Organizational StructureORGANIZATIO

Organizational Structure
ORGANIZATIONAL STRUCTURE


LESSON OBJECTIVES:
By the end of this lesson, students should be able to:

Identify and describe the differences between direct and indirect authority.
List and describe how 10 of Deming’s 14 points of total quality management (TQM) can affect the organizational governance of public education.
INTRODUCTION
This chapter discusses the types of organizational structure found in most organizations. Components creating the basis of an organization’s structure are broken down into components of job specialization, departmentalization, chain of command, authority and responsibility, centralization/decentralization, line and staff authority, and span of management. The importance of this chapter is that one (i.e., a potential school administrator) must understand the design of the organization before he/she can successfully administer it.

Public education is entirely dependent on job specialization in that most parts of an educational system are separated into different groups or divisions, such as elementary – middle-secondary education, administrators – teachers, certified staff – classified staff, and so on. Systems not using job specialization tend to use such alternatives as job rotation, job enlargement, and job enrichment. Although our text suggests that job rotation is used in larger school districts, it is occasionally used in smaller systems. The idea behind job rotation in school administration is that every principal or school administrator has certain strengths and qualities that others may lack. By routinely transferring school principals after a predetermined time period, a school system can match a particular school’s need with an administrator who has expertise in that particular area. Job enlargement gives an employee the ability to develop additional capabilities and strengths by performing additional duties not originally assigned to him/her. Finally, job enrichment improves employees by allowing them the opportunity to make administrative decisions that are normally made at a higher level in the system. This in effect mirrors Maslow’s “self-actualization” or Ouchi’s ownership theory discussed previously.

Departmentalization is the process of dividing an organization into blocks or groups of individuals, assignments, structures, and so on, that have common characteristics and functions. In the classic sense, departmentalization is usually thought of as the division of the curricula offerings of schools into English, mathematics, social sciences, and the like. The degree to which a school or school system uses departmentalization is often dependent on the size of the organization. Departmentalization offers both advantages and disadvantages to any organization. The concept in education allows teachers and others to specialize in particular subjects and fields. In a large high school setting, academic teachers may even specialize into specific fields of subject matter. The major disadvantage with departmentalization is that the process often results in employees (in this case, teachers) becoming so absorbed in the development and needs of the specialized department that they lose sight of the needs of the organization.

Almost all bureaucratic-type organizations are pyramidal in design. At the top of the pyramid is the individual with authority over the organization and who is considered to be ultimately responsible for the success or failure of the organization. Normally, the individual holding this position has direct authority over 3 or 4 employees who also hold authority over employees below them. One aspect of this concept is that in the pyramidal structure, the number of employees directly supervised by an administrator decreases as the position increases up in the organization.

- See more at: http://www.elearnportal.com/courses/education/introduction-to-educational-administration/introduction-to-educational-administration-organizational-structure#sthash.fXQO0G2z.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงสร้างองค์กรโครงสร้างองค์กรวัตถุประสงค์บทเรียน:โดยตอนท้ายของบทนี้ นักเรียนควรจะสามารถ:ระบุ และอธิบายความแตกต่างระหว่างหน่วยงานโดยตรง และทางอ้อมแสดงรายการ และอธิบายวิธี 10 ของ Deming 14 คะแนนการจัดการคุณภาพรวม (TQM) มีผลต่อการกำกับดูแลองค์กรของสาธารณแนะนำบทนี้อธิบายถึงชนิดของโครงสร้างองค์กรที่พบในองค์กรส่วนใหญ่ ส่วนประกอบที่สร้างพื้นฐานของโครงสร้างขององค์กรจะแบ่งออกเป็นส่วนประกอบของความเชี่ยวชาญงาน departmentalization บัญชา อำนาจ และความรับผิดชอบ กระจายอำนาจการชอบรวมศูนย์/แพร่กระจาย บรรทัดและพนักงานหน่วยงาน และระยะของการจัดการ ความสำคัญของบทนี้คือ ที่หนึ่ง (เช่น การเป็นโรงเรียนผู้ดูแล) ต้องเข้าใจแบบขององค์กรก่อนเขาสามารถประสบความสำเร็จดูแลมันการศึกษามวลชนเป็นทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญงานที่ส่วนใหญ่ของระบบการศึกษาแบ่งออกเป็นกลุ่มหรือแผนก เช่นประถม –มัธยมกลางศึกษา ผู้ดูแลระบบ – ครู รับรองพนักงานพนักงานลับ และอื่น ๆ ไม่ได้ใช้ความเชี่ยวชาญงานระบบมักจะ ใช้แทนเช่นวาระงาน ขยายงาน และงานโดดเด่น แต่เราแนะนำว่า มีใช้งานหมุนในเขตโรงเรียนใหญ่ บางครั้งมันถูกใช้ในระบบที่เล็กลง ความคิดหลังหมุนงานบริหารโรงเรียนเป็นผู้ดูแลทุกหลัก หรือโรงเรียนมีจุดแข็งและจุดเด่นที่ผู้อื่นอาจขาดบาง โดยการถ่ายโอนโรงเรียนหลักหลังจากรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้เป็นประจำ ระบบโรงเรียนสามารถตรงกับต้องการของโรงเรียนโดยเฉพาะกับผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละท้อง ขยายงานช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาเพิ่มเติมความสามารถและจุดแข็ง โดยทำหน้าที่ที่ไม่เดิม ให้ทราบถึงรายละเอียดเพิ่มเติม ในที่สุด โดดเด่นงานเพิ่มพนักงาน โดยการอนุญาตให้จัดการการตัดสินใจที่จะทำโดยปกติในระดับสูงขึ้นในระบบ ให้ กระจกนี้ผลของมาสโลว์ "self-actualization" หรือของอันเป็นเจ้าของทฤษฎีที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้Departmentalization เป็นกระบวนการแบ่งองค์กรออกเป็นบล็อกหรือกลุ่มของบุคคล การกำหนด โครงสร้าง และดังนั้นบน ที่มีลักษณะทั่วไปและฟังก์ชัน ในความรู้สึกคลาสสิก departmentalization เป็นมักจะคิดว่า เป็นส่วนของการเสนอหลักสูตรของโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ และเช่น มักจะขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กรเป็นระดับที่ระบบโรงเรียน หรือโรงเรียนใช้ departmentalization Departmentalization มีทั้งข้อดีและข้อเสียกับองค์กร แนวคิดในการศึกษาช่วยให้ครูและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องและเขตข้อมูล ในโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ ครูวิชาการอาจแม้แต่มีความเชี่ยวชาญลงในเขตข้อมูลเฉพาะของเรื่อง ข้อเสียสำคัญกับ departmentalization คือ ว่า กระบวนการมักจะส่งผลในพนักงาน (ในกรณีนี้ ครู) กลายเป็นดูดซึมดังนั้นในการพัฒนาและความต้องการของแผนกเฉพาะที่พวกเขาสูญเสียสายตาของความต้องการขององค์กรองค์กรราชการชนิดเกือบทั้งหมดเป็นแบบ pyramidal ด้านบนของปิรามิดเป็นบุคคลที่ มีอำนาจเหนือองค์กรและผู้ถือจะชอบในความสำเร็จหรือความล้มเหลวขององค์กร โดยปกติ บุคคลที่ถือตำแหน่งนี้มีอำนาจโดยตรงมากกว่า 3 หรือ 4 พนักงานยัง ถืออำนาจเหนือพนักงานด้านล่างพวกเขา ด้านหนึ่งของแนวคิดนี้คือ ว่า ในโครงสร้าง pyramidal จำนวนพนักงานโดยตรงพาสปอร์ตผู้ดูแลลดเป็นเพิ่มตำแหน่งขึ้นในองค์กร -ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.elearnportal.com/courses/education/introduction-to-educational-administration/introduction-to-educational-administration-organizational-structure#sthash.fXQO0G2z.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โครงสร้างองค์กร
องค์การโครงสร้างวัตถุประสงค์บทเรียน: ในตอนท้ายของบทนี้นักเรียนควรจะสามารถ: . ระบุและอธิบายความแตกต่างระหว่างผู้มีอำนาจโดยตรงและโดยอ้อมรายชื่อและอธิบายวิธีการที่ 10 ของ Deming 14 จุดของการจัดการคุณภาพโดยรวม (TQM) สามารถส่งผลกระทบต่อ การกำกับดูแลองค์กรของการศึกษาของประชาชน. บทนำบทนี้กล่าวถึงประเภทของการจัดโครงสร้างองค์กรที่พบในองค์กรส่วนใหญ่ ส่วนประกอบพื้นฐานของการสร้างโครงสร้างขององค์กรที่มีการแบ่งออกเป็นส่วนประกอบของความเชี่ยวชาญงาน departmentalization ห่วงโซ่ของคำสั่งผู้มีอำนาจและความรับผิดชอบรวมศูนย์ / สายการกระจายอำนาจและอำนาจพนักงานและช่วงของการจัดการ ความสำคัญของบทนี้เป็นที่หนึ่ง (เช่นผู้บริหารโรงเรียนที่มีศักยภาพ) จะต้องเข้าใจการออกแบบขององค์กรก่อนที่เขา / เธอประสบความสำเร็จสามารถจัดการมัน. การศึกษาสาธารณะทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญในงานที่ส่วนใหญ่ของระบบการศึกษาจะถูกแยกออก เป็นกลุ่มที่แตกต่างกันหรือหน่วยงานเช่นระดับประถมศึกษา - การศึกษากลางรองผู้บริหาร - ครูพนักงานได้รับการรับรอง - พนักงานจัดและอื่น ๆ ระบบไม่ได้ใช้ความเชี่ยวชาญในการทำงานมักจะใช้ทางเลือกเช่นการหมุนงานขยายงานและเพิ่มคุณค่าในงาน แม้ว่าข้อความของเราแสดงให้เห็นการหมุนงานที่ถูกนำมาใช้ในโรงเรียนขนาดใหญ่จะถูกใช้เป็นครั้งคราวในระบบที่มีขนาดเล็ก ความคิดที่อยู่เบื้องหลังการหมุนเวียนงานในการบริหารโรงเรียนคือทุกเงินต้นหรือผู้บริหารโรงเรียนมีจุดแข็งบางชนิดและคุณภาพที่คนอื่นอาจจะขาด โดยประจำการถ่ายโอนครูใหญ่โรงเรียนหลังจากช่วงเวลาที่กำหนดไว้, ระบบโรงเรียนสามารถตรงกับความต้องการของโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ดูแลระบบที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่นั้น ๆ การขยายงานให้พนักงานสามารถในการพัฒนาความสามารถเพิ่มเติมและจุดแข็งจากการปฏิบัติหน้าที่เพิ่มเติมได้มอบหมายให้เขา / เธอ สุดท้ายเพิ่มคุณค่าในงานช่วยเพิ่มพนักงานโดยให้พวกเขามีโอกาสที่จะทำให้การตัดสินใจในการบริหารที่ทำตามปกติในระดับที่สูงในระบบ นี้มีผลสะท้อนของ Maslow "actualization ตัวเอง" หรือทฤษฎีความเป็นเจ้าของของ Ouchi กล่าวก่อนหน้านี้. Departmentalization เป็นกระบวนการของการแบ่งองค์กรเป็นบล็อกหรือกลุ่มของบุคคลที่ได้รับมอบหมายโครงสร้างและอื่น ๆ ที่มีลักษณะร่วมกันและฟังก์ชั่น ในความรู้สึกคลาสสิก departmentalization มักจะคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอหลักสูตรของโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์สังคมศาสตร์และชอบ ระดับที่โรงเรียนหรือระบบโรงเรียนใช้ departmentalization มักจะขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กร Departmentalization มีทั้งข้อดีและข้อเสียให้กับองค์กรใด ๆ แนวคิดในการศึกษาช่วยให้ครูและคนอื่น ๆ ที่จะมีความเชี่ยวชาญในวิชาเฉพาะและสาขา ในการตั้งค่าที่โรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ครูวิชาการโรงเรียนอาจจะเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาของเรื่อง ข้อเสียที่สำคัญกับ departmentalization คือกระบวนการมักจะส่งผลให้พนักงาน (ในกรณีนี้ครู) กลายเป็นดูดซึมดังนั้นในการพัฒนาและความต้องการของแผนกพิเศษที่พวกเขาสูญเสียสายตาของความต้องการขององค์กร. เกือบทุกองค์กรข้าราชการประเภทเป็น เสี้ยมในการออกแบบ ที่ด้านบนของปิรามิดเป็นบุคคลที่มีอำนาจเหนือองค์กรและผู้ที่จะถือเป็นความรับผิดชอบสำหรับความสำเร็จหรือความล้มเหลวขององค์กร โดยปกติบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนี้มีอำนาจโดยตรงผ่าน 3 หรือ 4 พนักงานที่ยังมีอำนาจเหนือพนักงานต่ำกว่าพวกเขา แง่มุมหนึ่งของแนวคิดนี้ก็คือว่าในโครงสร้างเสี้ยมจำนวนพนักงานดูแลโดยตรงโดยผู้ดูแลระบบจะลดลงเป็นตำแหน่งเพิ่มขึ้นในองค์กร. - ดูเพิ่มเติมได้ที่:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โครงสร้างองค์กรโครงสร้างองค์กร




บทเรียนครั้งนี้ โดยตอนท้ายของบทนี้ นักเรียนควรจะสามารถ :

ระบุและอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างอำนาจทางตรง และทางอ้อม
รายการและอธิบายวิธีที่ 10 ของ Deming 14 จุดของการจัดการคุณภาพโดยรวม ( TQM ) จะมีผลต่อการกำกับดูแลองค์การที่ดีของการศึกษาสาธารณะ

แนะนำ .บทนี้กล่าวถึงชนิดของโครงสร้างที่พบในองค์กรมากที่สุด ส่วนประกอบในการสร้างพื้นฐานของโครงสร้างขององค์กรจะแบ่งออกเป็นส่วนประกอบของงานเฉพาะทาง departmentalization บัญชา อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ การรวมศูนย์อำนาจ / การกระจายอำนาจ บรรทัด และเจ้าหน้าที่ปกครอง และช่วงของการจัดการความสำคัญของบทนี้ คือ หนึ่ง คือ เป็นผู้บริหารโรงเรียนที่มีศักยภาพ ) ต้องเข้าใจการออกแบบองค์กรก่อนที่เขา / เธอจะสามารถดูแลมัน

การศึกษาสาธารณะเป็นทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญในงานมาก ส่วนของระบบการศึกษาจะแบ่งออกเป็นกลุ่มหรือหน่วยงาน เช่น ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และ กลาง การศึกษาผู้บริหารและครู เจ้าหน้าที่รับรอง และจัดเจ้าหน้าที่ และ ระบบไม่ได้ใช้งานเฉพาะทาง มีแนวโน้มที่จะใช้ทางเลือก เช่น งานการขยายงานและเสริมสมรรถนะ แม้ว่าข้อความของเราแสดงให้เห็นว่างานหมุนใช้ในโรงเรียนขนาดใหญ่ มีบางครั้งที่ใช้ในระบบที่เล็กกว่าความคิดที่อยู่เบื้องหลังการสับเปลี่ยนงานในการบริหารงานโรงเรียน คือ ทุกหลัก หรือผู้บริหารโรงเรียนมีจุดแข็งบางอย่างและคุณภาพที่คนอื่นอาจจะขาดได้ โดยตรวจโอนโรงเรียนหลังจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ ระบบโรงเรียนสามารถจับคู่โดยเฉพาะโรงเรียนต้องมีผู้ดูแลระบบที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่เฉพาะการขยายงานให้พนักงานสามารถพัฒนาความสามารถเพิ่มเติมและจุดแข็งโดยการดำเนินการเพิ่มเติมหน้าที่ไม่เดิมมอบหมายให้เขา / เธอ ในที่สุด การเพิ่มคุณค่าในงานปรับปรุงพนักงานโดยให้พวกเขามีโอกาสที่จะตัดสินใจในการบริหารที่ปกติจะทำในระดับที่สูงขึ้นในระบบนี้ผลกระจกมาสโลว์ตนเอง " ความเชื่อ " หรือ คุณโอฮุจิของเจ้าของทฤษฎีกล่าวถึงก่อนหน้านี้

departmentalization เป็นกระบวนการของการแบ่งองค์กรออกเป็นบล็อก หรือกลุ่มบุคคล ที่ได้รับมอบหมาย , โครงสร้าง , และดังนั้นบน ที่มีลักษณะทั่วไปและฟังก์ชั่น ในความรู้สึกคลาสสิกdepartmentalization มักจะคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรที่เสนอของโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม และชอบ การที่โรงเรียนหรือโรงเรียนระบบใช้ departmentalization มักจะขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กร departmentalization มีทั้งข้อดีและข้อเสียขององค์กรใด ๆแนวคิดในการศึกษาช่วยให้ครูและคนอื่น ๆที่เชี่ยวชาญในหัวข้อที่เฉพาะเจาะจงและเขตข้อมูล ในโรงเรียนขนาดใหญ่สูงการตั้งค่าและครู วิชาการอาจจะเชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะของเรื่อง ข้อเสียหลัก กับ departmentalization คือกระบวนการมักจะผลในคน ( ในกรณีนี้ครู ) กลายเป็นเพื่อดูดซึมในการพัฒนาและความต้องการของแผนกพิเศษที่พวกเขาสูญเสียสายตาของความต้องการขององค์กร องค์กรราชการ

เกือบทุกประเภทจะเสี้ยมในการออกแบบ ที่ด้านบนของปิรามิดคือบุคคลที่มีอำนาจเหนือองค์กรที่ถือว่ารับผิดชอบความสำเร็จหรือความล้มเหลวขององค์กรปกติ แต่ละคนถือตำแหน่งนี้มีอำนาจโดยตรงกว่า 3 หรือ 4 พนักงานที่ยังถืออำนาจพนักงานด้านล่างพวกเขา หนึ่งในแง่มุมของแนวคิดนี้คือ ว่า ในโครงสร้างเสี้ยม จำนวนพนักงานโดยตรงดูแลโดยผู้ดูแลระบบลดตำแหน่งเพิ่มขึ้นในองค์กร

- ดูเพิ่มเติมที่ : http://www.elearnportal .ดอทคอม / หลักสูตร / การศึกษา / ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารการศึกษา / ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาโครงสร้างองค์กร# sthash.fxqo0g2z.dpuf