WHAT ARE THE DIFFERENCES BETWEEN A

WHAT ARE THE DIFFERENCES BETWEEN A CLINICAL SOCIAL WORKER AND A COUNSELOR?
If you’re considering a career in counseling, you may wonder what educational and career path is right for you. Both counseling and clinical social work are rewarding occupations that allow the practitioner to help people cope with emotional and psychological problems they are facing. Both professions require an advanced education, the right state-mandated credentials and a compassionate, communicative nature. However, despite their many similarities, these are two separate job descriptions within the field of mental health, and they require aspiring professionals to take different paths to earning an education, attaining relevant work experience and obtaining a license.
SIMILARITIES BETWEEN COUNSELORS AND SOCIAL WORKERS
The goal of mental health professionals, whether counselors or clinical social workers, is generally the same: to help people deal with problems in their lives. Through psychotherapy, counselors and clinical social workers help patients talk through their problems and develop the coping strategies they need to deal with or resolve psychological and emotional issues. To obtain a position in either one of these fields, you will have to invest your time and money in earning a graduate-level education. Both types of mental health professionals may work with patients from various backgrounds. Counselors and clinical social workers find employment in many types of settings, such as hospitals and private practices.
KEY DIFFERENCES
Job titles are the most obvious difference between counselors and social workers. The official title for counselors is licensed mental health counselor, school counselor or family counselor. For social workers who work in this capacity, the official title is licensed clinical social worker. Counselors, of course, all counsel patients. However, not all social workers are clinical social workers, working in the field of mental health. Clinical social workers provide counseling in addition to help accessing social services.
While both mental health counselors and clinical social workers must earn a master’s level degree, their educational paths will differ. At the master’s level, counseling degree programs prepare students to identify disorders, administer psychotherapy and understand the emotional and psychological ramifications of troubled relationships and stressful situations. Clinical social workers must earn a master’s degree in social work (MSW) from a two-year program that includes training in clinical assessments, coursework in case management and a hands-on experience requirement, according to the United States Bureau of Labor Statistics. Mental health counselors also earn slightly more money per counseling session than clinical social workers, according to the American Mental Health Counselors Association.
Though clinical social workers develop the skills to provide psychotherapy, their job duties differ slightly from counselors. They may be less likely to offer services such as crisis management. Instead, they are more likely to help patients or clients locate resources they can use to change their own circumstances, rather than simply changing their own ways of coping with problems. Despite the distinctions in educational preparation courses and career perspectives, both clinical social workers and counselors enjoy the opportunity to make a real difference in clients’ lives.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความแตกต่างระหว่างสังคมสงเคราะห์คลินิกที่ปรึกษาบ้างหากคุณกำลังพิจารณามีอาชีพในการให้คำปรึกษา คุณอาจสงสัยว่า เส้นทางการศึกษา และสายอาชีพใดเหมาะกับคุณ สังคมสงเคราะห์ให้คำปรึกษา และทางคลินิกจะให้รางวัลอาชีพที่อนุญาตให้ผู้ประกอบการเพื่อช่วยรับมือกับปัญหาทางอารมณ์ และจิตใจที่พวกเขาเผชิญ ทั้งสองอาชีพต้องการการศึกษาขั้นสูง ขวาบังคับรัฐประจำ และธรรมชาติอย่างทันท่วงที สื่อสาร อย่างไรก็ตาม แม้ มีความคล้ายคลึงของพวกเขามาก มีสองแยกคำอธิบายงานในฟิลด์ของสุขภาพจิต และพวกเขาต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านธีมจะใช้เส้นทางอื่นเพื่อรายได้การศึกษา การบรรลุประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้อง และได้รับใบอนุญาตความเหมือนระหว่างปรึกษาและสังคมเป้าหมายของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ปรึกษาหรือคลินิกประกันสังคมแรงงาน ว่าโดยทั่วไปเหมือนกัน: เพื่อช่วยให้ผู้จัดการกับปัญหาในชีวิต จิตแพทย์ ปรึกษา และผู้ปฏิบัติงานทางคลินิกของสังคมช่วยให้ผู้ป่วยพูดคุยถึงปัญหา และพัฒนาฝรั่งที่พวกเขาต้อง การจัดการกับแก้ไขปัญหาทางอารมณ์ และจิตใจ รับตำแหน่งในอย่างใดอย่างหนึ่งเขตข้อมูลเหล่านี้ คุณจะต้องลงทุนเวลาและเงินรายได้ที่ระดับบัณฑิตศึกษาของคุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตทั้งสองชนิดอาจทำงานกับผู้ป่วยจากพื้นหลังต่าง ๆ ปรึกษาและคลินิกประกันสังคมแรงงานหางานในหลายชนิดของการตั้งค่า โรงพยาบาลและปฏิบัติส่วนตัวความแตกต่างที่สำคัญตำแหน่งงานมีความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างปรึกษาและสังคม เรื่องปรึกษาอย่างเป็นทางเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตได้รับใบอนุญาต โรงเรียน หรือปรึกษาครอบครัว สำหรับสังคมคนทำงานกำลังการผลิตนี้ ชื่ออย่างเป็นทางเป็นเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์คลินิกได้รับใบอนุญาต ปรึกษา แน่นอน ทั้งหมดแนะนำผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม แรงสังคมทั้งหมดไม่มีคลินิกประกันสังคมคนทำงาน ทำงานด้านสุขภาพจิต แรงงานประกันสังคมคลินิกให้คำปรึกษานอกจากช่วยในการเข้าถึงบริการทางสังคมแก่ในขณะที่ปรึกษาสุขภาพจิตและผู้ปฏิบัติงานทางคลินิกของสังคมที่ต้องได้รับเป็นระดับปริญญาโท เส้นทางการศึกษาจะแตกต่างกัน ระดับของหลัก สูตรเตรียมนักเรียนเพื่อระบุความผิดปกติ การให้คำปรึกษาจิตบำบัดดูแล และเข้าใจ ramifications ทางอารมณ์ และจิตใจของความสัมพันธ์ของปัญหาและสถานการณ์ที่เครียด ผู้ปฏิบัติงานทางคลินิกของสังคมต้องได้รับปริญญาในงานสังคม (มูลฝอยจากโปรแกรม 2 ปีที่มีการฝึกอบรมในการประเมินทางคลินิก การสอนในการจัดการกรณีและเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ความต้องการ ตามสหรัฐอเมริกาสำนักแรงงานสถิติ ปรึกษาสุขภาพจิตยังได้รับเงินเพิ่มเติมเล็กน้อยต่อเซสชันกว่าคลินิกประกันสังคมแรงงาน การให้คำปรึกษาตามที่จิตสุขภาพปรึกษาสมาคมอเมริกันแม้ว่าทางคลินิกประกันสังคมแรงงานพัฒนาทักษะในการให้จิตบำบัด หน้าที่การงานของตนแตกต่างเล็กน้อยจากปรึกษา พวกเขาอาจจะโน้มให้บริการจัดการเหตุวิกฤต แทน พวกเขาจะมีแนวโน้มที่จะช่วยให้ผู้ป่วยหรือลูกค้าที่ค้นหาทรัพยากรที่สามารถใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของตัวเอง มากกว่าเพียงแค่เปลี่ยนวิธีรับมือกับปัญหาของตนเอง แม้ มีข้อแตกต่างในหลักสูตรเตรียมศึกษาและมุมมองอาชีพ คลินิกประกันสังคมแรงงานและปรึกษากับโอกาสในการสร้างความแตกต่างที่แท้จริงในชีวิตของลูกค้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อะไรคือความแตกต่างระหว่างนักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกและที่ปรึกษาหรือไม่หากคุณกำลังพิจารณาอาชีพในการให้คำปรึกษาคุณอาจสงสัยว่าเส้นทางการศึกษาและอาชีพที่เหมาะกับคุณ ทั้งการให้คำปรึกษาและการทำงานทางคลินิกสังคมเป็นอาชีพที่คุ้มค่าที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการที่จะช่วยให้ผู้คนรับมือกับปัญหาทางอารมณ์และจิตใจพวกเขากำลังเผชิญ อาชีพทั้งสองต้องรับการศึกษาขั้นสูงที่เหมาะสมข้อมูลประจำตัวของรัฐที่ได้รับคำสั่งและความเห็นอกเห็นใจธรรมชาติการสื่อสาร อย่างไรก็ตามแม้จะมีความคล้ายคลึงกันมากของพวกเขาเหล่านี้เป็นสองคำบรรยายลักษณะงานที่แยกต่างหากภายในเขตของสุขภาพจิตและพวกเขาจำเป็นต้องใช้มืออาชีพที่ต้องการที่จะใช้เส้นทางที่แตกต่างกันการหารายได้การศึกษาบรรลุประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องและได้รับใบอนุญาต.
ความคล้ายคลึงกันระหว่างปรึกษาของท่านและสังคมแรงงาน
เป้าหมายของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาหรือนักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกโดยทั่วไปจะเหมือนกันที่จะช่วยให้ผู้คนจัดการกับปัญหาในชีวิตของพวกเขา ผ่านจิตบำบัดให้คำปรึกษาและนักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกที่ช่วยให้ผู้ป่วยพูดคุยผ่านปัญหาของพวกเขาและการพัฒนากลยุทธ์การเผชิญปัญหาที่พวกเขาต้องการที่จะจัดการกับปัญหาหรือแก้ไขจิตใจและอารมณ์ ที่จะได้รับตำแหน่งใดคนหนึ่งของเขตข้อมูลเหล่านี้คุณจะต้องลงทุนเวลาและเงินของคุณในการได้รับการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งสองประเภทของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอาจทำงานร่วมกับผู้ป่วยที่มาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน ที่ปรึกษาและนักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกพบว่าการจ้างงานในหลายประเภทของการตั้งค่าเช่นโรงพยาบาลและการปฏิบัติส่วนตัว.
KEY
แตกต่างชื่องานที่มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดระหว่างที่ปรึกษาและนักสังคมสงเคราะห์ ชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับการให้คำปรึกษาได้รับใบอนุญาตผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตให้คำปรึกษาหรือที่ปรึกษาโรงเรียนครอบครัว สำหรับสังคมที่ทำงานในฐานะชื่ออย่างเป็นทางการได้รับใบอนุญาตสังคมสงเคราะห์ทางคลินิก ที่ปรึกษาของหลักสูตรที่ปรึกษาผู้ป่วยทั้งหมด แต่ไม่ทุกคนงานสังคมเป็นสังคมทางคลินิกทำงานในด้านของสุขภาพจิต นักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกให้คำปรึกษานอกจากจะช่วยให้การเข้าถึงบริการทางสังคม.
ขณะที่ทั้งสองให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตและนักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกจะต้องได้รับระดับปริญญาโทเส้นทางศึกษาของพวกเขาจะแตกต่างกัน ในระดับปริญญาโทที่หลักสูตรปริญญาการให้คำปรึกษาการเตรียมความพร้อมของนักเรียนในการระบุความผิดปกติดูแลจิตบำบัดและทำความเข้าใจเครือข่ายทางอารมณ์และจิตใจของความสัมพันธ์ที่มีปัญหาและสถานการณ์ที่เครียด นักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกจะต้องได้รับปริญญาโทในการทำงานทางสังคม (ขยะ) จากโปรแกรมสองปีที่มีการฝึกอบรมในการประเมินผลทางคลินิกการเรียนการสอนในการจัดการกรณีและมือบนความต้องการประสบการณ์ตามที่สหรัฐอเมริกาสำนักสถิติแรงงาน ให้คำปรึกษาสุขภาพจิตยังได้รับเงินมากขึ้นเล็กน้อยต่อให้คำปรึกษากว่านักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกตามที่สุขภาพจิตที่ปรึกษาสมาคมอเมริกัน.
แม้ว่านักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกพัฒนาทักษะเพื่อให้จิตบำบัดหน้าที่การงานของพวกเขาต่างออกไปเล็กน้อยจากที่ปรึกษา พวกเขาอาจจะมีโอกาสน้อยที่จะนำเสนอบริการเช่นการจัดการวิกฤต แต่พวกเขามีแนวโน้มที่จะช่วยให้ผู้ป่วยหรือลูกค้าค้นหาทรัพยากรที่พวกเขาสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของตัวเองมากกว่าเพียงแค่การเปลี่ยนรูปแบบของตัวเองในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น แม้จะมีความแตกต่างในการจัดทำหลักสูตรการศึกษาและมุมมองอาชีพทั้งนักสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกและที่ปรึกษาเพลิดเพลินไปกับโอกาสที่จะสร้างความแตกต่างที่แท้จริงในชีวิตของลูกค้าส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือความแตกต่างระหว่างนักสังคมสงเคราะห์คลินิกและที่ปรึกษา ?
หากคุณกำลังพิจารณาอาชีพในการให้คำปรึกษา คุณอาจสงสัยว่า การศึกษา และอาชีพที่เหมาะสำหรับคุณ ทั้งการให้คำปรึกษาและสังคมสงเคราะห์ทางคลินิกเป็นอาชีพที่คุ้มค่า ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการที่จะช่วยให้ผู้คนจัดการกับปัญหาทางอารมณ์และจิตใจที่พวกเขาเผชิญทั้งสองอย่างต้องมีการศึกษาขั้นสูง , รัฐถูกบังคับสิทธิและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น แบบธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความคล้ายคลึงกันมากของพวกเขา เหล่านี้เป็นสองงาน แยก ภายในเขตของสุขภาพจิต และพวกเขาต้องมีธีมมืออาชีพที่จะใช้เส้นทางที่แตกต่างกันไป รายได้ การศึกษา การบรรลุประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง และการขอรับใบอนุญาต
ความคล้ายคลึงกันระหว่างที่ปรึกษาและผู้ปฏิบัติงานทางสังคม
เป้าหมายของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ว่าปรึกษาหรือนักสังคมสงเคราะห์คลินิก โดยทั่วไปเดียวกัน : เพื่อช่วยให้ผู้คนจัดการกับปัญหาในชีวิตของพวกเขา ผ่านจิตบำบัดปรึกษา และนักสังคมสงเคราะห์คลินิกช่วยให้ผู้ป่วยพูดคุยผ่านปัญหาของพวกเขาและพัฒนากลวิธีการเผชิญปัญหาที่พวกเขาต้องการที่จะจัดการหรือแก้ไขปัญหาทางจิตใจและอารมณ์ เพื่อให้ได้ตำแหน่งในหนึ่งของเขตข้อมูลเหล่านี้ คุณจะต้องลงทุนเวลาและเงินของคุณในรายได้ในระดับบัณฑิตศึกษาทั้งสองประเภทของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอาจทำงานกับผู้ป่วยจากภูมิหลังที่หลากหลาย ปรึกษา และนักสังคมสงเคราะห์คลินิกพบการจ้างงานในหลายประเภทของการตั้งค่า เช่น โรงพยาบาล เอกชน แนวทางปฏิบัติ ที่สำคัญความแตกต่าง

งานชื่อมีความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างผู้ให้คำปรึกษา และนักสังคมสงเคราะห์ ชื่ออย่างเป็นทางการของวิทยาลัยได้รับใบอนุญาตที่ปรึกษาสุขภาพจิตครูที่ปรึกษาหรือที่ปรึกษาของครอบครัว สำหรับนักสังคมสงเคราะห์ที่ปฏิบัติงานในความจุนี้ ชื่ออย่างเป็นทางการได้รับใบอนุญาตนักสังคมสงเคราะห์คลินิก ที่ปรึกษา , แน่นอน , ผู้ป่วยที่ปรึกษาทั้งหมด แต่ทั้งหมดไม่ได้เป็นนักสังคมสงเคราะห์นักสังคมสงเคราะห์คลินิก การทำงานในด้านสุขภาพจิต นักสังคมสงเคราะห์คลินิกให้การปรึกษา นอกจากจะช่วยในการเข้าถึงบริการทางสังคม
ในขณะที่ทั้งสุขภาพจิต ปรึกษา และนักสังคมสงเคราะห์คลินิกต้องได้รับปริญญาระดับปริญญาโท เส้นทางการศึกษาของพวกเขาจะแตกต่างกัน ในระดับปริญญาโท หลักสูตรปริญญาให้คำปรึกษาเตรียมนักเรียนเพื่อระบุความผิดปกติให้จิตบำบัดและเข้าใจปัญหา ความสัมพันธ์ของปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ และสถานการณ์ที่เคร่งเครียดนักสังคมสงเคราะห์คลินิกต้องได้รับปริญญาโทในการทำงานทางสังคม ( ขยะ ) จากสองโปรแกรมที่มีการฝึกอบรมในการประเมินทางคลินิก การสอนในการจัดการกรณีและความต้องการประสบการณ์ภาคปฏิบัติตามสหรัฐอเมริกาสํานักงานสถิติแรงงาน ผู้ให้คำปรึกษาสุขภาพจิตยังได้รับเงินเพิ่มเติมเล็กน้อยต่อเซสชั่นการให้คำปรึกษามากกว่านักสังคมสงเคราะห์คลินิกตามที่อเมริกันสมาคมสุขภาพจิต ปรึกษาสุขภาพ .
ถึงแม้ว่านักสังคมสงเคราะห์คลินิกพัฒนาทักษะการให้จิตบำบัด หน้าที่งานของพวกเขาแตกต่างกันเล็กน้อยจากที่ปรึกษา พวกเขาอาจจะมีโอกาสน้อยที่จะให้บริการเช่นการจัดการภาวะวิกฤติ แทน พวกเขามีแนวโน้มที่จะช่วยให้ผู้ป่วยหรือลูกค้าค้นหาทรัพยากรที่พวกเขาสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ของพวกเขาเองมากกว่าเพียงแค่การเปลี่ยนวิธีการของตนเองในการจัดการกับปัญหา แม้จะมีความแตกต่างในหลักสูตรเตรียมศึกษาและมุมมองอาชีพนักสังคมสงเคราะห์ทั้งทางคลินิกและปรึกษาเพลิดเพลินกับโอกาสที่จะสร้างความแตกต่างที่แท้จริงในชีวิตของลูกค้า