Exposure to high concentrations of

Exposure to high concentrations of mercury is known to cause damage to the nervous system, kidney and liver in human beings [13–15]. It has been reported that mercury interferes with numerous cellular activities, such as cellular repair enzymes to enhance genotoxicity [60] and significantly decreased DNA repair efficiency with the duration of exposure [17]. Mercury compounds are known to be potent chemical agents that cause DNA damage in cells. Strand breaks in DNA, unlike the breaks caused by X-rays, cannot be easily repaired [61]. In the present study, it was found that fish exposed
even to sublethal concentration of Hg(II) resulted in a significant (p < 0.05, p < 0.001) increase in the frequency of chromosomal aberrations after all the exposure periods compared with the group I, but lower than the group II. As the exposure time increased, the percentage of aberrations per metaphase and percentage incidence of aberrant cells was also increased up to 72 h and then decreased subsequently (Table 2). Single-strand breaks may arise directly from
the binding of mercury with DNA. Inorganic mercury was found to be teratogenic [18] and mutagenic [19] in the killfish, Fundulus heteroclitus. In another study, mercury was found to induce significant cytogenetic damage in terms of micronuclei in hepatocytes of salmonid rainbow trout, Oncorhynchus mykiss [62] and, in renal erythrocytes of European minnow Phoxinus phoxinus and mollie Poecilia latipinna [63]. All mercury compounds interfere with thiol metabolism, causing inhibition or inactivation of proteins containing thiol ligands and ultimately leading to mitotic disturbances

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สัมผัสกับความเข้มข้นสูงของปรอทเป็นที่รู้จักกันทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาท โรคไต และตับในมนุษย์ [13-15] มีรายงานว่า สารปรอทรบกวนกิจกรรมที่โทรศัพท์มือถือมากมาย เช่นเอนไซม์ซ่อมโทรศัพท์มือถือเพื่อเพิ่ม genotoxicity [60] และลดลงซ่อมแซมดีเอ็นเอด้วยระยะเวลาของแสง [17] สารปรอทเป็นที่รู้จักกันเป็น สารเคมีที่มีศักยภาพที่ทำให้เกิดความเสียหายของดีเอ็นเอในเซลล์ แบ่งสาระในดีเอ็นเอ ซึ่งแตกต่างจากการแบ่งที่เกิดจากรังสีเอกซ์ ไม่สามารถซ่อมแซมได้อย่างง่ายดาย [61] ในการศึกษาปัจจุบัน พบปลาสัมผัสsublethal ถึงแม้ความเข้มข้นของ Hg(II) ผลมีนัยสำคัญ (p < 0.05, 0.001 < p) เพิ่มความถี่ของความคลาดเคลื่อนของโครโมโซมหลังจากรอบระยะเวลาเปิดรับแสงเมื่อเทียบกับกลุ่ม แต่ต่ำกว่ากลุ่มที่สอง เวลาการรับแสงเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นต์ของความคลาดเคลื่อนต่ออุบัติการณ์ metaphase และเปอร์เซ็นต์ของเซลล์ aberrant เป็นยังเพิ่มขึ้นถึง 72 ชม. และลดลงในเวลาต่อมา (ตารางที่ 2) แบ่งสาระเดียวที่อาจเกิดขึ้นโดยตรงจากการรวมปรอทดีเอ็นเอ ปรอทอนินทรีย์พบ teratogenic [18] และ mutagenic [19] ใน killfish, Fundulus heteroclitus ในการศึกษาอื่น ปรอทก็จะก่อให้เกิดความเสียหายของ cytogenetic สำคัญในแง่ของ micronuclei ในเซลล์ตับของ salmonid เรนโบว์เทราท์ mykiss สกุลปลาแซลมอนแปซิฟิก [62] และ เม็ดเลือดแดงไตของปลาซิวยุโรป Phoxinus phoxinus และมอลลี่ปลา latipinna [63] สารปรอททั้งหมดรบกวนการเผาผลาญ thiol ก่อให้เกิดการยับยั้งหรือฤทธิ์โปรตีน thiol ligands ที่ประกอบด้วย และในที่สุด นำไปสู่การรบกวน mitotic

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัมผัสกับความเข้มข้นสูงของปรอทเป็นที่รู้จักกันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาทไตและตับในมนุษย์ [13-15] มันได้รับรายงานว่าดาวพุธรบกวนกับกิจกรรมมือถือมากมายเช่นเอนไซม์ซ่อมโทรศัพท์มือถือเพื่อเพิ่มพันธุกรรม [60] และลดลงอย่างมีนัยสำคัญประสิทธิภาพการซ่อมแซมดีเอ็นเอที่มีระยะเวลาของการสัมผัส [17] สารประกอบของปรอทเป็นที่รู้จักเป็นสารเคมีที่มีศักยภาพที่ก่อให้เกิดความเสียหายของดีเอ็นเอในเซลล์ แบ่ง Strand ใน DNA ซึ่งแตกต่างจากการแบ่งที่เกิดจากรังสีเอกซ์ไม่สามารถซ่อมแซมได้อย่างง่ายดาย [61] ในการศึกษาครั้งนี้พบว่าปลาสัมผัส
แม้แต่เข้มข้นข้างของปรอท (II) ส่งผลให้มีนัยสำคัญ (p <0.05, p <0.001) การเพิ่มขึ้นของความถี่ของความผิดปกติของโครโมโซมหลังจากที่ทุกรอบระยะเวลาการเปิดรับเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ฉัน แต่ต่ำกว่ากลุ่มที่สอง เป็นเวลาที่ได้รับเพิ่มขึ้นร้อยละของความผิดปรกติต่อ metaphase และร้อยละอุบัติการณ์ของเซลล์ที่ผิดปกติก็เพิ่มขึ้นถึง 72 ชั่วโมงและจากนั้นลดลงต่อมา (ตารางที่ 2)
แบ่งสาระโสดอาจจะเกิดขึ้นโดยตรงจาก ผลผูกพันของปรอทกับดีเอ็นเอ ปรอทนินทรีย์ถูกพบว่าเป็นทารกอวัยวะพิการ [18] และกลายพันธุ์ [19] ใน killfish ที่ Fundulus heteroclitus ในการศึกษาอื่นปรอทก็พบว่าจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญทาง cytogenetic ในแง่ของ micronuclei ในเซลล์ตับของ salmonid เรนโบว์เทราท์, Oncorhynchus mykiss [62] และในเม็ดเลือดแดงของไตสร้อยยุโรป Phoxinus phoxinus และมอลลี Poecilia latipinna [63] ทั้งหมดสารประกอบของปรอทยุ่งเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหาร thiol ทำให้เกิดการยับยั้งหรือการใช้งานของโปรตีนที่มีแกนด์ thiol และในที่สุดนำไปสู่การรบกวนทิคส์ ร้อยละของความผิดปรกติต่อ metaphase และร้อยละอุบัติการณ์ของเซลล์ที่ผิดปกติก็เพิ่มขึ้นถึง 72 ชั่วโมงและจากนั้นลดลงต่อมา (ตารางที่ 2) แบ่งสาระโสดอาจจะเกิดขึ้นโดยตรงจาก ผลผูกพันของปรอทกับดีเอ็นเอ ปรอทนินทรีย์ถูกพบว่าเป็นทารกอวัยวะพิการ [18] และกลายพันธุ์ [19] ใน killfish ที่ Fundulus heteroclitus ในการศึกษาอื่นปรอทก็พบว่าจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญทาง cytogenetic ในแง่ของ micronuclei ในเซลล์ตับของ salmonid เรนโบว์เทราท์, Oncorhynchus mykiss [62] และในเม็ดเลือดแดงของไตสร้อยยุโรป Phoxinus phoxinus และมอลลี Poecilia latipinna [63] ทั้งหมดสารประกอบของปรอทยุ่งเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหาร thiol ทำให้เกิดการยับยั้งหรือการใช้งานของโปรตีนที่มีแกนด์ thiol และในที่สุดนำไปสู่การรบกวนทิคส์ ร้อยละของความผิดปรกติต่อ metaphase และร้อยละอุบัติการณ์ของเซลล์ที่ผิดปกติก็เพิ่มขึ้นถึง 72 ชั่วโมงและจากนั้นลดลงต่อมา (ตารางที่ 2) แบ่งสาระโสดอาจจะเกิดขึ้นโดยตรงจาก ผลผูกพันของปรอทกับดีเอ็นเอ ปรอทนินทรีย์ถูกพบว่าเป็นทารกอวัยวะพิการ [18] และกลายพันธุ์ [19] ใน killfish ที่ Fundulus heteroclitus ในการศึกษาอื่นปรอทก็พบว่าจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญทาง cytogenetic ในแง่ของ micronuclei ในเซลล์ตับของ salmonid เรนโบว์เทราท์, Oncorhynchus mykiss [62] และในเม็ดเลือดแดงของไตสร้อยยุโรป Phoxinus phoxinus และมอลลี Poecilia latipinna [63] ทั้งหมดสารประกอบของปรอทยุ่งเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหาร thiol ทำให้เกิดการยับยั้งหรือการใช้งานของโปรตีนที่มีแกนด์ thiol และในที่สุดนำไปสู่การรบกวนทิคส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แสงความเข้มข้นสูงของปรอท คือ ที่รู้จักกันเพื่อทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาท ไต และตับมนุษย์ [ 13 – 15 ] มันได้รับรายงานว่าปรอทรบกวนกับกิจกรรมของเซลล์ต่าง ๆ เช่น ซ่อมแซมเซลล์ เอนไซม์เสริมว่า [ 60 ] และลดลงประสิทธิภาพการซ่อมแซมดีเอ็นเอกับระยะเวลาของแสง [ 17 ] ปรอท เป็นที่รู้จักกันเป็นสารเคมีร้ายแรงที่ก่อให้เกิดความเสียหายของดีเอ็นเอในเซลล์ ดีเอ็นเอเกลียวแตกใน ไม่แบ่งรังสีเอกซ์สามารถได้อย่างง่ายดายซ่อมแซม [ 61 ] ในการศึกษาครั้งนี้พบว่า ตากปลาแม้แต่สมาธิพิษปรอท ( II ) ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ ( p < 0.05 , p < 0.001 ) การเพิ่มความถี่ของกรุปหลังจากการเปิดรับรอบระยะเวลาเมื่อเทียบกับกลุ่มฉัน แต่น้อยกว่าในกลุ่มที่ 2 เป็นแสงเพิ่มขึ้น ร้อยละของจำนวนการต่อโครโมโซมผิดปกติ เซลล์ก็เพิ่มขึ้นถึง 72 ชั่วโมง จากนั้นลดลงในภายหลัง ( ตารางที่ 2 ) แบ่งเส้นเดียวอาจเกิดขึ้นโดยตรงจากผูกพันของปรอทด้วยดีเอ็นเอ ปรอทอนินทรีย์ คือ teratogenic [ 18 ] และ [ 19 ] การกลายพันธุ์ใน killfish fundulus , heteroclitus . ในการศึกษาอื่น ปรอทพบว่าทำให้เกิดความเสียหายที่สำคัญในแง่ของการไมโครนิวคลีไอในเซลล์ตับของ salmonid เรนโบว์เทราท์เลค คอรินชัส mykiss [ 62 ] และในเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยอยู่นานแล้ว phoxinus และยุโรป phoxinus มอลลี่ poecilia latipinna [ 63 ] ปรอททั้งหมด รบกวนการเผาผลาญ thiol ก่อให้เกิดการยับยั้งหรือการยับยั้งของโปรตีนที่มีขนาดปกติและในที่สุดนำไปสู่การบรรจุด้วยการแปรปรวน