1. IntroductionAs of the end of 200

1. Introduction
As of the end of 2003, about 40 million people
worldwide were estimated to be living with AIDS,
almost all of them prime-aged adults and 95% of
them living in developing countries [1]. Roughly 3
million people died from AIDS in 2003. Prevention
programs have been launched in virtually every
country—to provide information, raise condom use,
reduce numbers of sexual partners, promote safe sex
and injecting practices, and to reduce mother-to-child
transmission. Nevertheless, more than 15,000 people
become newly infected with HIV every day. Despite
the best efforts of scientists, there is still no cure for
AIDS. The advent of highly active antiretroviral therapy
(HAART) has reduced the mortality rate among
patients in high-income countries, although it remains
costly, suffers from significant implementation
problems (side effects, difficult compliance, and viral
resistance) and cannot eradicate the virus from the
body. A safe, effective and affordable AIDS vaccine
would be a valuable addition to the existing arsenal
of prevention strategies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. บทนำสุดรอบ 2003 ประมาณ 40 ล้านคนทั่วโลกมีประมาณอาศัยกับเอดส์เกือบทั้งหมดของพวกเขา aged นายกผู้ใหญ่และ 95%พวกเขาอาศัยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา [1] ประมาณ 3ล้านคนเสียชีวิตจากโรคเอดส์ใน 2003 ป้องกันโปรแกรมมีการพัฒนาในแทบทุกประเทศเช่นการให้ข้อมูล เพิ่มการใช้ถุงยางอนามัยลดจำนวนคู่ทางเพศ การส่งเสริมเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัยและ injecting ปฏิบัติ และลดแม่เด็กส่ง อย่างไรก็ตาม มากกว่า 15000 คน เพิ่งติดเชื้อเอชไอวีทุกวัน แม้มีความพยายามที่ดีที่สุดของนักวิทยาศาสตร์ ยังมีไม่การรักษาสำหรับโรคเอดส์ การมาถึงของการบำบัดด้วยการใช้งานสูง(HAART) มีลดอัตราการตายหมู่ผู้ป่วยในประเทศร่ำรวย แม้ว่าจะยังคงค่าใช้จ่าย suffers จากงานสำคัญปัญหา (ผลข้างเคียง ปฏิบัติตามยาก และไวรัสความต้านทาน) และไม่สามารถขจัดไวรัสจากการร่างกาย วัคซีนเอดส์ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และราคาไม่แพงจะเพิ่มคุณค่าให้อาร์เซนอลที่มีอยู่ของกลยุทธ์การป้องกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บทนำ
ณ สิ้นปี 2003 ประมาณ 40
ล้านคนทั่วโลกได้รับการคาดว่าจะมีชีวิตอยู่กับโรคเอดส์เกือบทั้งหมดของพวกผู้ใหญ่ที่สำคัญคนและ
95%
ของพวกเขาที่อาศัยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา[1] ประมาณ 3
ล้านคนเสียชีวิตจากโรคเอดส์ในปี 2003
การป้องกันโปรแกรมได้รับการเปิดตัวในแทบทุกประเทศที่จะให้ข้อมูลเพิ่มใช้ถุงยางอนามัย, ลดจำนวนของคู่ค้าทางเพศส่งเสริมเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและการปฏิบัติที่ฉีดและเพื่อลดแม่สู่ลูกส่ง. แต่กว่า 15,000 คนที่ติดเชื้อเอชไอวีใหม่ทุกวัน แม้จะมีความพยายามที่ดีที่สุดของนักวิทยาศาสตร์ยังคงมีการรักษาไม่มีโรคเอดส์ การถือกำเนิดของการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่ใช้งานสูง(HAART) ได้ลดอัตราการตายในหมู่ผู้ป่วยในประเทศที่มีรายได้สูงแม้ว่ามันจะยังคงค่าใช้จ่ายทนทุกข์ทรมานจากการดำเนินงานที่สำคัญปัญหา(ผลข้างเคียงที่ตามยากและไวรัสต้านทาน) และไม่สามารถกำจัดไวรัสจาก ร่างกาย มีตู้นิรภัยที่มีประสิทธิภาพและราคาไม่แพงวัคซีนโรคเอดส์จะเป็นยังมีคุณค่าให้กับคลังแสงที่มีอยู่ของกลยุทธ์การป้องกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . บทนำ
ณสิ้นปี 2003 ประมาณ 40 ล้านคนทั่วโลกมีประมาณ
อยู่กับเอดส์
เกือบทั้งหมดของพวกเขาเฉพาะวัยผู้ใหญ่ และ 95% ของ
พวกเขาอาศัยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา [ 1 ] ประมาณ 3
ล้านคนเสียชีวิตจากโรคเอดส์ในปี 2003 โปรแกรมการป้องกัน

ได้ถูกใช้ในแทบทุกประเทศ ให้ข้อมูล ให้ใช้ ถุงยางอนามัย
ลดจำนวนของคู่ค้าทางเพศส่งเสริมการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
และฉีดการปฏิบัติและลดแม่ส่งลูก

อย่างไรก็ตาม กว่า 15 , 000 คน
กลายเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ทุกวัน แม้จะมีความพยายามที่ดีที่สุดของ
นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่มีวิธีรักษา
เอดส์ การมาถึงของยาต้านไวรัส
( กล่าว ) มีการลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่มีรายได้สูงประเทศ

แม้ว่าจะยังคงราคาแพงทนทุกข์ทรมานจากปัญหาการใช้งาน
อย่างมีนัยสำคัญ ( ข้างเคียง ตามยากและไวรัส
ต้านทาน ) และไม่สามารถกำจัดไวรัสจาก
ร่างกาย ปลอดภัย , มีประสิทธิภาพและราคาไม่แพง
วัคซีนเอดส์จะเป็นการเพิ่มคุณค่าที่มีอยู่ในคลังแสง
ของกลยุทธ์การป้องกัน