Introduction: Concepts and Theories

Introduction: Concepts and Theories in Politics 11
a political scientist may examine the democratic processes at work within a
particular system, a political philosopher will be interested in clarifying
what is meant by ‘democracy’. Political philosophy therefore addresses
itself to two main tasks. First, it is concerned with the critical evaluation of
political beliefs, paying attention to both inductive and deductive forms of
reasoning. Secondly, it attempts to clarify and refine the concepts
employed in political discourse. What this means is that, despite the best
efforts of political philosophers to remain impartial and objective, they are
inevitably concerned with justifying certain political viewpoints at the
expense of others and with upholding a particular understanding of a
concept rather than alternative ones. From this point of view, the present
book can be seen primarily as a work of political theory and not political
philosophy. Although the writings of political philosophers provide much
of its material, its objective is to analyse and explain political ideas and
concepts rather than advance any particular beliefs or interpretations.
Political theory in the twenty-first century
Political theory was in a beleaguered state through much of the twentieth
century. Indeed, in his introduction to Philosophy, Politics and Society
(1956) Peter Laslett famously declared that ‘political philosophy is dead’.
Its ‘death’ was largely a consequence of important shifts in philosophy,
notably the rise of logical positivism. Logical positivism, originally
advanced by a group of philosophers collectively known as the Vienna
Circle, reflected a deep faith in scientific understanding and suggested that
propositions that are not empirically verifiable are simply meaningless.
Normative concepts such as ‘liberty’, ‘equality’, ‘justice’ and ‘rights’ were
therefore discarded as nonsense, and philosophers, as a result, tended to
lose interest in moral and political issues. For their part, political scientists,
influenced by the ‘behavioural revolution’ that was one of the chief legacies
of positivism, turned their backs upon the entire tradition of normative
political thought. This meant, for instance, that words such as ‘democracy’
were redefined in terms of measurable political behaviour.
After the 1960s, however, political theory re-emerged with new vitality,
and the previously sharp distinction between political science and political
theory began to fade. This occurred for a number of reasons. These
included a growing dissatisfaction with behaviouralism, based upon its
tendency to constrain the scope of political analysis by preventing it from
going beyond what is directly observable. Moreover, faith in the ability of
science to uncover objective truth was undermined by advances in the
philosophy of science, stemming in particular from the work of Thomas

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การนำแนวคิดและทฤษฎีในทางการเมือง 11
นักวิทยาศาสตร์ทางการเมืองที่อาจจะตรวจสอบกระบวนการประชาธิปไตยในที่ทำงานภายในระบบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
นักปรัชญาทางการเมืองจะสนใจในคำชี้แจง
สิ่งที่มีขึ้นโดย 'ประชาธิปไตย' ปรัชญาการเมืองจึงอยู่
ตัวเองไปสองงานหลัก แรกมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประเมินความสำคัญของความเชื่อทางการเมือง
ให้ความสำคัญกับทั้งสองรูปแบบอุปนัยและนิรนัยเหตุผล
ประการที่สองก็พยายามที่จะชี้แจงและปรับแนวคิด
ว่าจ้างในวาทกรรมทางการเมือง สิ่งนี้หมายความว่าแม้จะมีความพยายามที่ดีที่สุด
ของนักปรัชญาทางการเมืองที่ยังคงเป็นกลางและวัตถุประสงค์ที่พวกเขามีความกังวล
หลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยเหตุผลทางการเมืองบางมุมมองที่
ค่าใช้จ่ายของผู้อื่นและมีการส่งเสริมความเข้าใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งของแนวคิด
มากกว่าคนที่เลือก จากมุมมองของหนังสือเล่มนี้
ปัจจุบันเราจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นผลงานของทฤษฎีการเมืองและปรัชญา
ไม่ใช่เรื่องการเมือง แม้ว่างานเขียนของนักปรัชญาทางการเมืองให้
มากของเนื้อหาของวัตถุประสงค์ของมันคือการวิเคราะห์และอธิบายความคิดทางการเมืองและ
แนวคิดมากกว่าล่วงหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อหรือการตีความ.
ทฤษฎีการเมืองในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด
ทฤษฎีการเมืองอยู่ในสภาพที่ถูกโจมตีตลอดยี่สิบศตวรรษ
แท้จริงในการแนะนำให้รู้จักกับปรัชญาการเมืองและสังคม
(1956) ปีเตอร์เลตต์ที่มีชื่อเสียงบอกว่า 'ปรัชญาการเมืองจะตาย'.
'ความตาย' ของตนส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปรัชญา
สะดุดตาเพิ่มขึ้นของตรรกะ positivism ตรรกะ positivism แต่เดิม
สูงโดยกลุ่มของนักปรัชญาเรียกว่าเวียนนา
วงกลมสะท้อนให้เห็นความเชื่อที่ลึกลงไปในความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์และบอกว่าข้อเสนอ
ที่ไม่ได้สังเกตุตรวจสอบได้มีความหมายเพียง.
แนวคิดกฎเกณฑ์เช่น 'เสรีภาพ', 'เสมอภาค', 'ยุติธรรม' และ 'สิทธิ'
ถูกทิ้งจึงเป็นเรื่องไร้สาระและปรัชญาเป็นผลให้มีแนวโน้มที่จะสูญเสีย
ความสนใจในประเด็นทางศีลธรรมและทางการเมือง สำหรับในส่วนของนักวิทยาศาสตร์ทางการเมือง
ได้รับอิทธิพลจากการปฏิวัติพฤติกรรม 'ที่เป็นหนึ่งในมรดกหัวหน้า
จาก positivism หันหลังของพวกเขาประเพณีทั้งหมดของกฎเกณฑ์
คิดทางการเมือง นี่หมายความว่าเช่นว่าคำพูดเช่น 'ประชาธิปไตย'
ถูกนิยามใหม่ในแง่ของพฤติกรรมทางการเมืองที่สามารถวัดได้.
หลังจากที่ปี 1960 แต่ทฤษฎีการเมืองโผล่ออกมาด้วยพลังใหม่
และความแตกต่างที่คมชัดก่อนหน้านี้ระหว่างวิทยาศาสตร์ทางการเมืองและทางการเมือง ทฤษฎี
เริ่มจะจางหายไป เรื่องนี้เกิดขึ้นสำหรับจำนวนของเหตุผล
เหล่านี้รวมถึงความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นด้วย behaviouralism ตามแนวโน้ม
ที่จะ จำกัด ขอบเขตของการวิเคราะห์ทางการเมืองโดยป้องกันไม่ให้มันออกมาจาก
จะเกินสิ่งที่สังเกตได้โดยตรง ยิ่งไปกว่านั้นความเชื่อมั่นในความสามารถของวิทยาศาสตร์
ที่จะเปิดเผยความจริงวัตถุประสงค์ถูกทำลายโดยความก้าวหน้าในปรัชญา
ของวิทยาศาสตร์กั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการทำงานของโทมัส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ: แนวคิดและทฤษฎีใน 11 เมือง
เป็นนักวิทยาศาสตร์ทางการเมืองอาจตรวจสอบกระบวนการประชาธิปไตยในการทำงานภายในเป็น
ระบบเฉพาะ ที่นักปราชญ์ทางการเมืองจะทำ
อะไรตั้งใจ 'ประชาธิปไตย' ได้ ปรัชญาการเมืองจึงอยู่
งานหลักตัวเอง ครั้งแรก มันเป็นเรื่องการประเมินผลที่สำคัญการ
ความเชื่อทางการเมือง ให้ความสนใจกับรูปแบบ deductive และเหนี่ยวของ
ใช้เหตุผล ประการที่สอง มันพยายามชี้แจง และปรับแต่งแนวคิด
จ้างในวาทกรรมทางการเมือง สิ่งนี้หมายความว่า แม้สุด
พวกเขาเป็นความพยายามของนักปรัชญาทางการเมืองยังคงอยู่กลาง และวัตถุประสงค์
ย่อมเกี่ยวข้องกับ justifying บางมุมมองทางการเมืองที่
ค่าใช้จ่าย ของผู้อื่น และส่งเสริมความเข้าใจเฉพาะของการ
แนวคิดแทนคนอื่น จากมุมนี้มอง ปัจจุบัน
สมุดสามารถเห็นส่วนใหญ่เป็นทฤษฎีทางการเมือง และทางการเมืองไม่
ปรัชญา แม้ว่างานเขียนของนักปรัชญาทางการเมืองให้มาก
ของวัสดุ วัตถุประสงค์ของมันคือการ วิเคราะห์ และอธิบายความคิดทางการเมือง และ
แนวคิดล่วงหน้ามีความเชื่อใดหรือตีความมากกว่า
ทฤษฎีทางการเมืองในศตวรรษที่ยี่สิบแรก
ทฤษฎีทางการเมืองอยู่ใน beleaguered โดยมากที่ twentieth
ศตวรรษ จริง ๆ เขานำปรัชญา เมืองและ Society
(1956) Peter Laslett ซึ่งประกาศว่า "ปรัชญาการเมืองเสีย' .
'ตาย' ของถูกส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกะสำคัญในปรัชญา,
ยวดเพิ่มขึ้นของ logical positivism Logical positivism เดิม
ขั้นสูง โดยในกลุ่มของนักปรัชญาที่เรียกโดยรวมว่าเวียนนา
วงสะท้อนศรัทธาอย่างลึกซึ้งในความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ และแนะนำที่
เริ่มที่ไม่พิสูจน์ empirically มีเพียงแค่ไม่
มีแนวคิด normative 'เสรีภาพ' 'ความเสมอภาค' 'ความยุติธรรม' และ 'สิทธิ'
จึงละทิ้งเป็นเหลวไหล ปรัชญา เป็นผล แนวโน้มที่จะ
เสียสนใจในประเด็นทางศีลธรรม และการเมือง สำหรับนักของพวกเขาส่วนหนึ่ง การเมืองวิทยาศาสตร์,
ที่รับอิทธิพลจากการ 'ปฏิวัติพฤติกรรม' เป็นหนึ่งในมรดกประธาน
ของ positivism เปิดหลังของพวกเขาตามประเพณีทั้งหมดของ normative
ความคิดทางการเมือง นี้หมายถึง เช่น ที่คำเช่น 'ประชาธิปไตย'
มีโครงแบบอีกครั้งในการวัดผลทางการเมืองพฤติกรรมการ
หลังจากปี 1960 ไร ทฤษฎีการเมือง re-emerged กับพลังใหม่,
และแตกก่อนหน้านี้คม ระหว่างรัฐศาสตร์ และการเมือง
ทฤษฎีเริ่มจาง นี้เกิดขึ้นสำหรับจำนวนของเหตุผล เหล่านี้
อยู่ที่ความไม่พอใจเติบโต behaviouralism ตามของ
แนวโน้มที่จะจำกัดขอบเขตของการวิเคราะห์ทางการเมือง โดยป้องกันจาก
ไปนอกเหนือจากสิ่งตรง observable ยิ่งไปกว่านั้น ความเชื่อในความสามารถของ
วิทยาศาสตร์การค้นพบความจริงวัตถุประสงค์ถูกทำลาย โดยความก้าวหน้าในการ
ปรัชญาวิทยาศาสตร์ อันเนื่องมาจากการทำงานของโทมัสโดยเฉพาะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การแนะนำแนวคิดทฤษฎีและอยู่ในการเมือง 11
นักวิทยาศาสตร์ทางการเมืองที่อาจตรวจสอบกระบวนการประชาธิปไตยในที่ทำงาน ภายใน ระบบ
เฉพาะที่นักปรัชญาทางการเมืองที่จะให้ความสนใจในวิธีการต่างๆ
สิ่งที่หมายถึง'ประชาธิปไตย' ปรัชญาทางการเมืองดังนั้นแอดเดรสของตัวมันเอง
ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองงานหลัก เป็นครั้งแรกมันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญกับการประเมินของ
ซึ่งจะช่วยความเชื่อทางการเมืองการให้ความสำคัญกับรูปแบบทั้งแบบเหนี่ยวนำและอนุมานของ
การใช้เหตุผล ประการที่สองเป็นความพยายามที่จะทำความเข้าใจและปรับแนวความคิด
ที่ใช้วาทกรรมในทางการเมือง ซึ่งนั่นหมายความว่าแม้จะดีที่สุด
ความพยายามของบรรดานักปรัชญาทางการเมืองจะยังอยู่เป็นกลางและมีเป้าหมายที่จะเป็นความเห็นด้วยเปิดรับความคิดเห็นทางการเมืองบางอย่าง ที่

อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ท่านต้องชำระค่าใช้จ่ายของผู้อื่นและพร้อมด้วยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดความรู้ความเข้าใจอย่างใดอย่างหนึ่งของคนที่เป็นทางเลือก
แนวความคิดมากกว่า. จากจุดนี้ของวิวทิวทัศน์ในปัจจุบัน
หนังสือเล่มนี้จะสามารถมองเห็นได้เป็นงานที่เกี่ยวกับทฤษฎีทางการเมืองและปรัชญาทางการเมืองไม่ได้ตอบแทน
แม้ว่างานเขียนของบรรดานักปรัชญาทางการเมืองจะจัดให้บริการที่มากกว่า
ซึ่งจะช่วยในการผลิตของพื้นที่โดยมีเป้าหมายในการวิเคราะห์และอธิบายถึงความคิดทางการเมืองและ
แนวความคิดมากกว่าการตีความล่วงหน้าหรือความเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง.

ทฤษฎีทางการเมืองเกี่ยวกับทฤษฎีทางการเมืองในศตวรรษที่ยี่สิบครั้งแรกที่อยู่ในสถานะถูกปิดล้อมที่ผ่านมากของคริสตศตวรรษ
ช่วงศตวรรษที่ จริงๆแล้วในการแนะนำของเขากับปรัชญาสังคมปีเตอร์ laslett
( 1956 )และการเมืองมีชื่อเสียงประกาศว่า"ปรัชญาทางการเมืองเป็นคนตาย'..
"ความตายของพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นผลของกะสำคัญในปรัชญา
ซึ่งมีชื่อเสียงขึ้นมาของ positivism แบบลอจิก positivism แบบลอจิกซึ่งแต่เดิม
ซึ่งจะช่วยขั้นสูงโดยกลุ่มที่มาของบรรดานักปรัชญาเป็นที่รู้จักกันในกรุงเวียนนา
ซึ่งจะช่วยเป็นวงกลมที่สะท้อนถึงความสุจริตใจลึกลงไปในการทำความเข้าใจทางด้านวิทยาศาสตร์และคำแนะนำที่ใช้สำหรับที่
ซึ่งจะช่วยข้อเสนอต่างๆที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้เชิงประจักษ์ไม่มีความหมายอะไรง่ายๆ.
เป็นแนวความคิดเช่น' Liberty ','ความ เสมอภาค ','ความยุติธรรม'และ'สิทธิ'คน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เป็นเรื่องไร้สาระและปรัชญา,เป็นที่ทำให้มีแนวโน้มที่จะ
จะหมดความสนใจในทางศีลธรรมและปัญหาทางการเมือง. สำหรับในส่วนของทางการเมืองบรรดานักวิทยาศาสตร์
ได้รับอิทธิพลจาก"ปฏิวัติ"พฤติกรรมที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าตำนานแห่ง
ของ positivism หันหลังให้กับความดั้งเดิมทั้งหมดของเป็นบรรทัดฐาน
ความคิดทางการเมือง. โรงแรมแห่งนี้จะเป็นตัวอย่างว่าเป็น"ระบอบประชาธิปไตย'
มีนิยามใหม่ของในเงื่อนไขของการทำงานทางการเมืองสามารถวัดผลได้.
หลังจากที่ 1960 s อย่างไรก็ตามทฤษฎีทางการเมืองกลับออกมาพร้อมด้วยทฤษฎีใหม่
และก่อนหน้านี้คมความแตกต่างระหว่างวิทยาศาสตร์ทางการเมืองและทางการเมือง
เริ่มเลือนหายไปจาก โรงแรมแห่งนี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากด้วยเหตุผล
ตามมาตรฐานเหล่านี้คิดรวมถึงทำให้ไม่พอใจมากขึ้นพร้อมด้วย behavioralism โดยขึ้นอยู่กับ
มีแนวโน้มที่จะบังคับขอบเขตของการวิเคราะห์ทางการเมืองโดยการป้องกันไม่ให้มันจาก
ไปพ้นจากสิ่งที่เป็นสิ่งที่สังเกตโดยตรง. ยิ่งไปกว่านั้นความศรัทธาในความสามารถของ
ซึ่งจะช่วยในการเปิดทางด้านวิทยาศาสตร์ความจริงโดยมีวัตถุประสงค์ทำลายความก้าวหน้าใน
ปรัชญาของวิทยาศาสตร์ดังกล่าวเป็นผลมาจากงานในที่ของโทมัส