That is, an appropriate experimenta

That is, an appropriate experimental paradigm should contrast tasks that involve chronesthesia (e.g., remembering the past, imagining the future) with a task that is matched to the past and future tasks on nontemporal features, such as imagining oneself interacting with people and locations, without requiring ‘‘movement’’ in subjective time. Nyberg et al. (2010) scanned participants using fMRI during experimental tasks that, they contended, require chronesthesia—remembering a recent short walk along a familiar route or imagining a future short walk along the same route.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คือ กระบวนทัศน์การทดลองที่เหมาะสมควรคมชัดงานที่เกี่ยวข้องกับ chronesthesia (เช่น จดจำอดีต จินตนาการอนาคต) งานที่จับคู่กับอดีตและอนาคตงานคุณสมบัติ nontemporal เช่นจินตนาการตัวเองโต้ตอบกับผู้คนและสถาน โดย ''เคลื่อนไหว '' ในเรื่องนี้ Nyberg et al. (2010) สแกนผู้ใช้ fMRI ในระหว่างทดลองงานนั้น พวกเขา contended ต้อง chronesthesia — จำล่าสุดเดินไปตามเส้นทางคุ้นเคย หรือจินตนาการในอนาคตเดินไปตามเส้นทางเดียวกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นั่นคือกระบวนทัศน์การทดลองที่เหมาะสมควรจะคมชัดงานท​​ี่เกี่ยวข้องกับการ chronesthesia (เช่นความทรงจำที่ผ่านมาจินตนาการอนาคต) กับงานที่ได้รับการจับคู่กับอดีตและอนาคตงานที่เกี่ยวกับคุณสมบัติ nontemporal เช่นจินตนาการตัวเองมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนและสถานที่ โดยไม่ต้องมีการเคลื่อนไหว '' '' ในเวลาอัตนัย เบิร์จอัลเอต (2010) สแกนผู้เข้าร่วมใช้งานในช่วง fMRI ทดลองที่พวกเขาเกี่ยงต้อง chronesthesia-จดจำเดินระยะสั้นที่ผ่านมาตามเส้นทางที่คุ้นเคยหรือจินตนาการด้วยการเดินเท้าระยะสั้นในอนาคตตามเส้นทางเดียวกัน