Among the major soda purveyors, it'

Among the major soda purveyors, it's understandable to consider Coca-Cola (NYSE: KO ) and PepsiCo (NYSE: PEP ) as one-and-the-same. After all, their namesake sparkling beverages have competed against each other for decades, and together they've dominated the soda business.

As it happens, though, the present day represents a vastly different place in terms of consumer preferences. Consumers, particularly in the United States, are more health-conscious than ever. The demand for lower-calorie, less-sugary beverages is rippling through the soda industry, and the end result is stagnating case volume shipments for the twin industry heavyweights.

One of the two titans of soda has acknowledged this trend and charted a different course, while the other has no plans to be anything but a sparkling beverage company. That's why, as it appears to me, there's a clear winner of the soda wars.

One company takes a strategic turn
Pepsi appears to be the one accepting the fact that consumers want to live healthier lifestyles. In response, several years ago Pepsi slowly built a portfolio of brands outside its previous core competency. Well-known brands that are now under the Pepsi umbrella include Gatorade, Quaker, and Frito-Lay. Right now, Pepsi's revenue is almost evenly split between food and beverages. Meanwhile, Coca-Cola still derives the vast majority of its sales from sparkling beverages.

As far as Pepsi's strategy is concerned, the results speak for themselves. Pepsi grew revenue and earnings per share by 2% and 12%, respectively, over the first nine months of 2013. Compare this to Coca-Cola, whose revenue and EPS both fell 2% through the first three quarters of the year. While Coca-Cola remains a blue-chip company that registers hefty profits year in and year out, there's no denying the company's underlying results have hit a snag.

To be fair, both Coca-Cola and Pepsi have richly rewarded shareholders over many decades. Both companies have paid and increased their dividends for many years in a row. Coca-Cola and PepsiCo have increased their dividends for 51 and 41 consecutive years, respectively. And, each stock yields roughly 2.7%, which is better than the 2% payout of the broader market.

If dividends are your primary concern, Dr Pepper Snapple (NYSE: DPS ) might be for you. That's because Dr. Pepper Snapple yields 3.2%, significantly above both Coca-Cola and Pepsi, as well as the overall market. Moreover, Dr. Pepper Snapple is a much smaller competitor than the two industry giants, with a market capitalization of just $9 billion. As a result, Dr. Pepper Snapple might have more room for stock appreciation, since it's got more room to grow due to its much smaller size.

At the same time, Dr. Pepper Snapple is seeing its fair share of troubles to start the year. The company's sales are flat over the first nine months, and operating income has actually declined during the first three quarters of 2013.

While Coca-Cola and Pepsi have delivered strong results for their shareholders for many years, what matters for investors is what the future holds. And when it comes to Coca-Cola and Pepsi, the vastly different strategies laid out by each company's management teams mean there may be a clear choice going forward.

Which soda giant has the brighter future?
Coca-Cola and Pepsi are both immensely profitable, well-run businesses, that are deeply committed to providing generous cash returns to shareholders. That being said, there is a clear divergence forming between the two consumer goods giants. Pepsi is now a pure soda company in name only. It has broken away from sparkling beverages in a meaningful way, because it has seen the writing on the wall. Consumers have spoken, and soda companies are feeling the heat.

Pepsi has proven to be a more visionary company than Coca-Cola, in my estimation, since Coca-Cola has remained steadfast in its position as a pure-play soda company. As a result, because of its more diversified portfolio of products, I don't consider Pepsi to have the same level of risk as Coca-Cola. There appears to be a winner of the soda wars, at least for the time being: Pepsi.

Bob Ciura has no position in any stocks mentioned. The Motley Fool recommends Coca-Cola and PepsiCo. The Motley Fool owns shares of Coca-Cola and PepsiCo. Try any of our Foolish newsletter services free for 30 days. We Fools may not all hold the same opinions, but we all believe that considering a diverse range of insights makes us better investors. The Motley Fool has a disclosure policy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในหมู่ผู้สนับสนุนจิฮัดโซดาหลัก เป็นที่เข้าใจการลา (NYSE: เกาะ) และ PepsiCo (NYSE: PEP) เป็นหนึ่ง และ--เดียวกัน หลังจากที่ทุก เครื่องดื่มประกายการขนส่งสาธารณะได้ร่วมแข่งขันกับแต่ละอื่น ๆ สำหรับทศวรรษที่ผ่านมา และกันพวกเขาได้ครอบงำธุรกิจโซดาที่เกิดขึ้น แม้ว่า ปัจจุบันหมายถึงสถานที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ในการกำหนดลักษณะผู้บริโภค ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มากกว่าสุขภาพที่ใส่ใจกว่าที่เคย ความต้องการเครื่องดื่มแค ลอรี่ต่ำกว่า น้อยกว่าไพเราะเป็น rippling ผ่านอุตสาหกรรมโซดา และผลลัพธ์สุดท้ายคือวิชากรณีปริมาณการจัดส่งสำหรับคุณสมบัติอุตสาหกรรมคู่หนึ่งของ titans สองของโซดาได้ยอมรับแนวโน้มนี้ และเต็ดหลักสูตรแตกต่างกัน ในขณะที่อื่น ๆ ที่มีแผนจะ anything but บริษัทเครื่องดื่มเป็นประกาย ที่เป็นเหตุ เท่านั้นกับฉัน มีรางวัลสงครามโซดาล้างบริษัทหนึ่งจะเปิดกลยุทธ์แป๊ปซี่ให้การยอมรับความจริงที่ว่าผู้บริโภคต้องการชีวิตที่มีสุขภาพดีแล้ว ตอบ หลายปีแป๊ปซี่ช้าสร้างผลงานของแบรนด์นอกความสามารถหลักของก่อนหน้านี้ แบรนด์ที่รู้จักกันดีที่ตอนนี้อยู่ภายใต้ร่มแป๊ปซี่รวม Gatorade, Quaker และ Frito เลย์ ตอนนี้ เกือบเท่า ๆ กันมีแบ่งรายได้ของแป๊ปซี่ระหว่างอาหารและเครื่องดื่ม ในขณะเดียวกัน โคคา-โคล่ายังมาขายของส่วนใหญ่จากเครื่องดื่มเป็นประกายเป็นที่กังวลของแป๊ปซี่กลยุทธ์ ผลพูดสำหรับตัวเอง แป๊ปซี่เพิ่มขึ้นรายได้และกำไรต่อหุ้น 2% และ 12% ตามลำดับ ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2013 เปรียบเทียบนี้โคคา-โคล่า มีรายได้และกำไรต่อหุ้นทั้งสองลดลง 2% ถึง 3 รอบ แรกของปี ในขณะที่โคคา-โคล่ายังคง บริษัทบลูชิพที่ทะเบียนกำไรหนักปีและปีที่ออก มีไว้ไม่มีการปฏิเสธผลการสอบของบริษัทได้ตีตอไม้ใต้น้ำเป็นมีความเป็นธรรม โคคา-โคล่าและแป๊ปซี่มีมั่งคั่งรับรางวัลหุ้นหลายทศวรรษ บริษัททั้งสองได้ชำระเงิน และเพิ่มเงินปันผลของหลายปีในแถว โคคา-โคล่าและ PepsiCo มีเพิ่มขึ้นเงินปันผลของ 41 และ 51 ต่อเนื่องปี ตามลำดับ และ แต่ละหุ้นทำให้ประมาณ 2.7% ซึ่งเป็นการชำระ 2% ของตลาดกว้างกว่าเงินปันผลจะกังวลหลักของคุณ Dr Snapple พริกไทย (NYSE: DPS) อาจจะหาได้ นั่นเป็น เพราะดร. Snapple พริกไทย 3.2% เหนือทั้งโคคา-โคล่า และแป๊ปซี่ เช่นเดียว กับตลาดโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญที่ทำให้ นอกจากนี้ ดร. Snapple พริกไทยเป็นมากมีขนาดเล็กกว่าคู่แข่งกว่ายักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมสอง ด้วยมูลค่าตลาดของเพียง $9 พันล้าน ดัง ดร. Snapple พริกไทยอาจมีห้องเพิ่มเติมสำหรับเพิ่มค่าหุ้น เนื่องจากมีมากจะเติบโตจากขนาดเล็กมากในเวลาเดียวกัน ดร. Snapple พริกไทยจะเห็นส่วนแบ่งยุติธรรมของปัญหาการเริ่มต้นปี ขายของบริษัทจะแบนช่วง 9 เดือนแรก และทำรายได้จริงปฏิเสธในช่วงไตรมาสสามแรกของปี 2013ในขณะที่โคคา-โคล่าและแป๊ปซี่ได้ส่งผลแข็งแรงสำหรับผู้ถือหุ้นของพวกเขาหลายปี สิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนได้ว่าอนาคต และเมื่อมาถึงลาและแป๊ปซี่ กลยุทธ์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ที่วาง โดยทีมบริหารของบริษัทหมายความว่า อาจมีทางเลือกที่ชัดเจนไปโซดาที่ยักษ์มีอนาคตยิ่งขึ้นโคคา-โคล่าและแป๊ปซี่มีกำไรอย่างกว้างขวาง ห้องทำงานธุรกิจ ที่สร้างความลึกให้สดใจดีคืนให้ผู้ถือหุ้น การกล่าวว่า ว่ามีการ divergence ชัดเจนขึ้นระหว่างสองยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภค แป๊ปซี่ขณะนี้บริษัทโซดาบริสุทธิ์ในชื่อเท่านั้น มันชำรุดจากเครื่องดื่มเป็นประกายในความหมาย เนื่องจากจะได้เห็นการเขียนบนผนัง ผู้บริโภคได้พูด และบริษัทโซดามีความรู้สึกร้อนแป๊ปซี่ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็น บริษัทที่มีวิสัยทัศน์กว่าลา ในการประเมินของฉัน เนื่องจากโคคา-โคล่าได้ยังคง steadfast ในตำแหน่งเป็นบริษัทโซดาล้วนเล่น ดังนั้น เพราะผลงานที่หลากหลายมากขึ้นของผลิตภัณฑ์ ฉันไม่พิจารณาแป๊ปซี่จะมีความเสี่ยงระดับเดียวกันเป็นลา ปรากฏ ว่าเป็นผู้ชนะสงครามโซดา น้อยพลาง ๆ: แป๊ปซี่Bob Ciura หุ้นใด ๆ กล่าวถึงตำแหน่งไม่ได้ คนโง่ Motley แนะนำโคคา-โคล่าและ PepsiCo คนโง่ Motley เป็นเจ้าของหุ้นของโคคา-โคล่าและ PepsiCo ลองทำตามจดหมายข่าวโง่บริการฟรี 30 วัน เราคนโง่อาจไม่ถือความคิดเห็นเดียวกัน แต่เราเชื่อว่า การพิจารณาข้อมูลเชิงลึกหลากหลายทำให้เราดีกว่านักลงทุน คนโง่ Motley นโยบายเปิดเผยได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระหว่างผู้จัดส่งโซดารายใหญ่ มันเข้าใจได้พิจารณา โคคา โคล่า ( NYSE : เกาะ ) และกำลัง ( NYSE : PEP ) เป็นสิ่งเดียวกัน หลังจากนั้น ชื่อของแสน เครื่องดื่มมีการแข่งขันกับแต่ละอื่น ๆสำหรับทศวรรษที่ผ่านมา , และร่วมกันพวกเขาได้ครอบงำธุรกิจโซดา

มันเกิดขึ้น แม้ว่า ปัจจุบัน แสดงถึงสถานที่ที่แตกต่างกันเป็นอย่างมากในแง่ของการตั้งค่าของผู้บริโภค ผู้บริโภคโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา จะใส่ใจสุขภาพเพิ่มเติมกว่าที่เคย ความต้องการแคลอรี่ต่ำ เครื่องดื่มหวานน้อย rippling ผ่านทางอุตสาหกรรมโซดา และผลลัพธ์ที่ได้คือปริมาณที่ซบเซาการขนส่งกรณี heavyweights อุตสาหกรรมแฝด

อีกสองยักษ์ใหญ่ของโซดาได้ยอมรับว่า แนวโน้มนี้ และสถานศึกษามีหลักสูตรต่าง ๆขณะที่อื่น ๆยังไม่มีแผนที่จะเป็นอะไร แต่ บริษัท เครื่องดื่มที่เป็นประกาย นั่นคือเหตุผลที่เมื่อมันปรากฏให้ฉัน มันเป็นผู้ชนะที่ชัดเจนของโซดาสงคราม

บริษัทหนึ่งที่ใช้กลยุทธ์เปิด
เป๊ปซี่จะปรากฏเป็นหนึ่งในการยอมรับความเป็นจริงที่ผู้บริโภคต้องการอยู่ฝรั่งจ๋า healthier . ในการตอบสนอง , หลายปีที่ผ่านมาเป๊ปซี่ ค่อยๆสร้างผลงานของแบรนด์นอก สมรรถนะหลักของก่อนหน้านี้แบรนด์ที่รู้จักกันดีว่าตอนนี้อยู่ภายใต้ร่มเป๊ปซี่รวม Gatorade เควกเกอร์ และฟรีโทวาง ตอนนี้ เป๊ปซี่ ราคาเกือบจะเท่ากันแยก ระหว่าง อาหาร และ เครื่องดื่ม ขณะเดียวกัน โคคา - โคล่า ยังมา ส่วนใหญ่ของยอดขายจากเครื่องดื่มแสน

เท่าที่กลยุทธ์ของเป๊ปซี่เป็นกังวล ผลการพูดสำหรับตัวเองเป๊ปซี่เติบโตรายได้และกำไรต่อหุ้น 2 % และ 12 % ตามลำดับ ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2013 . การเปรียบเทียบนี้ โคคา โคลา ที่มีรายได้และ EPS ลดลง 2 % จากทั้งสามไตรมาสแรกของปี ในขณะที่ บริษัท โคคา โคล่า ยังคงเป็นหุ้นบลูชิพที่ลงทะเบียนหนักกำไรทุกปี ไม่มีการปฏิเสธของบริษัท เป็นต้น ผลลัพธ์ที่ได้ตีอุปสรรค์

ต้องยุติธรรมโคคา โคล่า เป๊ปซี่ และทั้งมีมั่งคั่งรับผู้ถือหุ้นกว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งสอง บริษัท ได้จ่ายและเพิ่มการจ่ายเงินปันผลของพวกเขาเป็นเวลาหลายปีในแถว โคคา - โคล่า กำลังเพิ่มขึ้น และเงินปันผลของพวกเขาสำหรับ 51 และ 41 ปีติดต่อกัน , ตามลำดับ และ แต่ละหุ้นอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.7% ซึ่งดีกว่า 2 % การจ่ายเงินของตลาดในวงกว้าง

ถ้าปันผลเป็นกังวลหลักของคุณดร. snapple ( NYSE : DPS ) อาจจะให้คุณ นั่นเป็นเพราะ ดร. พริกไทย snapple ผลผลิตร้อยละ 3.2 ทางด้านบนทั้งสอง และโคคา โคล่า เป๊ปซี่ รวมทั้งตลาดโดยรวม นอกจากนี้ ดร. snapple เป็นคู่แข่งที่เล็กกว่าสองยักษ์ใหญ่ในวงการ มีมูลค่าตลาดเพียง $ 9 พันล้าน ผลคือ ดร. snapple อาจมีห้องพักมากขึ้นสำหรับหุ้นคุณค่าเนื่องจากมันมีห้องพักมากขึ้นที่จะเติบโต เนื่องจากมีขนาดเล็กมากขนาด

ในเวลาเดียวกัน ดร. พริกไทย snapple เห็นส่วนแบ่งยุติธรรมของปัญหาที่เริ่มต้นปี ยอดขายของ บริษัท จะแบนกว่าเก้าเดือนแรก และรายได้จะลดลงในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2013 .

ในขณะที่ บริษัท โคคาโคล่าและเป๊ปซี่ มีการส่งมอบผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งสำหรับผู้ถือหุ้นของพวกเขาเป็นเวลาหลายปีสิ่งที่สำคัญสำหรับนักลงทุนเป็นสิ่งที่อนาคตถือ และเมื่อมันมาถึง บริษัท โคคาโคล่า และเป๊ปซี่ กลยุทธ์ที่แตกต่างกันอย่างมากมายที่วางไว้โดยทีมบริหารของแต่ละบริษัท หมายความว่า อาจจะมีทางเลือกที่ชัดเจนต่อไป

ซึ่งโซดายักษ์ที่มีอนาคตที่สดใส ?
โคคาโคล่าเป๊ปซี่ทั้งคู่อย่างมหาศาลและผลกำไรดีวิ่งธุรกิจที่ทุ่มเทมุ่งมั่นที่จะให้กลับเงินสดใจกว้างให้กับผู้ถือหุ้น ที่ถูกกล่าวว่ามีความแตกต่างที่ชัดเจนขึ้นระหว่างสองสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ เป๊ปซี่คือตอนนี้บริสุทธิ์โซดาบริษัทแต่เพียงในนามเท่านั้น มันมีเสียห่างจากประกายเครื่องดื่มในลักษณะที่มีความหมาย เพราะมันได้เห็นการเขียนบนผนัง ผู้บริโภคได้พูด , และ บริษัท โซดา จะรู้สึกร้อน

เป๊ปซี่ ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็น บริษัท ช่างจินตนาการมากกว่าโคคา โคล่า ในการประมาณค่าของฉัน ตั้งแต่โคคา โคล่า ยังคงยืนหยัดในจุดยืนของตน เป็น บริษัท โซดาเพียว เล่น ผล เนื่องจากผลงานที่หลากหลายมากขึ้นของผลิตภัณฑ์ , ผมไม่คิดว่าเป๊ปซี่ที่มีระดับเดียวกันของความเสี่ยง เช่น โคคา โคล่า มีปรากฏเป็นผู้ชนะของโซดาสงคราม อย่างน้อยเวลาที่ถูก

: เป๊บซี่บ๊อบ ciura ไม่มีตำแหน่งในหุ้นใด ๆที่กล่าวถึง คนโง่ผสมผเสแนะนำ บริษัท โคคาโคล่าและกำลัง . คนโง่ผสมผเสเป็นเจ้าของหุ้นของ บริษัท โคคาโคล่าและกำลัง . พยายามใด ๆของบริการจดหมายของเราโง่ฟรี 30 วัน เราโง่อาจจะไม่ทั้งหมดถือความคิดเห็นเดียวกัน แต่เราก็เชื่อว่า พิจารณา ความหลากหลายของข้อมูลเชิงลึกที่ทำให้เราเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น คนโง่ผสมผเสมีนโยบายการเปิดเผยข้อมูล