcosmic worlds. Dr. Carl Sagan wrote: “the Hindu religion is the only one of the world’s great faiths dedicated to the idea that the cosmos itself undergoes an immense number of births and rebirths. It is the only religion in which the time scales correspond to those of modern scientific cosmology.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งและใน แรกสุดในประวัติศาสตร์ ความคิดของรายการจริงหนึ่งในหลายรูปแบบเป็นทั่วไปที่ยอมรับระหว่างฮินดู พวกเขามีความเชื่อมั่นว่า ความแตกต่างในฟอร์มและชื่อไม่ไม่ได้หมายความ ว่า พวกเขาแสดงความเป็นจริงที่แตกต่างกัน ฮินดูรู้จักหนึ่งฎีกาอยู่ ในขณะที่พวกเขารักษาว่า เขาทำให้ตัวเองมีกับมนุษย์ในหลายรูปแบบและชื่อ เทวดาทุกแง่มุมของความจริงของจิตวิญญาณสูงสุดได้ Brahman หรือพระเจ้า เป็นต้นและบวงสรวงสิ่งวัสดุทั้งหมด และจิต วิญญาณ เขาคือตนเองมีอยู่ และ subsists ทุกที่ และ ในทุกสิ่ง แล้วไม่ มีเขา ไม่มี หรือสามารถ ในวิวัฒนาการของประเพณีฮินดู นี้ความคิดของพระเจ้าเป็นความสามัคคีได้จากเวลาของข้อความโบราณ ฤคเวทในปัจจุบัน ชื่อนับไม่ถ้วนและรูปแบบของพระเจ้าถูกผสาน Brahman สุพรีม ที่เคารพบูชาเป็นสามัคคี แต่ชื่อและรูปแบบมีการรับรู้ประโยชน์ ดังนั้นข้อเสนอราคา oft จากฤคเวทนี้: "ความจริงเป็นหนึ่ง ลอินเตอร์เรียกชื่อที่แตกต่างกัน" ความคิดนี้ก็ชอบดูฮินดูที่วิสัยทัศน์ของพระเจ้าตามที่ปรากฏในประเพณีทางศาสนาอื่น ๆ ยังใช้เป็นนิพจน์ของจริง หนึ่งของนวัตกรรมใหม่สุดในประเพณีฮินดูมาเมื่อ Upanishadic seers ค้นพบว่า ความเป็นจริงที่ดีที่สุดนิรนาม และเกม และยัง ทำให้ตัวเองมีเราในหลายชื่อและรูปแบบ ด้วยเหตุนี้ หลักความจริงของศาสนาฮินดูค้นหานิพจน์ในประเพณีที่ monotheistic เช่นในประเพณีไม่ใช่ theistic นี้เป็นหนึ่งในจุดแข็งจุดดีของศาสนา Early Greek and Roman thinkers were interested in India’s material, cultural and spiritual riches. Greek philosophers were among the first to take note of India's uniqueness. Modern British, French and German thinkers have continued the inquiry. Five hundred years ago, Columbus went in search of India. He missed it and landed in America. Now America has broadened western interest in the wisdom of the subcontinent. The Theosophical Society, founded by Madame Blavatsky and Colonel Olcott in New York, has made many Hindu classics available to the English reading public. Ralph Waldo Emerson, one of the seminal figures in American cultural history, drew attention to the significance of Hindu thought, and recommended that American youth read “Hindu books”. Other influential leaders who have derived inspiration from the Hindu thought include Thomas Jefferson, Henry David Thoreau, Walt Whitman, Mark Twain, Aldous Huxley, Christopher Isherwood, to name but a few. In recent years, more and more scientists have noted striking similarities between Hindu philosophy and modern scientific thinking. It is fascinating that affirmations of Hindu sacred texts find conformity with modern science in matters such as cosmology, astronomy, causality, the conception of time and structure of the universe and the theory of evolution. Some scientists are turning towards the East, especially to Hindu treatises, for insight into macrocosmic and microcosmic worlds. Dr. Carl Sagan wrote: “the Hindu religion is the only one of the world’s great faiths dedicated to the idea that the cosmos itself undergoes an immense number of births and rebirths. It is the only religion in which the time scales correspond to those of modern scientific cosmology.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งและหลายมากในช่วงต้นประวัติศาสตร์ความคิดของหนึ่งในความเป็นจริงที่ประจักษ์ในหลายรูปแบบกลายเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในหมู่ชาวฮินดู พวกเขาได้รับความเชื่อมั่นว่าความแตกต่างในชื่อและรูปแบบก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของความเป็นจริงที่แตกต่างกัน ชาวฮินดูรู้จักหนึ่งอิสลามขณะที่พวกเขายืนยันว่าเขาทำให้ตัวเองสามารถใช้ได้กับมนุษย์ในหลายรูปแบบและชื่อ เทพทั้งหมดที่มีแง่มุมของความจริงของพระวิญญาณศาลฎีกา พราหมณ์หรือพระเจ้าเป็นแหล่งที่มาและการดำรงชีวิตของทุกสิ่งที่วัสดุและจิตวิญญาณ; เขาเป็นคนที่มีอยู่ในตนเองและมีอายุทุกที่และในทุกอย่างและไม่มีพระองค์ไม่มีอะไรที่เป็นหรืออาจจะเป็น ในการวิวัฒนาการของประเพณีฮินดูความคิดของพระเจ้านี้เป็นความสามัคคีที่ได้รับสิทธิในปัจจุบันจากเวลาของข้อความโบราณฤคเวท ชื่อนับไม่ถ้วนและรูปแบบของพระเจ้าจะรวมอยู่ในศาลฎีกาพราหมณ์ที่เป็นที่บูชาความสามัคคี แต่ชื่อและรูปแบบของคนที่ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นข้อผู้ทรงยกมาจากฤคเวท: "ความจริงก็คือหนึ่ง ปราชญ์เรียกมันด้วยชื่อที่แตกต่างกัน. "ความคิดนี้ยังเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับมุมมองของชาวฮินดูที่วิสัยทัศน์ของพระเจ้าที่แสดงในประเพณีทางศาสนาอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการแสดงออกที่ถูกต้องเป็นความจริง หนึ่งในนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเพณีฮินดูมาเมื่อพยากรณ์ Upanishadic พบว่าเป็นความจริงสูงสุดนิรนามและรูปร่างและยังทำให้ตัวเองมีให้เราในหลายชื่อและรูปแบบ เพราะความจริงข้อนี้หลักของศาสนาฮินดูพบการแสดงออกในประเพณี monotheistic เช่นเดียวกับในประเพณีที่ไม่ theistic นี้เป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ดีของศาสนา. นักคิดในช่วงต้นของกรีกและโรมันมีความสนใจในวัสดุของอินเดียร่ำรวยทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ นักปรัชญาชาวกรีกเป็นกลุ่มแรกที่จะทราบความเป็นเอกลักษณ์ของอินเดีย โมเดิร์นอังกฤษนักคิดที่ฝรั่งเศสและเยอรมันได้อย่างต่อเนื่องสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ห้าร้อยปีที่ผ่านมา, โคลัมบัสไปในการค้นหาของประเทศอินเดีย เขาคิดถึงมันและที่ดินในอเมริกา ตอนนี้อเมริกาได้ขยายความสนใจตะวันตกในภูมิปัญญาของทวีปที่ สังคมฟิก่อตั้งโดยมาดาม Blavatsky และพันเอก Olcott ในนิวยอร์กได้ทำคลาสสิกของชาวฮินดูจำนวนมากที่มีให้กับประชาชนในการอ่านภาษาอังกฤษ ราล์ฟวอลโดเอเมอร์สันเป็นหนึ่งในตัวเลขในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอเมริกันดึงความสนใจไปอย่างมีนัยสำคัญของความคิดของชาวฮินดูและขอแนะนำให้เยาวชนอเมริกันอ่าน "หนังสือฮินดู" ผู้นำที่มีอิทธิพลอื่น ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความคิดของชาวฮินดูรวมถึงโทมัสเจฟเฟอร์สัน, เฮนรี่เดวิด ธ อโร, วอลท์วิทแมน, มาร์คทเวนฮักซ์ลีย์, คริสโตเฟอร์ Isherwood เพื่อชื่อ แต่ไม่กี่ ในปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์มากขึ้นและได้ตั้งข้อสังเกตลักษณะคล้ายคลึงกันระหว่างปรัชญาฮินดูและความคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ยืนยันคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดูพบว่าสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในเรื่องดังกล่าวเป็นจักรวาลดาราศาสตร์เวรกรรมความคิดของเวลาและโครงสร้างของจักรวาลและทฤษฎีวิวัฒนาการ นักวิทยาศาสตร์บางคนจะเปลี่ยนไปทางทิศตะวันออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งบทความฮินดูสำหรับความเข้าใจในโลก macrocosmic และเศรษฐศาสตร์จุลภาค ดร. คาร์ลเซแกนเขียน: "ศาสนาฮินดูเป็นเพียงหนึ่งในสภาพความเป็นอยู่ที่ดีของโลกที่อุทิศตนเพื่อความคิดที่ว่าจักรวาลของตัวเองได้รับเป็นจำนวนอันยิ่งใหญ่ของการเกิดและเหม่อลอย มันเป็นศาสนาเดียวที่ชั่งน้ำหนักในเวลาที่สอดคล้องกับของจักรวาลทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งและหลาย
มากก่อนในประวัติศาสตร์ ความคิดของความเป็นจริงที่ปรากฏในหลายรูปแบบ เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปในหมู่ชาวฮินดู พวกเขาเชื่อว่าความแตกต่างในชื่อและรูปแบบไม่ได้หมายความ ว่า พวกเขาแสดงความเป็นจริงที่แตกต่างกัน ชาวฮินดูรู้จักหนึ่งสูงสุดเป็น ในขณะที่พวกเขารักษาที่เขาทำให้ตัวเองของมนุษย์ในชื่อหลายรูปแบบและเทพทั้งหมดเป็นลักษณะของความจริงของจิตวิญญาณสูงสุด พราหมณ์หรือพระ เป็นแหล่งอาหารของวัตถุ และจิตวิญญาณ เขาและตนเองที่มีอยู่ subsists ทุกที่และทุกอย่างและไม่มีเขาไม่มีอะไร หรือสามารถ ในวิวัฒนาการของประเพณีฮินดู นี่ความคิดของพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวที่ได้รับของขวัญจากเวลาของข้อความโบราณประกวดประขัน .ชื่อนับไม่ถ้วน และรูปแบบของพระเจ้าถูกผสานในพราหมณ์บรม ผู้ที่นมัสการเป็นเอกภาพ แต่ชื่อและรูปของคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นประโยชน์ ดังนั้นผู้ทรงยกมาข้อจากฤคเวท : " ความจริงเป็นหนึ่ง ; ปราชญ์เรียกมันด้วยชื่อที่แตกต่างกัน" ความคิดนี้ยังเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับชาวฮินดูมุมมองที่นิมิตของพระเจ้าแสดงเป็นในประเพณีทางศาสนาอื่น ๆยังใช้เป็นนิพจน์ของความจริง หนึ่งในนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเพณีฮินดูมาเมื่อผู้ทำนาย upanishadic ค้นพบว่า ความจริงสูงสุดคือนิรนาม และเชื่อ และยังทำให้ตัวเองสามารถใช้ได้กับเราในอีกหลายชื่อและรูปแบบเพราะเรื่องนี้ หลักความจริงของศาสนาฮินดูพบการแสดงออกในประเพณีเกี่ยวกับความเชื่อว่าพระเจ้ามีองค์เดียว รวมทั้งไม่ theistic ประเพณี นี้เป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ของศาสนา กรีกโรมันก่อน

และนักคิดมีความสนใจในวัสดุของอินเดีย ความร่ำรวยทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ นักปรัชญากรีกเป็นหนึ่งในครั้งแรกที่จะใช้หมายเหตุของเอกลักษณ์ของอินเดีย ที่ทันสมัยของอังกฤษฝรั่งเศสและเยอรมันนักคิดมีต่อสอบถาม ห้าร้อยปีก่อน โคลัมบัสไปในการค้นหาของอินเดีย เขาทำพลาด และที่ดินในอเมริกา ตอนนี้ที่อเมริกามีพัฒนาความสนใจในภูมิปัญญาตะวันตกของทวีป . สังคมฟิ ก่อตั้งโดยมาดามบลาวัตสกี และพันเอกโอลเคิตในนิวยอร์ก ทำให้ศาสนาฮินดูมากมายให้ประชาชนอ่านภาษาอังกฤษRalph Waldo Emerson , หนึ่งในตัวเลขที่อุดมสมบูรณ์ในประวัติศาสตร์อเมริกัน , ดึงความสนใจไปที่ความสำคัญของฮินดูคิด และแนะนำให้เยาวชนอเมริกันอ่าน " หนังสือ " ฮินดู ผู้นำที่มีอิทธิพลอื่น ๆที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฮินดูว่า ได้แก่ โทมัส เจฟเฟอร์สันเฮนรี่ เดวิด ธอโร วอลท์ วิทแมน มาร์คทเวน , อัลดัส ฮักซ์ลีย์ คริสโตเฟอร์ อิสเชอร์วูด เพื่อชื่อ แต่ไม่กี่ในปีล่าสุดมากขึ้นและนักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตความคล้ายคลึงกันระหว่างโดดเด่นฮินดูปรัชญาและความคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย มันเป็นที่น่าสนใจว่า ความศักดิ์สิทธิ์ของฮินดูข้อความค้นหาสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในเรื่องต่างๆ เช่น จักรวาลวิทยา ดาราศาสตร์ , ความสัมพันธ์ , ความคิดของเวลาและโครงสร้างของจักรวาลและทฤษฎีของวิวัฒนาการนักวิทยาศาสตร์บางคนจะเปลี่ยนไปทางตะวันออก โดยเฉพาะบทความ ฮินดู สำหรับข้อมูลเชิงลึกใน macrocosmic เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์จุลภาคและโลก ดร. คาร์ล ซาแกน wrote : " ศาสนาฮินดูเป็นหนึ่งเดียวของโลกศาสนาที่ดีทุ่มเทให้กับความคิดที่ว่าจักรวาลเองผ่านจำนวนมหาศาลของการเกิดและไป .มันเป็นศาสนาเดียวที่เวลาชั่งสอดคล้องกับบรรดาของจักรวาลวิทยาทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่”