BACKGROUND: Data from an ethnobotan

BACKGROUND: Data from an ethnobotanical study were analyzed to see if they were in agreement with the biochemical basis of the apparency hypothesis based on an analysis of a pharmacopeia in a rural community adjacent to the Araripe National Forest (Floresta Nacional do Araripe - FLONA) in northeastern Brazil. The apparency hypothesis considers two groups of plants, apparent and non-apparent, that are characterized by conspicuity for herbivores (humans) and their chemical defenses.

METHODS: This study involved 153 interviewees and used semi-structured interviews. The plants were grouped by habit and lignification to evaluate the behavior of these categories in terms of ethnospecies richness, use value and practical and commercial importance. Information about sites for collecting medicinal plants was also obtained. The salience of the ethnospecies was calculated. G-tests were used to test for differences in ethnospecies richness among collection sites and the Kruskal-Wallis test to identify differences in the use values of plants depending on habit and lignifications (e.g. plants were classes as woody or non-woody, the first group comprising trees, shrubs, and lignified climbers (vines) and the latter group comprising herbs and non-lignified climbers). Spearman's correlation test was performed to relate salience to use value and these two factors with the commercial value of the plants.

RESULTS: A total of 222 medicinal plants were cited. Herbaceous and woody plants exhibited the highest ethnospecies richness, the non-woody and herbaceous plants had the most practical value (current use), and anthropogenic areas were the main sources of woody and non-woody medicinal plants; herbs and trees were equally versatile in treating diseases and did not differ with regard to use value. Trees were highlighted as the most commercially important growth habit.

CONCLUSIONS: From the perspective of its biochemical fundamentals, the apparency hypothesis does not have predictive potential to explain the use value and commercial value of medicinal plants. In other hand, the herbaceous habit showed the highest ethnospecies richness in the community pharmacopeia, which is an expected prediction, corroborating the apparency hypothesis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: ข้อมูลจากการศึกษา ethnobotanical ได้วิเคราะห์เพื่อดูถ้าพวกเขาก็ยังคงพื้นฐานของทฤษฏี apparency ชีวเคมีตามการวิเคราะห์ pharmacopeia ในชุมชนชนบทที่ติดกับ Araripe แห่งชาติป่า (Nacional ฟลอเรสต้าโด Araripe - FLONA) ในประเทศบราซิลตะวันออกเฉียงเหนือ สมมติฐาน apparency พิจารณาพืช ชัดเจน และไม่ ชัด 2 กลุ่มที่มีลักษณะ conspicuity สำหรับ herbivores (มนุษย์) และการป้องกันสารเคมีวิธีการ: การศึกษานี้เกี่ยวข้อง 153 interviewees และใช้การสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง พืชถูกจัดกลุ่มตามนิสัยและ lignification เพื่อประเมินลักษณะการทำงานประเภทนี้ใน ethnospecies ร่ำรวย ใช้ค่าและความสำคัญในทางปฏิบัติ และในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีรับข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์สำหรับการรวบรวมพืชสมุนไพร Salience ของ ethnospecies ถูกคำนวณ G-ทดสอบใช้การทดสอบความแตกต่างในความรุ่มรวย ethnospecies ไซต์คอลเลกชันและการทดสอบ Kruskal วาลลิเพื่อระบุความแตกต่างในการใช้ค่าของพืชขึ้นอยู่กับนิสัยและ lignifications (เช่นพืชที่เรียนไม้ยืนต้น หรือไม้ยืน ต้นไม่ใช่ ต้นไม้ สนุกสนาน และ lignified ไคล์มเบอร์ส (นำ) กลุ่มแรก และกลุ่มหลังที่ประกอบด้วยสมุนไพรและไม่ lignified ไคล์มเบอร์ส) ทำการทดสอบความสัมพันธ์ของ spearman กิต salience ใช้ค่าและปัจจัยสองเหล่านี้ มีมูลค่าการค้าของพืชผลลัพธ์: ถูกอ้างทั้งหมด 222 พืชสมุนไพร ร่ำรวย ethnospecies สูงสุดจัดแสดงพืช herbaceous และวู้ดดี้ พืชไม้ยืน ต้นไม่ และ herbaceous มีค่าสุด (ปัจจุบันใช้), และพื้นที่มาของมนุษย์มีแหล่งมาหลักของวู้ดดี้ และไม้ยืน ต้นไม่ใช่พืชยา สมุนไพรและต้นไม้ได้หลากหลายอย่างเท่าเทียมกันในการรักษาโรค และไม่ได้แตกต่างกันตามค่าใช้ ต้นไม้ถูกเน้นเป็นนิสัยการเจริญเติบโตที่สำคัญที่สุดในเชิงพาณิชย์บทสรุป: จากมุมมองพื้นฐานของชีวเคมี สมมติฐาน apparency ไม่ได้คาดการณ์อาจใช้มูลค่าและมูลค่าของพืชสมุนไพร ในอีก นิสัย herbaceous พบความร่ำรวย ethnospecies สูงสุดใน pharmacopeia ชุมชน ซึ่งเป็นการคาดการคาดเดา corroborating สมมติฐาน apparency

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเป็นมา: ข้อมูลจากการศึกษา Ethnobotanical มาวิเคราะห์เพื่อดูว่าพวกเขาอยู่ในข้อตกลงกับพื้นฐานทางชีวเคมีของสมมติฐาน apparency ตามการวิเคราะห์ของตำรับยาในชุมชนชนบทที่อยู่ติดกับ Araripe ป่าสงวนแห่งชาติ (Floresta แห่งชาติทำ Araripe - FLONA) ใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบราซิล สมมติฐาน apparency พิจารณาสองกลุ่มของพืชที่ชัดเจนและไม่ชัดเจนว่ามีลักษณะ conspicuity สำหรับสัตว์กินพืช (มนุษย์) และป้องกันสารเคมีของพวกเขา. วิธีการ: การศึกษาครั้งนี้มีส่วนร่วม 153 สัมภาษณ์และใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง พืชที่ถูกจัดกลุ่มตามนิสัยและ lignification การประเมินพฤติกรรมของประเภทเหล่านี้ในแง่ของความร่ำรวย ethnospecies ค่าการใช้งานและความสำคัญในทางปฏิบัติและเชิงพาณิชย์ ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ในการเก็บรวบรวมพืชสมุนไพรที่ได้รับยัง นูนของ ethnospecies ที่คำนวณได้ G-การทดสอบถูกนำมาใช้ในการทดสอบสำหรับความแตกต่างในความร่ำรวย ethnospecies ในเว็บไซต์การเก็บเงินและการทดสอบ Kruskal-วาลลิสที่จะระบุความแตกต่างในค่าใช้พืชขึ้นอยู่กับนิสัยและ lignifications (เช่นพืชชั้นเรียนเป็นไม้หรือไม่ไม้กลุ่มแรก ประกอบไปด้วยต้นไม้พุ่มไม้และไม้เลื้อย lignified (เถา) และกลุ่มหลังประกอบไปด้วยสมุนไพรและนักปีนเขาที่ไม่ lignified) การทดสอบความสัมพันธ์สเปียร์แมนได้รับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องนูนใช้ค่าและทั้งสองปัจจัยที่มีมูลค่าการค้าของพืช. ผลรวมของ 222 พืชสมุนไพรที่ถูกอ้างถึง ต้นไม้และไม้ยืนต้นแสดงความร่ำรวย ethnospecies สูงสุดที่ไม่ใช่ไม้และพืชสมุนไพรที่มีค่าในทางปฏิบัติมากที่สุด (ใช้ในปัจจุบัน) และพื้นที่ของมนุษย์เป็นแหล่งที่มาหลักของไม้ยืนต้นและพืชสมุนไพรที่ไม่ใช่ไม้; สมุนไพรและต้นไม้ที่มีหลากหลายอย่างเท่าเทียมกันในการรักษาโรคและไม่แตกต่างกันเกี่ยวกับการใช้ค่า ต้นไม้เป็นไฮไลต์เป็นส่วนใหญ่นิสัยการเจริญเติบโตที่สำคัญในเชิงพาณิชย์. สรุป: จากมุมมองของปัจจัยพื้นฐานทางชีวเคมีของสมมติฐาน apparency ไม่ได้มีศักยภาพในการคาดการณ์ที่จะอธิบายค่าการใช้งานและมูลค่าการค้าของพืชสมุนไพร ในมืออื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นนิสัยต้นไม้ร่ำรวย ethnospecies สูงสุดในชุมชนตำรับยาซึ่งเป็นคำทำนายที่คาดว่าจะยืนยันสมมติฐาน apparency

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง : ข้อมูลจากการศึกษาพฤกษศาสตร์พื้นบ้านถูกวิเคราะห์เพื่อดูว่าพวกเขามีข้อตกลงกับทางชีวเคมีพื้นฐานของ apparency สมมติฐานบนพื้นฐานของการวิเคราะห์มาตรฐานในชุมชนชนบท ติดกับ araripe ป่าสงวนแห่งชาติ ( ป่า Nacional ทำ araripe - flona ) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล การ apparency สมมติฐานพิจารณาสองกลุ่มของพืชที่ชัดเจนและไม่แจ้งที่มีลักษณะ conspicuity สำหรับสัตว์กินพืช ( มนุษย์ ) และการป้องกันทางเคมี

วิธีการ : การศึกษานี้เกี่ยวข้อง 153 คน และใช้วิธีการสัมภาษณ์ พืชที่ถูกจัดกลุ่มตามนิสัย และ lignification เพื่อประเมินพฤติกรรมของประเภทเหล่านี้ในแง่ของมูลค่าการใช้ ethnospecies ความร่ำรวยและปฏิบัติเชิงพาณิชย์ และที่สําคัญข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่รวบรวมพืชสมุนไพรก็ยังได้ ส่วนความเด่นของ ethnospecies คือการคำนวณ g-tests ถูกใช้เพื่อทดสอบความแตกต่างใน ethnospecies ความมั่งคั่งระหว่างไซต์คอลเลกชันและ Kruskal Wallis Test เพื่อระบุความแตกต่างในการใช้ค่าของพืชขึ้นอยู่กับนิสัยและ lignifications ( พืชเช่นเป็นชั้นเรียนเป็นไม้ยืนต้นหรือไม่ใช่วู้ดดี้กลุ่มแรก ประกอบด้วย ต้นไม้ พุ่มไม้ และ lignified เลื้อย ( เถา ) และหลังทดลองสมุนไพรและไม่ lignified เลื้อย ) การทดสอบความสัมพันธ์ใช้แสดงความสัมพันธ์ใดที่จะใช้ค่าปัจจัยเหล่านี้สอง ด้วยมูลค่าการค้าของพืช

ผล : รวม 222 พืชสมุนไพรถูกอ้าง .พืชต้นไม้ และวู้ดดี้ มี ethnospecies สูงสุด ความ ไม่ มี ค่า และพืชไม้ล้มลุก ไม้ยืนต้นที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ( ปัจจุบันใช้ ) , และพื้นที่ของมนุษย์เป็นแหล่งหลักของวู้ดดี้ และไม่ใช่พืชสมุนไพรไม้ยืนต้น ; สมุนไพรและต้นไม้หลากหลายอย่างเท่าเทียมกันในการรักษาโรค และไม่แตกต่างกับเรื่องการใช้ค่าต้นไม้ที่ถูกเน้นเป็นนิสัยการเจริญเติบโตที่สำคัญที่สุดในเชิงพาณิชย์ .

สรุป : จากมุมมองของชีวเคมีพื้นฐาน , apparency สมมติฐานไม่ได้มีศักยภาพที่สามารถอธิบายการใช้ประโยชน์คุณค่าและมูลค่าการค้าของพืชสมุนไพร ในมืออื่น ๆ , นิสัยต้นไม้แสดง ethnospecies สูงสุดส่วนในตำรายาของชุมชนซึ่งคาดว่าจะได้ทำนาย , corroborating
apparency สมมติฐาน