International Budget Partnership; v

International Budget Partnership; viii) FAO Aquastat
2. Key environmental problems and their causes
Cambodia faces a multitude of environmental challenges. Among the most serious are the
combined effects of climate change and construction of large dams on the Mekong and its
tributaries, which will alter the flow regimes of the river and make them more unpredictable.
This will have serious impacts on agriculture and fisheries, the two cornerstones of
Cambodia’s food security and livelihood opportunities.
Other key environmental problems include deforestation, loss of biodiversity and ecosystems,
land degradation, natural hazards and disasters, such as floods and droughts, and water
pollution The degradation of forests and biodiversity is in general due to four key drivers
which are common to the entire Greater Mekong Subregion, namely,6
1. Population growth and increasing population density, along with worsening income
inequality;
2. Unsustainable levels of resource use, increasingly driven by the demands of export-led
growth rather than subsistence use;
3. Unplanned and frequently unsustainable forms of infrastructure development
4. Government policies, along with lack of integrated planning, poor governance, corruption
and wildlife crime on a massive scale.
This negatively affects communities and ecosystems resilience to crises, climate change and
disasters.

6 Adapted from WWF 2013
3
Climate change: Present situation and trends and projected impacts
Cambodia experiences a tropical monsoon climate. The mean annual temperature has
increased by 0.8°C since 1960, a rate of around 0.18°C per decade. The rate of increase is
most rapid in the drier seasons and the frequency of hot days and hot nights has increased
significantly since 1960 in almost every season. Projections of mean annual rainfall from
different models are broadly consistent in indicating increases in rainfall for Cambodia. This
increase is mainly due to the projected increases in wet season rainfalls. Cambodia’s coastline
may be vulnerable to sea‐level rise. Sea‐level in this region is projected by climate models to
rise by 0.18 to 0.56 m in the 2090s, relative to 1980‐1999 sea level:7
The expected impacts of climate change will not be completely novel, rather it is likely that
they will compound and multiply current problems and stresses on communities and
ecosystems. Sea-level rise will worsen the salinization of surface and groundwater resources
that is already identified as a problem in all of Cambodia's coastal provinces and one effect of
climate change will be to augment this existing problem. In addition to salinization, sea-level
rise is expected to increase coastal erosion and may lead to the inundation of economically
important coastal infrastructure as well as increase flooding from storms and storm surges.
It is unclear exactly what effect climate change will have on floods and droughts, due in large
part to uncertainty over changes to the monsoon regime.8
It is clear however that the
hydrological regime upon which inland fisheries depend will change, in particular in the case
of the Mekong, which receives much of its flow from glacier melt from the Himalayan and
Tibetan mountain ranges which will become increasingly less reliable. This may make the
annual flooding of the Mekong River and Tonle Sap Lake less predictable, and at present it is
the unpredictability of floods and droughts that causes the greatest problems, rather than the
severity of the events themselves. This condition is also made worse by dam construction on
the upper Mekong (i.e. in the Yunnan province of China) and should the countries in the
lower basin fulfill their plans for further water infrastructure construction on the mainstream
the situation for Cambodia, being a downstream country, would face huge difficulties in
predicting water regimes in the face of climate change and human interference with the river’s
ecosystem.
Climate change impacts on livelihoods
The changes to the length of seasons, combined with the delayed onset of the wet season after
a longer dry season, will affect traditional cropping practices meaning that huge undertakings
for changing farming methods must be budgeted planned for and implemented.
Increased incidence of livestock disease is also predicted, largely associated with lack of
water and grazing land and the long distance to water sources for livestock. Because larger
livestock are an important investment and means of savings for farmers, these kinds of
impacts can have serious consequences and push people into debt and reduce their financial
safety nets, which exposes them to an inability to access cash when faced with other crises.
Impact on rice yield is predicted to be significant9
, yields will decrease under both high and
low emission scenarios, not least because of increased incidence of pests and disease.
Cambodian capture fisheries are especially vulnerable to the changes in temperature and
hydrological flows that are associated with climate change. Such changes could have
significant impacts on migration, breeding and spawning patterns while also adding pressure
to critical fisheries habitats. In addition, the future of the fisheries sector is also uncertain due

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ห้างหุ้นส่วนงบประมาณระหว่างประเทศ viii) Aquastat FAO2. คีย์ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสาเหตุของพวกเขากัมพูชาใบหน้าหลากหลายของความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ระหว่างร้ายแรงที่สุดรวมผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่บนแม่น้ำโขงและสาย ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงระบอบการไหลของแม่น้ำ และให้มากกว่าที่คาดเดาไม่นี้จะมีผลกระทบร้ายแรงในการเกษตร และประมง สองสิ่งสำคัญของกัมพูชาของอาหารความปลอดภัยและการดำรงชีวิตโอกาสปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอื่น ๆ รวมถึงการทำลายป่า การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศย่อยสลายที่ดิน ภัยธรรมชาติ และ ภัยพิบัติ น้ำท่วม และ droughts และน้ำมลพิษลดประสิทธิภาพของป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพที่มีทั่วไปเนื่องจากโปรแกรมควบคุมหลักสี่ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการทั้งหมดมากกว่าแม่โขงภูมิภาคลุ่ม ได้แก่ 61. อัตราการเติบโตและเพิ่มความหนาแน่นประชากร พร้อมกับรายได้ที่เลวลงความไม่เท่าเทียมกัน2. ระดับ unsustainable ใช้ทรัพยากร การขับเคลื่อน โดยความต้องการของนำส่งออกมากขึ้นเจริญเติบโตมากกว่าชีพใช้3. ไม่ได้วางแผน และมัก unsustainable รูปแบบของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน4. รัฐบาลนโยบาย รวมทั้งขาดการบูรณาการวางแผน กำกับดูแลไม่ดี ความเสียหายและอาชญากรรมสัตว์ป่าบนมาตราส่วนขนาดใหญ่นี้ส่งผลเสียต่อชุมชนและระบบนิเวศความยืดหยุ่นกับวิกฤต การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติ6 ที่ดัดแปลงจาก WWF 20133เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: นำเสนอสถานการณ์ และแนวโน้ม และผลกระทบที่คาดการณ์ไว้กัมพูชาประสบสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประจำปีเพิ่มขึ้น 0.8 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ 1960 อัตราประมาณ 0.18 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ มีอัตราเพิ่มขึ้นมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากที่สุดในฤดูกาลที่แห้งและความถี่ของร้อนวันและคืนอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 1960 ในเกือบทุกฤดูกาล ประมาณของหมายถึง ปริมาณน้ำฝนประจำปีจากแบบที่แตกต่างกันอย่างกว้างขวางในการแสดงการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำฝนสำหรับกัมพูชา นี้เพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากเพิ่มการคาดการณ์ในช่วงฤดูฝนชุก ชายฝั่งของกัมพูชาอาจเสี่ยงต่อการขึ้น sea‐level Sea‐level ในภูมิภาคนี้คาดว่า โดยแบบจำลองสภาพภูมิอากาศเพื่อขึ้น โดย m 0.18-0.56 ใน 2090s สัมพันธ์กับ 1980‐1999 ทะเลระดับ: 7ผลกระทบที่คาดไว้ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะไม่สมบูรณ์นวนิยาย ค่อนข้าง เป็นไปได้ที่พวกเขาจะผสม และคูณปัจจุบันปัญหาและความเครียดในชุมชน และระบบนิเวศ ระดับน้ำทะเลขึ้นจะ worsen salinization ทรัพยากรน้ำบาดาลและพื้นผิวที่จะระบุปัญหาในจังหวัดชายฝั่งทะเลของกัมพูชาทั้งหมดและผลหนึ่งของเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเป็นการ เพิ่มปัญหานี้อยู่ นอกจาก salinization ระดับน้ำทะเลคาดว่าจะเพิ่มการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มขึ้น และอาจนำไปสู่ inundation ของกาญจน์โครงสร้างชายฝั่งที่สำคัญตลอดจนเพิ่มน้ำท่วมจากพายุและพายุกระชากเป็นที่ชัดเจนว่าอะไรเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผลจะมีอุทกภัยและ droughts ครบกำหนดในขนาดใหญ่ส่วนที่ความไม่แน่นอนมากกว่าการเปลี่ยนแปลง regime.8 มรสุมเป็นที่ชัดเจนว่าอย่างไรก็ตามการระบอบอุทกวิทยาซึ่งน้ำจืดขึ้นอยู่จะเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีโขง ซึ่งได้รับมากของของไหลจากธารน้ำแข็งละลายจากหิมาลัย และช่วงเขาทิเบตซึ่งจะกลายเป็นความน่าเชื่อถือน้อยมาก อาจทำให้การปีน้ำท่วม ของแม่น้ำโขงและทานอ Sap ทะเลสาบได้น้อย และปัจจุบันเป็นunpredictability ของอุทกภัยและ droughts ที่ทำให้เกิดปัญหามากที่สุด ดีกว่าความรุนแรงของเหตุการณ์เอง เงื่อนไขนี้ยังทำแย่ลง โดยก่อสร้างเขื่อนแม่น้ำโขงด้านบน (เช่นในมณฑลยูนนานจังหวัดของจีน) และในประเทศควรจะพื้นล่างตามแผนของพวกเขาสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานน้ำเพิ่มเติมในกับสถานการณ์ในประเทศกัมพูชา ประเทศปลายน้ำ กำลังจะเผชิญกับความยากลำบากมากในคาดการณ์น้ำระบอบหน้าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมนุษย์รบกวนของแม่ระบบนิเวศการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตการเปลี่ยนแปลงตามระยะเวลาของฤดูกาล พร้อมกับเริ่มมีอาการล่าช้าของช่วงฤดูฝนหลังจากฤดูกาลแห้งอีกต่อไป จะมีผลต่อปฏิบัติครอบแบบดั้งเดิมขนาดใหญ่นั่นหมายถึงท่านสำหรับการทำฟาร์มเปลี่ยนแปลง วิธีต้องได้รับงบประมาณสำหรับแผน และดำเนินการเพิ่มอุบัติการณ์ของโรคปศุสัตว์ยังคาดว่า ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการขาดน้ำและการ grazing ไกลและที่ดินแหล่งน้ำปศุสัตว์ เนื่องจากมีขนาดใหญ่ปศุสัตว์เป็นการลงทุนที่สำคัญและวิธีการสำหรับเกษตรกร ชนิดเหล่านี้ของผลกระทบที่สามารถมีผลกระทบร้ายแรงและผลักดันคนเป็นหนี้ และลดการเงินตาข่าย ซึ่งให้เห็นถึงการไม่สามารถเข้าถึงเงินสดเมื่อต้องเผชิญกับวิกฤตอื่น ๆผลกระทบต่อผลผลิตข้าวคาดว่า จะ significant9อัตราผลตอบแทนจะลดลงภายใต้ทั้งสูง และสถานการณ์มลพิษต่ำ ไม่น้อยเนื่องจากอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นของโรคและศัตรูพืชกัมพูชาจับประมงอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และขั้นตอนการอุทกวิทยาที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ผลกระทบที่สำคัญในการโยกย้าย การผสมพันธุ์ และวางไข่รูปแบบในขณะที่ยัง เพิ่มความดันการประมงที่สำคัญอยู่อาศัย นอกจากนี้ อนาคตของภาคประมงก็ไม่แน่นอนเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งบประมาณความร่วมมือระหว่างประเทศ viii) FAO Aquastat
2
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและสาเหตุของกัมพูชาเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลายของสิ่งแวดล้อม ในระหว่างที่ร้ายแรงที่สุดเป็นผลรวมของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงและของแควซึ่งจะเปลี่ยนระบอบการไหลของแม่น้ำและทำให้พวกเขาคาดเดาไม่ได้มากขึ้น. นี้จะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเกษตรและการประมงของทั้งสอง สิ่งสำคัญของความมั่นคงด้านอาหารของประเทศกัมพูชาและโอกาสในการทำมาหากิน. ปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัดไม้ทำลายป่าการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศเสื่อมโทรมของที่ดิน, ภัยธรรมชาติและภัยพิบัติเช่นน้ำท่วมและภัยแล้งและน้ำมลพิษการเสื่อมสภาพของป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพที่อยู่ในทั่วไปเนื่องจากการสี่ไดรเวอร์ที่สำคัญซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทั้งอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงคือ 6 1 การเติบโตของประชากรและการเพิ่มความหนาแน่นของประชากรพร้อมกับรายได้ที่เลวร้ายความไม่เท่าเทียมกัน; 2 ระดับที่ไม่ยั่งยืนของการใช้ทรัพยากรได้แรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของการส่งออกที่นำโดยการเติบโตของการใช้งานมากกว่าการดำรงชีวิต; 3 รูปแบบที่ไม่ได้วางแผนและไม่ยั่งยืนบ่อยของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน4 นโยบายของรัฐบาลพร้อมกับการขาดการวางแผนแบบบูรณาการการกำกับดูแลที่ไม่ดีทุจริต. และอาชญากรรมสัตว์ป่าในระดับมากซึ่งส่งผลกระทบต่อชุมชนและระบบนิเวศความยืดหยุ่นต่อวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ. 6 ดัดแปลงมาจาก WWF 2013 3 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: สถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้ม และผลกระทบที่คาดการณ์กัมพูชาประสบการณ์สภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ปีอุณหภูมิเฉลี่ยได้เพิ่มขึ้น 0.8 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ปี 1960 อัตราประมาณ 0.18 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่อย่างรวดเร็วในฤดูกาลแห้งและความถี่ของวันที่อากาศร้อนและคืนร้อนได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี1960 ในเกือบทุกฤดูกาล ประมาณการค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝนประจำปีจากรุ่นที่แตกต่างกันมีความสอดคล้องกันในวงกว้างในการแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำฝนกัมพูชา นี้เพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นในฤดูฝนฝน ชายฝั่งของกัมพูชาอาจมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ระดับน้ำทะเลในภูมิภาคนี้เป็นที่คาดการณ์โดยแบบจำลองภูมิอากาศที่จะเพิ่มขึ้น 0.18-0.56 เมตร 2090s ที่มีความสัมพันธ์กับระดับน้ำทะเล 1,980-1,999: 7 ผลกระทบที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะไม่เป็นนวนิยายสมบูรณ์ แต่ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะสารประกอบและคูณในปัจจุบันและปัญหาความเครียดในชุมชนและระบบนิเวศ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจะเลวลง salinization ทรัพยากรผิวดินและน้ำใต้ดินที่ระบุอยู่แล้วว่าเป็นปัญหาในทุกจังหวัดชายฝั่งของกัมพูชาและส่งผลกระทบอย่างใดอย่างหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเพิ่มปัญหาที่มีอยู่นี้ นอกเหนือไปจากความเค็ม, ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะเพิ่มการกัดเซาะชายฝั่งและอาจนำไปสู่น้ำท่วมของเศรษฐกิจโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่งทะเลที่สำคัญรวมทั้งเพิ่มน้ำท่วมจากพายุและคลื่นพายุ. มันยังไม่ชัดเจนว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลบังคับใช้จะมีน้ำท่วมและ ภัยแล้งเนื่องจากมีขนาดใหญ่ในส่วนของความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนแปลงregime.8 มรสุมเป็นที่ชัดเจนว่าแต่ระบอบการปกครองอุทกวิทยาซึ่งขึ้นอยู่กับการประมงน้ำจืดจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ของแม่น้ำโขงซึ่งได้รับมากของการไหลจากธารน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาหิมาลัยและทิเบตภูเขาซึ่งจะกลายเป็นมากขึ้นความน่าเชื่อถือน้อย นี้อาจทำให้น้ำท่วมประจำปีของแม่น้ำโขงและโตนเลสาบทะเลสาบคาดเดาได้น้อยลงและในปัจจุบันก็เป็นที่คาดการณ์น้ำท่วมและภัยแล้งที่ทำให้เกิดปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมากกว่าความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เงื่อนไขนี้ทำให้แย่ลงโดยการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงตอนบน (เช่นในมณฑลยูนนานของจีน) และควรประเทศในที่ลุ่มน้ำต่ำตอบสนองแผนการของพวกเขาสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานน้ำเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสถานการณ์สำหรับกัมพูชาเป็นประเทศปลายน้ำจะต้องเผชิญกับความยากลำบากมากในการทำนายความเข้มข้นของน้ำในหน้าของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการรบกวนของมนุษย์กับแม่น้ำของระบบนิเวศ. ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามความยาวของฤดูกาลบวกกับการโจมตีล่าช้าของฤดูฝนหลังจากที่ฤดูกาลที่นานแห้งจะมีผลต่อการปฏิบัติการปลูกพืชแบบดั้งเดิมหมายความว่ากิจการขนาดใหญ่สำหรับการเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตรจะต้องมีการวางแผนสำหรับงบประมาณและดำเนินการ. อุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคปศุสัตว์นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่กับการขาดน้ำและทุ่งเลี้ยงสัตว์บกและทางไกลไปยังแหล่งน้ำสำหรับปศุสัตว์ เพราะมีขนาดใหญ่ปศุสัตว์มีการลงทุนที่สำคัญและวิธีการของการออมสำหรับเกษตรกรเหล่านี้ชนิดของผลกระทบที่จะมีผลกระทบอย่างรุนแรงและผลักดันคนที่เป็นหนี้และลดของพวกเขาทางการเงินตาข่ายความปลอดภัยซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถที่จะเข้าถึงเงินสดเมื่อต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์อื่นๆ . ผลกระทบ ต่อผลผลิตข้าวที่คาดว่าจะได้รับการ significant9 ผลผลิตจะลดลงต่ำกว่าทั้งสูงและสถานการณ์มลพิษต่ำไม่น้อยเพราะอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของศัตรูพืชและโรค. ประมงกัมพูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่จะเปลี่ยนแปลงในอุณหภูมิและกระแสอุทกวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับการโยกย้ายการปรับปรุงพันธุ์และรูปแบบการวางไข่ในขณะที่ยังเพิ่มความกดดันให้กับที่อยู่อาศัยของการประมงที่สำคัญ นอกจากนี้ในอนาคตของภาคการประมงยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ห้างหุ้นส่วนจำกัดงบประมาณระหว่างประเทศ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ aquastat VIII )
2 ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ และสาเหตุของความหลากหลายของความท้าทายที่ใบหน้า
- สิ่งแวดล้อม ระหว่างที่ร้ายแรงที่สุดคือ
รวมผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงและ
แควซึ่งจะเปลี่ยนแปลงระบอบการไหลของแม่น้ำ และให้คาดการณ์ได้ยากกว่า
นี้จะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเกษตรและการประมง สอง cornerstones ของความมั่นคงด้านอาหารของประเทศและความเป็นอยู่

ปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่น ๆโอกาส หลัก ได้แก่ การตัดไม้ทำลายป่า การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ ,
การย่อยสลายแผ่นดิน ภัยธรรมชาติและภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม และภัยแล้ง และน้ำ
มลพิษจากการย่อยสลายของป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพโดยทั่วไปเนื่องจากสี่กุญแจ
ซึ่งโดยทั่วไปทั้งในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ 6
1 การเติบโตของประชากร และเพิ่มความหนาแน่นของประชากร พร้อมกับลดความเหลื่อมล้ำรายได้
;
2 และระดับของการใช้ทรัพยากรมากขึ้น , ขับเคลื่อนด้วยความต้องการของการส่งออกเติบโตมากกว่าผู้หญิงใช้ LED
;
3แบบฟอร์มแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และยั่งยืนบ่อย
4 นโยบายรัฐบาล , พร้อมกับ ขาดการวางแผนไม่ดี การบริหารแบบบูรณาการ การทุจริต
และอาชญากรรมสัตว์ป่าบนมาตราส่วนขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อชุมชนและระบบนิเวศ
นี้ความยืดหยุ่นในวิกฤตการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ


ดัดแปลงจาก WWF 2013
3
เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ :สภาพปัจจุบันและแนวโน้มและคาดการณ์ผลกระทบ
กัมพูชาประสบมรสุมเขตร้อน ค่าเฉลี่ยรายปีอุณหภูมิ
เพิ่มขึ้น 0.8 องศา C ตั้งแต่ 1960 , อัตราประมาณ 0.18 ° C ต่อทศวรรษ อัตราการเพิ่มขึ้นเป็น
ที่สุดอย่างรวดเร็วในแห้งฤดูกาลและความถี่ของวันร้อนคืนร้อนเพิ่มขึ้น
อย่างมากตั้งแต่ 1960 ในเกือบทุกช่วงฤดูกาล