Geothermal resources are subject to

Geothermal resources are subject to thermal depletion during the lifetime of geothermal power plants. The decline of the geofluid temperature significantly affects both the magnitude and quality of the thermal energy available for electrical conversion and, in turn, plant efficiency and power output. Furthermore, the performance of geothermal power plants based on air-cooled Organic Rankine Cycle systems (ORCs) markedly decreases at warm ambient temperatures because of the higher turbine exhaust pressures. In this study a new hybrid Geothermal - Concentrating Solar Power (GEO-CSP) plant is modelled, which enables a better utilization of geothermal energy and improves the performance of the geothermal ORC system during the whole lifetime of the power plant. Solar energy is used to heat up the geothermal fluid entering the heat exchanger of the ORC. The CSP plant is equipped with a thermal energy storage (TES) unit which accumulates the surplus of solar thermal energy available during daytime, while releasing it during night-time when the efficiency of the power system is higher. The integration of the storage unit in the parabolic trough CSP system enables a 19% gain in the incremental annual energy production from solar, which MANUSCRIPT ACCEPTED ACCEPTED MANUSCRIPT 2 raises from 5.3% to 6.3% compared to the geothermal-only plant. Thus, the hybrid plant may greatly benefit from the addition of a TES unit.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทรัพยากรใต้พิภพจะสูญเสียความร้อนในช่วงอายุการใช้งานของโรงไฟฟ้าใต้พิภพ การลดลงของอุณหภูมิทางธรณีวิทยาอย่างมีนัยสำคัญมีผลต่อทั้งขนาดและคุณภาพของพลังงานความร้อนที่มีอยู่สำหรับการแปลงไฟฟ้าและในทางกลับกันประสิทธิภาพของพืชและการส่งออกพลังงาน นอกจากนี้ประสิทธิภาพการทำงานของโรงไฟฟ้าใต้พิภพขึ้นอยู่กับระบบวงจรแรงคินอินทรีย์ระบายความร้อนด้วยอากาศ (ออร์ค) ลดลงอย่างเด่นชัดในอุณหภูมิแวดล้อมที่อบอุ่นเนื่องจากความดันไอเสียกังหันสูงขึ้น ในการศึกษานี้เป็นไฮบริดใหม่ความมุ่งเน้นใต้พิภพพลังงานแสงอาทิตย์ (GEO-CSP) พืชเป็นแบบจำลองซึ่งช่วยให้การใช้พลังงานที่ดีขึ้นของพลังใต้พิภพและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบออร์คใต้พิภพในระหว่างอายุการใช้งานทั้งหมดของโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้ในการเพิ่มความร้อนของเหลวใต้พิภพเข้าสู่การแลกเปลี่ยนความร้อนของออร์ค โรงงาน CSP มีอุปกรณ์จัดเก็บพลังงานความร้อน (TES) ซึ่งสะสมส่วนเกินของพลังงานความร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีอยู่ในช่วงกลางวันในขณะที่ปล่อยในช่วงเวลากลางคืนเมื่อมีประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าสูงขึ้น การรวมกันของหน่วยเก็บข้อมูลในระบบ CSP รางแบบโค้งช่วยให้มีการเพิ่มขึ้น19% ในการผลิตพลังงานประจำปีที่เพิ่มขึ้นจากพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นต้นฉบับยอมรับฉบับที่2ยกจาก๕.๓% ถึง๖.๓% เมื่อเทียบกับโรงงานใต้พิภพเท่านั้น ดังนั้นโรงงานไฮบริดจะอาจได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเพิ่มหน่วย TES

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทรัพยากรใต้พิภพได้รับผลกระทบจากการสูญเสียความร้อนในวงจรชีวิตของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ การลดลงของอุณหภูมิของของไหลใต้ดินอย่างมีนัยสำคัญมีผลต่อปริมาณและคุณภาพของพลังงานความร้อนที่สามารถใช้ในการแปลงไฟฟ้า นอกจากนี้ประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อุณหภูมิอบอุ่นลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากความดันไอเสียที่สูงขึ้น ในกระดาษนี้เป็นชนิดใหม่ของ geo-csp ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ถูกสร้างขึ้นซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานความร้อนใต้พิภพและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบลูกโลกใต้พิภพ พลังงานแสงอาทิตย์จะถูกใช้เพื่อให้ความร้อนใต้พิภพของเหลวเข้าไปในเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนลูกโลก หน่วย CSP มาพร้อมกับอุปกรณ์จัดเก็บพลังงานความร้อนที่รวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินในเวลากลางวันและปล่อยออกมาในเวลากลางคืนเมื่อระบบพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น การบูรณาการของหน่วยเก็บข้อมูลในระบบ CSP รางโค้งเพิ่มพลังงานแสงอาทิตย์รายปีเพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพเท่านั้น ดังนั้นพืชลูกผสมสามารถได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเพิ่มหน่วยเทส