A great way to get an idea of how t

A great way to get an idea of how the Thai Royals lived is to visit the Vimanmek Palace in Dusit district in Bangkok.
The Palace was built in its current location in the year 1900 by King Chulalongkorn (Rama V). Originally, the Palace was constructed as a Summer Palace on the island of Koh Sichang in the Gulf of Thailand in Chonburi Province, where King Mongkut and King Chulalongkorn used to come to enjoy a holiday. In 1900, the Palace was dismantled and rebuilt as Vimanmek Mansion in its current location in Dusit district in Bangkok.
The Palace, which is also known as Vimanmek Mansion, is the largest golden teak wood building in the world and was built without using a single nail. Vimanmek Palace was built in European style using Thai construction methods.
King Chulalongkorn used the Palace as his personal living quarters until 1906. After this, the Mansion was not used, until Queen Indharasaksaji lived here for a number of years. Since then, the Royal Family has not lived at the Mansion at it was used for storage by the Bureau of the Royal Household. In 1982, on the initiative of Queen Sirikit the Mansion was restored to its old glory.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำให้เรียนรู้วิธีการอาศัยอยู่ของพระราชวงศ์ไทยจะเข้าชมพระราชวังวิมานเมฆในเขตดุสิตในกรุงเทพ
เดอะพาเลสถูกสร้างขึ้นในตำแหน่งปัจจุบันในปี 1900 โดย (จุลจอมเกล้า) เดิม วังถูกสร้างเป็นพระราชวังฤดูร้อนบนเกาะของเกาะสีชังในอ่าวไทยในจังหวัดชลบุรี ที่สมเด็จพระจอมเกล้าและมหาจุฬาลงกรณ์ใช้มาเพลิดเพลินไปกับวันหยุด ใน 1900 วังถูกรื้อถอน และสร้างเป็นวิมานในตำแหน่งปัจจุบันในเขตดุสิตในกรุงเทพ
เดอะพาเลซ ซึ่งเรียกว่าวิมาน ใหญ่ที่สุดทองสักไม้อาคารในโลก และถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูเดียว พระราชวังวิมานเมฆถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปที่ใช้วิธีการก่อสร้างไทย.
มหาจุฬาลงกรณ์ใช้วังเป็นไตรมาสจนถึง 1906 ชีวิตส่วนตัวของเขา หลังจากนี้ คฤหาสน์ไม่ใช้ จนกว่าควีน Indharasaksaji อาศัยอยู่ที่นี่สำหรับตัวเลขของปี ตั้งแต่นั้น พระบรมวงศานุวงศ์มีไม่อยู่ที่คฤหาสน์ที่ถูกใช้สำหรับการจัดเก็บ โดยสำนักพระราชวัง ในปี 1982 ในความคิดริเริ่มของพระบรมราชินีนาถ คฤหาสน์ถูกคืนค่าให้เกียรติของเก่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีที่ดีที่จะได้รับความคิดของวิธีพระราชวงศ์ไทยอาศัยอยู่คือการเยี่ยมชมพระที่นั่งวิมานเมฆในย่านดุสิตกรุงเทพฯ
พระราชวังถูกสร้างขึ้นในสถานที่ตั้งปัจจุบันในปี 1900 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า (รัชกาลที่ V) แต่เดิมพระราชวังถูกสร้างเป็นพระราชวังฤดูร้อนบนเกาะเกาะสีชังในอ่าวไทยในจังหวัดชลบุรีที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าใช้ในการมาเพลิดเพลินกับวันหยุด ในปี 1900 พระราชวังถูกรื้อถอนและสร้างใหม่เป็นพระที่นั่งวิมานเมฆในสถานที่ปัจจุบันในเขตดุสิตกรุงเทพฯ
พาเลซซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดไม้สักทองในโลกและถูกสร้างขึ้นโดยไม่ต้องใช้คนเดียว เล็บ พระที่นั่งวิมานเมฆถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปโดยใช้วิธีการก่อสร้างไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าใช้พระราชวังเป็นที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลของเขาจนถึงปี 1906 หลังจากนี้แมนชั่นไม่ได้ใช้จนสมเด็จพระราชินี Indharasaksaji อาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี ตั้งแต่นั้นมาพระราชวงศ์ยังไม่ได้อาศัยอยู่ในแมนชั่นที่มันถูกนำมาใช้สำหรับการจัดเก็บโดยสำนักพระราชวัง ในปี 1982 ในความคิดริเริ่มของสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์แมนชั่นกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองเก่าแก่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นวิธีที่ดีที่จะได้รับความคิดของวิธีไทย ราชวงศ์อยู่คือการ เยี่ยมชมพระราชวังวิมานเมฆ ในเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร .
พระราชวังถูกสร้างขึ้นในของตำแหน่งปัจจุบันในปี 1900 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 5 ) เดิมที พระราชวังถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนบนเกาะสีชัง ในอ่าวไทยใน จ. ชลบุรีที่จอมกษัตริย์และกษัตริย์จุฬาลงกรณ์ มาเพลิดเพลินกับวันหยุด ในปี 1900 , พระราชวังถูกรื้อและสร้างใหม่เป็นพระที่นั่งวิมานเมฆในสถานที่ปัจจุบันของ บริษัท ในเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร .
วังซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ เป็นอาคารไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลกและถูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้ใช้ตะปูตัวเดียวพระที่นั่งวิมานเมฆ พระราชวังถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปที่ใช้วิธีการก่อสร้างไทย .
จุฬาลงกรณ์ใช้พระราชวังเป็นที่อยู่อาศัยส่วนตัวของเขาจนกระทั่ง 1906 หลังจากนี้ คฤหาสน์ไม่ได้ใช้จนกว่าราชินี indharasaksaji อาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี ตั้งแต่นั้นมา ราชวงศ์ไม่ได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่ถูกใช้สำหรับการจัดเก็บ โดยสำนักพระราชวัง ในปี 1982เกี่ยวกับความคิดริเริ่มของสิริกิติ์คฤหาสน์ได้รับการบูรณะให้เกียรติแก่