The goals of this study were to exa

The goals of this study were to examine individual differences in adolescents' reading comprehension strategy use related to reading proficiency, grade level, and gender and to investigate the factor structure and psychometric properties of a newly-developed scenario-based self-report survey. Participants were 1134 students in grades 7–12. The instrument measures four theoretically-consistent constructs related to strategies for (a) the Evaluation and Integration of current text information with previous text information and prior knowledge, (b) Note-Taking, (c) Regulation, and (d) Help-Seeking. The scales demonstrated adequate reliability and validity. Adequate comprehenders reported higher use of Evaluation/Integration and Regulation strategies than struggling comprehenders, while the use of Help-Seeking and Note-Taking did not differ between these groups. Students at higher grade levels reported greater use of Evaluation/Integration and Regulation strategies than those in lower grades. Females reported higher use of all strategy types than males. Implications for theory, research, and practice are discussed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป้าหมายของการศึกษานี้ได้ตรวจสอบความแตกต่างของวัยรุ่นแต่ละอ่านทำความเข้าใจการใช้กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง กับอ่านความชำนาญ ระดับชั้น และเพศ และ การตรวจสอบโครงสร้างปัจจัยการ psychometric คุณสมบัติของการพัฒนาขึ้นใหม่ตามสถานการณ์ด้วยตนเองรายงานสำรวจ ผู้เข้าร่วมได้ 1134 นักเรียนเกรด 7-12 เครื่องมือวัด 4 ครั้งแรกราคาสอดคล้องกับกลยุทธ์สำหรับการประเมินและรวมข้อมูลปัจจุบันก่อนหน้าข้อความข้อมูลความรู้เดิม, (ข) ย่อ ระเบียบ (c) และ (d) ช่วยแสวงหา (ก)โครงสร้าง เครื่องชั่งน้ำหนักที่แสดงความน่าเชื่อถือเพียงพอและมีผลบังคับใช้ พอ comprehenders รายงานใช้กลยุทธ์ประเมิน/รวมและระเบียบสูงกว่าดิ้นรน comprehenders ในขณะที่การใช้กำลังความช่วยเหลือและบันทึกย่อได้ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มเหล่านี้ นักเรียนในระดับเกรดสูงที่รายงานใช้มากกว่ารวม/การประเมินและควบคุมกลยุทธ์ในระดับล่าง หญิงรายงานใช้ทุกกลยุทธ์สูงกว่าเพศชาย ผลทฤษฎี วิจัย และการปฏิบัติกล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป้าหมายของการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างของแต่ละบุคคลในการอ่านวัยรุ่นใช้กลยุทธ์ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการอ่านระดับชั้นประถมศึกษาปีและเพศและการตรวจสอบโครงสร้างของปัจจัยทางจิตวิทยาและคุณสมบัติของการพัฒนาขึ้นใหม่ตามสถานการณ์รายงานการสำรวจตนเอง ผู้เข้าร่วมประชุม 1,134 นักเรียนเกรด 7-12 เครื่องมือวัดสี่สร้างทฤษฎีสอดคล้องที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์สำหรับการ (ก) การประเมินผลและบูรณาการข้อมูลข้อความปัจจุบันมีข้อมูลข้อความก่อนหน้านี้และความรู้ก่อน (ข) การจดบันทึก (ค) กฎระเบียบและ (ง) การช่วยเหลือที่กำลังมองหา . แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของเครื่องชั่งน้ำหนักเพียงพอและความถูกต้อง เพียงพอ comprehenders รายงานการใช้งานที่สูงขึ้นของการประเมินผล / บูรณาการและกลยุทธ์ระเบียบกว่า comprehenders ดิ้นรนในขณะที่การใช้วิธีการแสวงหาและการจดบันทึกไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มเหล่านี้ นักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่สูงขึ้นรายงานการใช้งานที่มากขึ้นของการประเมินผล / บูรณาการและกลยุทธ์ระเบียบกว่าผู้ที่อยู่ในเกรดที่ต่ำกว่า หญิงรายงานการใช้งานที่สูงขึ้นของทุกประเภทกลยุทธ์กว่าเพศชาย ผลกระทบสำหรับทฤษฎีการวิจัยและการปฏิบัติที่จะกล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป้าหมายของการวิจัยนี้ เพื่อศึกษาความแตกต่างของบุคคลในวัยรุ่นใช้กลวิธีการอ่านที่เกี่ยวข้องกับการอ่านภาษาอังกฤษ ระดับชั้นและเพศ และเพื่อศึกษาปัจจัยทางจิตวิทยาของโครงสร้างและคุณสมบัติที่พัฒนาขึ้นใหม่ รายงานสถานการณ์จากการสำรวจ จำนวน 1 นักเรียนในเกรด 7 – 12เครื่องมือที่สอดคล้องตามทฤษฎีโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับมาตรการสี่กลยุทธ์ ( ) และประเมินผลรวมของข้อความข้อมูลปัจจุบันกับข้อมูลข้อความก่อนหน้าและความรู้เดิม ( ข ) บันทึก ( C ) ระเบียบและ ( d ) ช่วยหา เครื่องชั่งแสดงความน่าเชื่อถืออย่างเพียงพอ และความถูกต้องพอ comprehenders รายงานสูงกว่าใช้บูรณาการการประเมินผล / และกลยุทธ์การควบคุมมากกว่า comprehenders ดิ้นรน ในขณะที่การใช้ช่วยค้นหา และจดบันทึก ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มเหล่านี้ นักเรียนที่เกรดสูงกว่าระดับการใช้งานมากกว่าการรายงานการประเมินผลและการควบคุมกลยุทธ์ / สูงกว่า ผลการเรียนต่ำผลการศึกษาพบว่า การใช้กลยุทธ์ทั้งหมดชนิด มากกว่าผู้ชาย ความหมายสำหรับทฤษฎี การวิจัยและการปฏิบัติว่า