Steinhoff's first combat experience

Steinhoff's first combat experience was in 1939 when he fought RAF Vickers Wellington bombers that were attacking coastal industry in the Wilhelmshaven region, shooting down several. He was also appointed Staffelkapitän of 10./JG 26[Notes 1] in this period. In February 1940, he was transferred to 4./JG 52 where he served in both the French campaign and the Battle of Britain. By the end of the Battle of Britain, Steinhoff's score had advanced to six kills. Steinhoff's great strength was in his ability to pass on his knowledge and training to novice pilots, equipping them with the skills to survive and ultimately become experienced fighter pilots.

In June 1941 JG 52 were on offensive operations against the Soviet Union, becoming one of the highest scoring units in the Luftwaffe. Steinhoff himself claimed 28 Soviet aircraft shot down in the first month. By August 1941 Steinhoff had attained 35 victories and been awarded the Knight's Cross of the Iron Cross. In February 1942, as a Hauptmann, he was appointed to command II./JG 52, and claimed his 100th victory on 31 August. He was the 18th Luftwaffe pilot to achieve the century mark.[7] This achievement was followed by his 150th aerial victory on 2 February 1943.

Steinhoff remained with JG 52 until March 1943, when he took over Jagdgeschwader 77 as Geschwaderkommodore operating over the Mediterranean. A short time after taking command Steinhoff was shot down by Spitfires and had to crash-land his damaged aircraft. Previously he had been shot down only once during the Battle of Britain.

Ludwig Hahn (right), with his wife Charlotte, sister of Steinhoff (center).
On 28 July 1944, Steinhoff received the Knight's Cross of the Iron Cross with Oak Leaves and Swords. He ended the war as a jet pilot, first being posted to Kommando Nowotny in October 1944, and then, with the rank of Oberst, as Geschwaderkommodore of Jagdgeschwader 7 in December. JG 7 was equipped with the Me 262 jet fighter, and Steinhoff was allowed to hand-pick several Staffelkapitäne, including Heinz Bär and Gerhard Barkhorn. After the heavy losses suffered during Operation Bodenplatte, Steinhoff and other fighter leaders fell into disfavour following the so-called 'Fighter Pilots Revolt' against what was perceived as the incompetence of Luftwaffe high command, and Hermann Göring in particular. Along with several others, Steinhoff was relieved of his command for challenging Göring's leadership.

After a brief period spent in internal exile, Steinhoff transferred to the Jet Experten unit JV 44 then being put together by his close friend and confidant Adolf Galland in early 1945. Steinhoff initially acted as a de facto recruiting officer, persuading a number of veteran Luftwaffe aces to join the unit - some coming out of the Fighter Pilots' Rest Home at Bad Wiessee to do so. Steinhoff himself scored six confirmed kills with the unit.[Notes 2] Steinhoff survived nearly 1000 combat missions, only to see his flying career come to an end on the ground. On 18 April 1945, Steinhoff's Me-262 suffered a tyre blow-out and crashed on take-off from München-Riem airfield. Steinhoff suffered severe burns (spending two years in hospital) which left him visibly scarred despite years of reconstructive surgery. His eyelids were rebuilt by a British surgeon after the war.

His wartime record was 176 aircraft claimed destroyed, of which 152 were on the Eastern Front, 12 on the Western Front and 12 in the Mediterranean. He also flew 993 operational sorties. During his career as a fighter pilot, Steinhoff was shot down 12 times, but had to bail out only once. Explaining his preference to remain with his damaged aircraft, Steinhoff admitted: "I only bailed out once. I never trusted the parachutes. I always landed my damaged planes, hoping not to get bounced on the way down when I lost power.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประสบการณ์ต่อสู้ของ Steinhoff ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2482 เมื่อเขาสู้ RAF วิกเกอร์สเวลลิงตันระเบิดพลีชีพที่ถูกโจมตีอุตสาหกรรมชายฝั่งในภูมิภาค Wilhelmshaven ยิงลงหลาย ได้ นอกจากนี้เขายังได้รับ Staffelkapitän 10. / JG 26 [หมายเหตุ 1] ในระยะนี้ ในเดือน 1940 กุมภาพันธ์ เขาถูกโอนย้ายไป 4. / 52 JG ซึ่งเขาทำหน้าที่ในการส่งเสริมการขายที่ฝรั่งเศสและต่อสู้ราชอาณาจักร โดยตอนท้ายของการต่อสู้ของสหราชอาณาจักร คะแนนของ Steinhoff มีขั้นสูงเพื่อฆ่า 6 มีความแข็งแรงของ Steinhoff ในความสามารถของเขาเพื่อส่งต่อความรู้และฝึกอบรมของเขานักบินมือใหม่ ผู้ มีทักษะในการอยู่รอด และในที่สุด กลายเป็น นักบินรบที่มีประสบการณ์มิถุนายน 1941 JG 52 ได้การดำเนินงานที่ไม่เหมาะสมกับสหภาพโซเวียต กลายเป็นหนึ่งของ Luftwaffe หน่วยคะแนนสูงสุด Steinhoff ตัวเองอ้างว่า เครื่องบินโซเวียตที่ 28 ถ่ายลงในเดือนแรก โดยเดือน 1941 สิงหาคม Steinhoff ได้บรรลุชัยชนะ 35 และรับรางวัลของอัศวินกางเขนเหล็กข้าม ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1942 เป็นการ Hauptmann เขาได้รับคำสั่งครั้งที่สอง / JG 52 และอ้างชัยชนะ 100 บน 31 สิงหาคม เขาเป็นนักบิน Luftwaffe 18 เพื่อหมายเซ็นจูรี่ [7] ความสำเร็จนี้ถูกตาม ด้วยชัยทางอากาศ 150 บน 2 1943 กุมภาพันธ์Steinhoff อยู่กับ JG 52 จนถึงเดือน 1943 มีนาคม เมื่อเขาได้มากกว่า Jagdgeschwader 77 เป็น Geschwaderkommodore ทำงานไปยังทะเลเมดิเตอร์ ช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากคำสั่ง Steinhoff ถูกยิงลง โดย Spitfires และได้ crash-land เครื่องบินของเขาเสียหาย ก่อนหน้านี้ เขามีการยิงลงเพียงครั้งเดียวในระหว่างการต่อสู้ของสหราชอาณาจักรลุดวิกแห่งฮาห์น (ขวา), ภรรยาชาร์ลอตต์ น้องสาวของ Steinhoff (ศูนย์)28 1944 กรกฎาคม Steinhoff รับของอัศวินขนของข้ามเหล็กด้วยใบโอ๊คและดาบ เขาสิ้นสุดสงครามเป็นนักบินไอพ่น ก่อน การลงรายการบัญชี Kommando Nowotny 1944 ตุลาคม และ กับยศของ Oberst, Geschwaderkommodore ของ Jagdgeschwader 7 ในเดือนธันวาคม JG 7 เพียบพร้อมไป ด้วยฉัน 262 รบ jet และ Steinhoff ได้รับอนุญาตให้รับของคง Staffelkapitäne หลาย Heinz Bär และ Gerhard Barkhorn หลังจากประสบความสูญเสียอย่างหนักในระหว่างการดำเนินการ Bodenplatte, Steinhoff และอื่น ๆ ผู้นำรบล้มลงใน disfavour ต่อไปนี้จะเรียกว่า 'นักบินรบกบฏ' กับสิ่งมองเห็นเป็น incompetence ของ Luftwaffe สูงสั่ง Göring มันน์โดยเฉพาะ กับหลายคน Steinhoff ถูกปลดปล่อยของเขาสั่งการท้าทายภาวะผู้นำของ GöringAfter a brief period spent in internal exile, Steinhoff transferred to the Jet Experten unit JV 44 then being put together by his close friend and confidant Adolf Galland in early 1945. Steinhoff initially acted as a de facto recruiting officer, persuading a number of veteran Luftwaffe aces to join the unit - some coming out of the Fighter Pilots' Rest Home at Bad Wiessee to do so. Steinhoff himself scored six confirmed kills with the unit.[Notes 2] Steinhoff survived nearly 1000 combat missions, only to see his flying career come to an end on the ground. On 18 April 1945, Steinhoff's Me-262 suffered a tyre blow-out and crashed on take-off from München-Riem airfield. Steinhoff suffered severe burns (spending two years in hospital) which left him visibly scarred despite years of reconstructive surgery. His eyelids were rebuilt by a British surgeon after the war.His wartime record was 176 aircraft claimed destroyed, of which 152 were on the Eastern Front, 12 on the Western Front and 12 in the Mediterranean. He also flew 993 operational sorties. During his career as a fighter pilot, Steinhoff was shot down 12 times, but had to bail out only once. Explaining his preference to remain with his damaged aircraft, Steinhoff admitted: "I only bailed out once. I never trusted the parachutes. I always landed my damaged planes, hoping not to get bounced on the way down when I lost power.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประสบการณ์การต่อสู้ Steinhoff เป็นครั้งแรกในปี 1939 เมื่อเขาได้ต่อสู้กับกองทัพอากาศทิ้งระเบิดวิคเกอร์เวลลิงตันที่ถูกโจมตีอุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลในภูมิภาค Wilhelmshaven ยิงหลาย นอกจากนี้เขายังได้รับการแต่งตั้งStaffelkapitän 10 / JG 26 [หมายเหตุ 1] ในช่วงนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1940 เขาถูกย้ายไป 4 / JG 52 ซึ่งเขาทำหน้าที่ทั้งในฝรั่งเศสหาเสียงและการต่อสู้ของสหราชอาณาจักร ในตอนท้ายของการต่อสู้ของสหราชอาณาจักร, Steinhoff คะแนนได้สูงถึงหกฆ่า ความแข็งแรงมาก Steinhoff อยู่ในความสามารถในการถ่ายทอดความรู้และการฝึกอบรมของเขาที่จะเป็นนักบินมือใหม่เตรียมพวกเขามีทักษะในการอยู่รอดและท้ายที่สุดกลายเป็นนักบินรบที่มีประสบการณ์. ในมิถุนายน 1941 JG 52 ได้ในการดำเนินงานต่อต้านสหภาพโซเวียตกลายเป็นหนึ่งใน หน่วยคะแนนสูงสุดในกองทัพ Steinhoff ตัวเองอ้าง 28 เครื่องบินโซเวียตยิงลงมาในเดือนแรก โดยสิงหาคม 1941 Steinhoff ได้บรรลุชัยชนะที่ 35 และได้รับรางวัลอัศวินกางเขนที่กางเขนเหล็ก ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1942 ในฐานะกัปตันเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการ II. / JG 52 และอ้างชัยชนะ 100 ของเขาในวันที่ 31 สิงหาคม เขาเป็นนักบินกองทัพอากาศ 18 เพื่อให้บรรลุเครื่องหมายศตวรรษ. [7] ความสำเร็จนี้ตามมาด้วยชัยชนะทางอากาศของเขา 150 ที่ 2 กุมภาพันธ์ 1943 Steinhoff ยังคงอยู่กับ JG 52 จนถึงเดือนมีนาคมปี 1943 ตอนที่เขาเข้ามา Jagdgeschwader 77 เป็น Geschwaderkommodore ทำงานบนทะเลเมดิเตอร์เรเนียน . ไม่นานหลังจากการสั่ง Steinhoff ถูกยิงโดยพิทและมีการผิดพลาดที่ดินเครื่องบินของเขาได้รับความเสียหาย ก่อนหน้านี้เขาได้รับการยิงเพียงครั้งเดียวระหว่างรบของสหราชอาณาจักร. ลุดวิกฮาห์น (ขวา) กับภรรยาของชาร์ลอของเขาน้องสาวของ Steinhoff (กลาง). 28 กรกฏาคม 1944 Steinhoff ได้รับอัศวินกางเขนกางเขนเหล็กต้นโอ๊กและใบ ดาบ เขาจบสงครามเป็นนักบินเจ็ทครั้งแรกที่ถูกโพสต์ใน Kommando Nowotny ในเดือนตุลาคมปี 1944 และจากนั้นมียศเบร์ที่เป็น Geschwaderkommodore ของ Jagdgeschwader 7 ในเดือนธันวาคม JG 7 พร้อมกับฉัน 262 เครื่องบินขับไล่และ Steinhoff ได้รับอนุญาตให้มือเลือกหลายStaffelkapitäneรวมทั้งไฮนซ์บาร์แอนด์แกร์ฮาร์ด Barkhorn หลังจากที่ได้รับความเดือดร้อนสูญเสียระหว่างการใช้งาน Bodenplatte, Steinhoff และผู้นำรบตกไม่เห็นด้วยต่อไปนี้เรียกว่า 'นักบินเครื่องบินขับไล่ประท้วง' กับสิ่งที่ถูกมองว่าไร้ความสามารถของกองทัพอากาศกองบัญชาการทหารสูงสุดและแฮร์มันน์เกอริงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พร้อมกับคนอื่นหลาย Steinhoff ถูกปลดออกจากคำสั่งของเขาสำหรับความท้าทายความเป็นผู้นำGöringของ. หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ใช้ในการเนรเทศภายใน Steinhoff ถ่ายโอนไปยังหน่วย Experten เจ็ทร่วมทุน 44 แล้วถูกนำมารวมกันโดยเพื่อนสนิทของเขาและคนสนิทอดอล์ฟเกลแลนด์ในช่วงต้นปี 1945 Steinhoff ครั้งแรกทำหน้าที่เป็นพฤตินัยเจ้าหน้าที่สรรหาจูงใจจำนวนของกองทัพเก๋าเอซจะเข้าร่วมหน่วย - บางออกมาจากนักบินเครื่องบินขับไล่ 'ส่วนที่เหลือที่หน้าแรก Bad Wiessee จะทำเช่นนั้น Steinhoff ตัวเองทำแต้มหกฆ่ากับหน่วย. [หมายเหตุ 2] Steinhoff รอดชีวิตเกือบ 1,000 ภารกิจการต่อสู้เท่านั้นที่จะเห็นอาชีพของเขาบินมาถึงจุดสิ้นสุดในพื้นดิน วันที่ 18 เมษายน 1945 Steinhoff ของ Me-262 ได้รับความเดือดร้อนยางระเบิดออกและฟาดเอาออกจากสนามบินมิวนิค-Riem Steinhoff รับความเดือดร้อนแผลไหม้อย่างรุนแรง (ใช้เวลาสองปีในโรงพยาบาล) ซึ่งทำให้เขามีรอยแผลเป็นอย่างเห็นได้ชัดแม้ปีของการผ่าตัด เปลือกตาของเขาถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยศัลยแพทย์ชาวอังกฤษหลังสงคราม. บันทึกสงครามของเขาคือเครื่องบิน 176 อ้างว่าทำลายที่ 152 อยู่ในแนวรบด้านตะวันออก 12 ในแนวรบด้านตะวันตกและ 12 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้เขายังบิน 993 ก่อกวนการดำเนินงาน ในอาชีพของเขาเป็นนักบินรบ, Steinhoff ถูกยิง 12 ครั้ง แต่มีการประกันตัวออกมาเพียงครั้งเดียว อธิบายเขาชอบที่จะอยู่กับเครื่องบินเสียหายของเขา Steinhoff ยอมรับว่า:. "ฉันเพียงครั้งเดียวประกันตัวออกมาผมไม่เคยเชื่อถือร่มชูชีพฉันมักจะลงจอดเครื่องบินได้รับความเสียหายของฉันหวังว่าจะไม่ได้รับการตีกลับในทางที่ลดลงเมื่อฉันสูญเสียอำนาจ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประสบการณ์การต่อสู้ครั้งแรก สไตน์ฮอฟอยู่ใน 1939 เมื่อเขาต่อสู้เอเอฟ วิคเกอร์เวลลิงตันระเบิดที่ถูกโจมตีอุตสาหกรรมชายฝั่งในภูมิภาค Cardiff ยิงหลาย เขายังได้รับการแต่งตั้ง staffelkapit การศึกษาของ 10 / JG 26 [ 1 ] ในช่วงเวลานี้บันทึก ในกุมภาพันธ์ 1940 เขาถูกย้ายไป 4 / JG 52 ที่เขาทำหน้าที่ทั้งในฝรั่งเศสและการรณรงค์ต่อสู้ของสหราชอาณาจักรในตอนท้ายของการต่อสู้ของสหราชอาณาจักร , สไตน์ฮอฟคะแนนได้สูงถึงหกคน สไตน์ฮอฟของความแข็งแรงที่ดีในความสามารถในการถ่ายทอดความรู้และฝึกนักบินมือใหม่เตรียมพวกเขาด้วยทักษะการเอาตัวรอดและในที่สุดกลายเป็นประสบการณ์นักบิน

ในเดือนมิถุนายน 1941 JG 52 ในปฏิบัติการต่อต้านสหภาพโซเวียตเป็นหนึ่งในเกณฑ์การให้คะแนนสูงสุดหน่วยในกองทัพ . สไตน์ฮอฟเองอ้างว่า 28 สหภาพโซเวียตเครื่องบินยิง ในเดือนแรก โดยสิงหาคม 2484 สไตน์ฮอฟได้บรรลุ 35 ชัยชนะและได้รับรางวัลอัศวินกางเขนของกางเขนเหล็ก ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1942 เป็นเฮาพ์ทมันน์ เขาได้รับคำสั่ง II / JG 52 และอ้างว่าชัยชนะ 100 ของเขาในวันที่ 31 สิงหาคมนี้เขาเป็นนักบินกองทัพที่ 18 เพื่อให้บรรลุศตวรรษที่เครื่องหมาย [ 7 ] ผลสัมฤทธิ์นี้ตามด้วยชัยชนะทางอากาศของเขา 150 เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2486 .

สไตน์ฮอฟยังคงอยู่กับ JG 52 มีนาคม 2486 จนเมื่อเขายึด jagdgeschwader 77 เป็น geschwaderkommodore ปฏิบัติการเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน . ระยะเวลาอันสั้นหลังจากการสไตน์ฮอฟคำสั่งถูกยิงโดยสปิตไฟร์และมีความล้มเหลวที่ดินของเขาเสียหาย อากาศยานก่อนหน้านี้เขาได้รับการยิงเพียงครั้งเดียวในระหว่างการต่อสู้ของสหราชอาณาจักร .

ลุดวิก ฮาห์น ( ขวา ) กับภรรยาของเขา ชาร์ลอต น้องสาวของ สไตน์ฮอฟ ( กลาง ) .
ที่ 28 กรกฎาคม 1944 , สไตน์ฮอฟได้รับอัศวินกางเขนเหล็กใบโอ๊กไขว้กับดาบ เขายุติสงครามในฐานะนักบินเจ็ท ก่อนการโพสต์คําสั่งนาโอตนี่ในตุลาคม 1944 จากนั้นเมื่อ oberst ยศ ,เป็น geschwaderkommodore ของ jagdgeschwader 7 ในเดือนธันวาคม JG 7 พร้อมกับผมทรงรบเจ็ท และ สไตน์ฮอฟ อนุญาตให้มือหยิบ staffelkapit เน่หลายการศึกษา รวมทั้งไฮนซ์ B และ R และ Gerhard บาร์คฮ ์น . หลังขาดทุนหนัก bodenplatte ทรมานขณะผ่าตัด ,สไตน์ฮอฟและผู้นำรบอื่น ๆที่ตกอยู่ในความไม่ชอบต่อไปนี้เรียกว่า ' นักบินกบฏ ' กับสิ่งที่ถูกรับรู้ว่าเป็นการไร้ความสามารถของคำสั่งกองทัพอากาศสูงและ Hermann G öแหวนโดยเฉพาะ พร้อมกับคนอื่นหลายสไตน์ฮอฟ , โล่งใจของคำสั่งของเขาสำหรับความท้าทาย G öแหวนา

หลังจากระยะเวลาสั้น ๆใช้เวลาในต่างประเทศภายในสไตน์ฮอฟย้ายเครื่องบิน experten หน่วย JV 44 แล้วถูกวางไว้ด้วยกันโดยเพื่อนสนิทของเขาและของอดอล์ฟ galland ในปี 1945 สไตน์ฮอฟเริ่มทำตัวเป็นพฤตินัยรับสมัครเจ้าหน้าที่ ชักชวนจำนวนของทหารผ่านศึกกองทัพเอซเข้าร่วมหน่วย - บางออกมาจากบ้านพักที่นักบินรบไม่ดี wiessee ที่จะทำเช่นนั้น สไตน์ฮอฟเองคะแนนหกยืนยันฆ่ากับหน่วย[ 2 ] หมายเหตุ สไตน์ฮอฟรอดเกือบ 1000 ภารกิจการต่อสู้เท่านั้นที่จะเห็นเค้าบินอาชีพสิ้นสุดบนพื้นดิน ในวันที่ 18 เมษายน 1945 สไตน์ฮอฟของ me-262 ความเดือดร้อนยางรถระเบิดออกและล้มเหลวในการปิดจาก M ü nchen เรียมสนามบิน สไตน์ฮอฟถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง ( ใช้เวลา 2 ปีในโรงพยาบาล ) ที่เหลือเขามองเห็นรอยแผลแม้ปีของการผ่าตัดเปลี่ยนหน้า