Sending tWhen an object gets caught

Sending tWhen an object gets caught in a black hole's gravitational pull, it'll get drawn in to the point where the immense power of the gravitational field will rip the object apart to pieces. Those pieces will then fall into an accretion disc which is basically the dinner plate for our bottomless pit neighbor, the super massive black hole at the center of our galaxy. That disc will feed the black hole until it runs out or until another object gets caught in the gravitational field and adds to it. Because of all these variances, the accretion disc isn't so much uniform as much as it is clumpy. This means that sometimes the clumpy disc can provide a generous amount of food to the black hole at once and at other times it can only provide short snacks. This can cause variations in energy output by the black hole which in turn affects the density of the jets of energy ejected at its poles (computer simulation video available at source link). The problem is that our resident super massive black hole, Sagittarius A* (Sgr A*) doesn't appear to have had much food. This concept led scientists and astronomers to wonder, could they find out when the last time such a burst of energy had occurred?

Professor Joss Bland-Hawthorn from the University of Sydney, Australia and his colleague from the Australian Astronomical Observatory have been monitoring the area at the center of the Milky Way for quite a long time in hopes to find any remnants or clues of the last burst of energy.

“For twenty years we've seen this odd glow from the Magellanic Stream,” said professor Joss Bland-Hawthorn. “We didn't understand the cause. Then suddenly we realized it must be the mark, the fossil record, of a huge outburst of energy from the center of our galaxy.”

Since its discovery in February 1974, astronomers have been watching Sgr A*, finding characteristics along the way. After monitoring a group of stars orbiting it, scientists were able to measure the black hole's mass. At 4 million times the mass of our Sun, this goliath has made itself right at home with the rest of the Milky Way orbiting around it. The gamma and X-rays emitted by the black hole and the highly radiated region around it are causing the Magellanic Stream to give out a particular wavelength of light called an H-alpha emission. This happens when the ultraviolet radiation from Sgr A* interacts in a certain way with hydrogen atoms in the stream. This glow, in turn, is lighting up a big part of the Magellanic stream.

Because of this, researchers believe that there was a huge discharge of material from the last explosive event caused by Sgr A* and it left behind a footprint. By monitoring this footprint they've also been able to estimate that this burst of energy possibly happened around 2 million years ago, which means that at its peak, the energy output was more than 100 million times as powerful is it is now. This concept then begs more questions. How often do these events happen? Can such a thing happen again? It's possible, but for now scientists will continue watching the super massive black hole for future events like when the interaction of interstellar cloud G2 gave them great images to analyze.
o you On the day I’am very thought of you

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่ง twhen วัตถุที่ได้รับการติดอยู่ในแรงโน้มถ่วงของหลุมดำก็จะได้รับการวาดในจุดที่มีอำนาจอันยิ่งใหญ่ของสนามแรงโน้มถ่วงจะตัดวัตถุออกจากกันเป็นชิ้น ๆ ชิ้นส่วนเหล่านั้นก็จะตกอยู่ในแผ่นดิสก์สะสมมวลสารที่เป็นพื้นจานอาหารค่ำสำหรับเพื่อนบ้านหลุมลึกของเราซุปเปอร์หลุมดำขนาดยักษ์ที่ใจกลางของกาแล็กซีของเราแผ่นดิสก์ที่จะเลี้ยงหลุมดำจนกว่าจะหมดหรือจนกว่าจะมีวัตถุอื่นที่ได้รับการติดอยู่ในสนามแรงโน้มถ่วงและเพิ่มให้กับมัน เพราะความแปรปรวนทั้งหมดเหล่านี้แผ่นดิสก์เพิ่มไม่สม่ำเสมอมากเท่าที่มันเป็น clumpy นี้หมายความว่าบางครั้งแผ่นดิสก์ clumpy สามารถให้จำนวนใจกว้างของอาหารที่หลุมดำในครั้งเดียวและในเวลาอื่น ๆ มันสามารถให้ว่างสั้นนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการส่งออกพลังงานโดยหลุมดำซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความหนาแน่นของเครื่องบินไอพ่นของพลังงานที่คายออกมาที่เสามัน (วิดีโอจำลองคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมโยงแหล่งที่มา) ปัญหาคือถิ่นที่อยู่ของเราซุปเปอร์หลุมดำขนาดมหึมา, ราศีธนู * (SGR *) ไม่ปรากฏว่ามีอาหารมาก แนวคิดนี้จะนำนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์สงสัยพวกเขาสามารถหาออกมาเมื่อครั้งที่แล้วเช่นระเบิดของพลังงานที่เกิดขึ้น

joss ศาสตราจารย์อ่อนโยน Hawthorn จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ออสเตรเลียและผู้ร่วมงานของเขาจากออสเตรเลีย Astronomical Observatory ได้รับการตรวจสอบพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของทางช้างเผือก สำหรับค่อนข้างนานในความหวังที่จะหาเศษหรือเบาะแสของการระเบิดล่า​​สุดของพลังงาน.

"มานานถึงยี่สิบปีที่เราได้เห็นนี้เรืองแสงแปลกจากกระแสแมกเจลแลน" joss ศาสตราจารย์อ่อนโยน Hawthorn กล่าวว่า "เราไม่ได้เข้าใจสาเหตุ แล้วก็เรารู้ว่ามันจะต้องมีเครื่องหมายบันทึกซากฟอสซิลของระเบิดขนาดใหญ่ของพลังงานจากใจกลางกาแล็กซีของเรา. "

ตั้งแต่การค้นพบในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1974 นักดาราศาสตร์ได้รับชม SGR * หาลักษณะไปพร้อมกัน .หลังจากที่ตรวจสอบกลุ่มของดาวที่โคจรรอบมันนักวิทยาศาสตร์ก็สามารถที่จะวัดมวลของหลุมดำ ที่ 4000000 ครั้งมวลของดวงอาทิตย์ของเรามีร่างกายใหญ่โตนี้ได้ทำให้ตัวเองอยู่ที่บ้านกับส่วนที่เหลือของทางช้างเผือกโคจรรอบตัวมันแกมมาและรังสี-x ปล่อยออกมาจากหลุมดำและภูมิภาคสูงแผ่ไปรอบ ๆ มันจะก่อให้เกิดกระแสแมกเจลแลนจะให้ออกความยาวคลื่นของแสงโดยเฉพาะที่เรียกว่า H-alpha ปล่อยก๊าซเรือนกระจก นี้เกิดขึ้นเมื่อรังสีอัลตราไวโอเลตจาก SGR * ปฏิสัมพันธ์ในวิธีการบางอย่างกับอะตอมไฮโดรเจนในกระแส เรืองแสงนี้ในที่สุดก็มีการจุดไฟขึ้นเป็นส่วนใหญ่ของกระแสแมกเจลแลน.

เพราะเหตุนี้นักวิจัยเชื่อว่ามีการปล่อยใหญ่ของวัสดุจากเหตุการณ์ระเบิดล่า​​สุดที่เกิดจากการ SGR * และมันทิ้งรอยเท้า โดยการตรวจสอบรอยเท้านี้พวกเขาได้รับยังสามารถที่จะประเมินว่าการระเบิดของพลังงานนี้อาจจะเกิดขึ้นประมาณ 2 ล้านปีที่ผ่านมาซึ่งหมายความว่าที่จุดสูงสุดของมันการส่งออกพลังงานได้มากกว่า 100 ล้านเท่าของที่มีประสิทธิภาพก็คือตอนนี้ แนวคิดนี้แล้วขอให้ถาม เหตุการณ์เหล่านี้จะทำอย่างไรมักจะเกิดขึ้น? เช่นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้อีกครั้ง? มันเป็นไปได้ แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์จะยังคงเฝ้าซุปเปอร์หลุมดำขนาดใหญ่สำหรับเหตุการณ์ในอนาคตเช่นเมื่อทำงานร่วมกันของดวงดาวเมฆ g2 ทำให้พวกเขามีภาพที่ดีในการวิเคราะห์.
o คุณในวัน i'am มากคิดของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่ง tWhen วัตถุได้รับการติดในดึงความโน้มถ่วงของหลุมดำ มันจะได้ออกในจุดที่อำนาจของฟิลด์ความโน้มถ่วงจะฉีกวัตถุออกจากกันเป็นชิ้น แล้วชิ้นส่วนเหล่านั้นจะตกให้เป็นจานพอกซึ่งโดยทั่วไปจานในบ้าน bottomless หลุม หลุมดำขนาดใหญ่สุดที่ศูนย์กลางของกาแล็กซี่ของเรา ดิสก์ที่จะเลี้ยงหลุมดำจน กว่าจะหมด หรือจน กว่าวัตถุอื่นได้รับการติดในฟิลด์ความโน้มถ่วง และเพิ่มการ เนื่องจากผลต่างเหล่านี้ทั้งหมด จานพอกพูนมวลไม่สม่ำเสมอมากเป็นมากเนื่องจากเป็น clumpy หมายความ ว่า บางครั้งดิสก์ clumpy สามารถให้อาหารหลุมดำพันธุ์ครั้ง และบางครั้ง ก็สามารถให้อาหารสั้น ๆ นี้อาจทำให้เปลี่ยนแปลงในผลผลิตพลังงาน โดยหลุมดำซึ่งจะมีผลต่อความหนาแน่นของฉีดพลังงานออกที่การหมุน (คอมพิวเตอร์จำลองวิดีโอเชื่อมโยงแหล่งที่มา) ปัญหาคือ ว่า เราอยู่ซุปเปอร์ขนาดใหญ่หลุมดำ ธนู A * (Sgr A *) เหมือนจะ มีอาหารมาก นำแนวคิดนี้นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์สงสัย พวกเขาสามารถค้นหา เมื่อช่วงเวลาเช่นการระเบิดของพลังงานได้เกิดขึ้นหรือไม่?

ศาสตราจารย์โจสบาฮอว์ทอร์นจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ออสเตรเลียและเพื่อนร่วมงานของเขาจากหอออสเตรเลียมีการตรวจสอบบริเวณที่ค่อนข้างเป็นเวลานานในหวังที่จะพบเศษหรือปมของการปะทุครั้งล่าสุดของพลังงานทางการ

"ยี่สิบปี เราเคยเห็นเรืองแสงนี้แปลกจากลำธารแมเจลแลน กล่าวว่า ศาสตราจารย์โจสบาฮอว์ทอร์น "เราไม่เข้าใจสาเหตุ แล้ว ก็เรารู้จะต้องมีเครื่องหมาย บันทึกฟอสซิล ของ outburst ใหญ่พลังงานจากใจกลางของดาราจักรของเรา"

ตั้งแต่ค้นพบในเดือน 1974 กุมภาพันธ์ นักดาราศาสตร์มีการดู Sgr A * หาลักษณะไปพร้อมกัน หลังจากการติดตามกลุ่มดาวที่โคจรมัน นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถวัดมวลของหลุมดำ ที่ 4 ล้านเท่ามวลของดวงอาทิตย์ของเรา อัทนี้ได้เองอยู่ที่บ้านเหลือโคจรมิลค์รอบ ๆ แกมมาและรังสีเอกซ์ออกมาจากหลุมดำและภูมิภาคราเดียตาสูงรอบ ๆ ทำให้เกิดกระแสแมเจลแลนให้ความยาวคลื่นเฉพาะของแสงที่เรียกว่าการปล่อยก๊าซ H-อัลฟา นี้เกิดขึ้นเมื่อรังสีรังสีอัลตราไวโอเลตจาก Sgr A * โต้ตอบการกับอะตอมไฮโดรเจนในกระแส เรืองแสงนี้ จะ มีแสงส่วนใหญ่น้ำแมเจลแลน

ด้วยเหตุนี้ นักวิจัยเชื่อว่า มีจำหน่ายมากวัสดุจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งล่าสุดเกิดจาก Sgr A * และจะทิ้งรอยเท้า โดยการตรวจสอบรอยเท้านี้ พวกเขาได้รับการประเมินว่า ระเบิดนี้พลังงานอาจเกิดประมาณ 2 ล้านปีที่ผ่านมา ซึ่งหมายความ ว่า ที่จุดสูงสุดของ ผลผลิตพลังงานได้มากกว่า 100 ล้านครั้งเป็นพลังเป็นเป็น แนวคิดนี้แล้วรู้สึกคำถามเพิ่มเติม ว่าเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น อาจเกิดสิ่งดังกล่าวขึ้นอีกหรือไม่ เป็นไปได้ แต่ในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังคงดูหลุมดำขนาดใหญ่สุดสำหรับเหตุการณ์ในอนาคตเช่นเมื่อปฏิสัมพันธ์ของดวงดาวเมฆ G2 ให้ภาพดีเพื่อวิเคราะห์
o คุณวัน I'am มากความคิดของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การส่ง twhen ออบเจกต์ที่จะได้รับเข้าไปติดอยู่ในดึงความโน้มถ่วงโลกของสีดำหลุมที่มันจะได้รับมาในจุดที่พลังมหาศาลของฟิลด์ความโน้มถ่วงโลกจะริปวัตถุที่แยกออกจากกันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่จะตกอยู่ในแผ่นดิสก์การสะสมตัวของน้ำแข็งซึ่งเป็นแผ่นความร้อนเรียบง่ายอาหารมื้อค่ำสำหรับเพื่อนบ้านอเวจีของเรารูสีดำขนาดใหญ่เป็นพิเศษที่ศูนย์กลางของ Galaxy ของเราแล้วดิสก์ที่จะเลี้ยงรูสีดำจนกว่าจะหมดไปหรือจนกว่าวัตถุอื่นๆจะได้รับเข้าไปติดอยู่ในฟิลด์ความโน้มถ่วงโลกและจะเพิ่มให้ เนื่องจากการฯทั้งหมดนี้ดิสก์จับไม่ได้แต่งเครื่องแบบนั้นเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่ clumpy ซึ่งหมายความว่าในบางครั้ง clumpy ดิสก์ที่สามารถจัดให้บริการจำนวนมากของอาหารรูสีดำที่ในครั้งเดียวและในช่วงเวลาอื่นๆก็สามารถให้บริการอาหารว่างแบบเบาๆเท่านั้นเพื่อไปถึงได้ไม่ไกลนักโรงแรมแห่งนี้สามารถทำให้เกิดความแตกต่างในด้านพลังงานโดยหลุมผลิตสีดำซึ่งมีผลต่อความหนาแน่นของเครื่องจัมโบ้เจ็ทที่ใช้พลังงานของดันที่เสา(วิดีโอการจำลองจัดให้บริการคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงแหล่งที่มา) ปัญหาที่เป็นที่รูสีดำขนาดใหญ่มากมีถิ่นที่อยู่ของเราราศีธนู*( sgr *)จะไม่ปรากฏขึ้นในการได้กินอาหารมาก แนวความคิดนี้นำนักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์เพื่อความน่ามหัศจรรย์ใจก็จะได้พบกับออกมาเมื่อครั้งสุดท้ายช่วงเวลาดังกล่าวที่ระเบิดของพลังงานได้เกิดขึ้นหรือไม่?

ศาสตราจารย์ก็จุดธูป bland-hawthorn จากมหาวิทยาลัยของ Sydney ,ออสเตรเลียและเพื่อนร่วมงานของเขาออกจากที่ออสเตรเลียทางดาราศาสตร์หอดูดาวได้รับการตรวจสอบที่บริเวณที่ได้อยู่ในศูนย์กลางของที่ทางช้างเผือกอยู่นานในความหวังว่าจะได้พบกับใดๆหลงเหลือหรือเบาะแสที่มาของระเบิดพลังงาน.

"ยี่สิบปีเราได้เห็นแสงประหลาดนี้จาก magellanic สตรีมที่"เจ้า bland-hawthorn ศาสตราจารย์ "เราไม่ได้ทำความเข้าใจทำให้ได้ แต่แล้วจู่ๆเราจึงตระหนักว่าจะต้องทำเครื่องหมายที่บันทึกฟอสซิลของการระเบิดออกขนาดใหญ่ของพลังงานจากศูนย์กลางของ Galaxy ของเรา"

เนื่องจากค้นพบในเดือน กุมภาพันธ์ 1974 นักดาราศาสตร์ได้รับการรับชม sgr *การค้นหาลักษณะตามเส้นทางที่หลังจากการตรวจสอบกลุ่มที่โคจรของดาวเป็นนักวิทยาศาสตร์สามารถที่จะวัดจำนวนมากของสีดำหลุมได้ ที่ 4 ล้านครั้งที่จำนวนมากของแสงแดดของเราโกลิอัทแห่งนี้ได้ทำให้ตัวของมันเองอยู่ที่บ้านพร้อมด้วยส่วนที่เหลือของทางช้างเผือกที่โคจรอยู่โดยรอบแกมม่าและ X - ปลากระเบนที่ปล่อยออกมาจากรูสีดำและ ภูมิภาค ส่งเป็นอย่างสูงที่อยู่โดยรอบทำให้ magellanic สตรีมที่ให้ออกจากความยาวคลื่นเฉพาะที่เรียกว่าการปล่อยคลื่นของแสง - ตัวอักษร โรงแรมแห่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตที่จาก sgr *โต้ตอบในหนทางหนึ่งที่พร้อมด้วยระดับอะตอมไฮโดรเจนในการสตรีม แสงแห่งนี้ในการเปิดรับแสงได้ขนาดใหญ่ของสตรีมที่ magellanic .

เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้นักวิจัยเชื่อว่าที่มีการคายประจุขนาดใหญ่ของวัสดุจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นโดย sgr ที่*และได้ออกจากทางด้านหลังใช้พื้นที่ จากการตรวจสอบพื้นที่แห่งนี้ที่ได้รับสามารถประเมินว่าการระเบิดของการใช้พลังงานอาจจะเกิดขึ้นประมาณ 2 ล้านบาทปีที่แล้วซึ่งหมายความว่าที่ยังเอาต์พุตด้านพลังงานที่มีมากกว่า 100 ล้านครั้งที่ทรงพลังเป็นเรื่องในตอนนี้ แนวความคิดนี้จากนั้นจึงมีคำถามเพิ่มเติม วิธีการทำบ่อยๆเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น สามารถเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นไปได้แต่สำหรับตอนนี้นักวิทยาศาสตร์จะเดินทางต่อไปชมรูสีดำขนาดใหญ่มากที่สำหรับเหตุการณ์ในอนาคตเมื่อมีการโต้ตอบกันของก้อนเมฆ(การท่องเที่ยว)ระหว่างดวงดาว G 2 ให้ ภาพ ที่ดีเยี่ยมในการวิเคราะห์.
o คุณในวันที่ฉัน'เป็นความคิดของคุณ