Sanam Luang (Thai: สนามหลวง) is an

Sanam Luang (Thai: สนามหลวง) is an open field and public square in front of Wat Phra Kaew and the Grand Palace, Bangkok, Thailand. Sanam Luang is located in the Phra Nakhon district, the historic center of Bangkok.

It was written in the Royal Chronicle as follow that : "In front of Wat Mahathat, Sanam Luang lies between the Royal Palace and the Front Palace. When royal cremation was held at the Phra Men Ground, the pyre set up in the centre with the Royal Palace Pavilion to the south and the one of the Prince of the Front Palace to the north. The music from the Royal Palace and from the Palace to the Front would be played on opposite sides of Sanam Luang".

Sanam Luang was officially known as Thung Phra Men (the royal cremation ground) (Thai : ทุ่งพระเมรุ). It has been used as a site for the cremation of kings, queens and high-ranking princes since the reign of King Rama I.

In 1855, King Rama IV changed the name from Thung Phra Men to Thong Sanam Luang, but the name is now shortened to Sanam Luang.
History
A picnic at Sanam Luang in the evening

Sanam Luang has been used since the time of King Rama I. It was the place for royal ceremonies and functions. Including the cremation of the Prince of the Palace to the Front, who was Rama I's brother. King Rama II followed this example of performing royal ceremonies there, including the cremation of the Prince of the Palace to the Front of his reign, who was also his beloved brother. The Royal Chronicles mention the close link between the two brothers as follows :

"At the beginning of the season of the tradewind, the king flew a Chula kite (star-shaped kite) in front of the Temple of the Emerald Buddha and the Prince of the Palace to the Front flew a Pakpao kite (plain kite) at Sanam Luang".

During the reign of King Rama III, when Thailand was engaged in a conflict with Vietnam over the Cambodian border, the King wished to demonstrate to other nations that Thailand was such a fertile, flourishing country that even the area in front of the Grand Palace was cultivated. Sanam Luang was then a normal plot of land, used for growing rice. When there was a Royal Funeral, it would be smoothed over to prepare for the event.

King Rama IV set up a place for performing the Royal Ploughing Ceremony and the Ceremony of Calling the Rain (Thai พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ) where low walls were put up and a small hall was built to place the Buddha image for the Ceremony. Pavilions and towers were built near the king's seat when he watched the ploughing ceremony. Next to the king's pavilion there was a stage where plays were performed as part of the ritual of propitiating the gods. Outside the wall there was a barn where the rice would be stored.

King Rama V enlarged Sanam Luang and pulled down all the buildings which were used for the ceremonies of former kings and it was no longer necessary to grow rice near the Royal Palace. The space was needed for the preparation of the Centennial Celebration of Bangkok in 1897 which took place soon after King Rama V's return from Europe. It was a grand celebration also corresponding to the king's fiftieth birthday. Sanam Luang was still the place for kite flying. King Rama VI again used the place in the same manner as former kings to perform various ceremonies. Also, it was used as a race-track, and golf-course since more foreigners came to visit and stay in the country.
The royal crematorium of HRH Princess Galyani Vadhana at Sanam Luang

The present king uses Sanam Luang annually on 11 March, for the Ploughing Ceremony and the Ceremony of Calling the Rain. There were various ceremonies performed at Sanam Luang, including the Bi-Centennial Celebration of Bangkok (Thai : พระราชพิธีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี), in 1982, the grand celebration to the king's birthday (Thai : พระราชพิธีกาญจนาภิเษก) and the cremation for Queen Rambhai Barni of King Rama VII, in 1986.

The last cremation that took place there was for the King Rama VI's only daughter, HRH Princess Bejaratana Rajasuda in 2012.

The Fine Arts Department has listed Sanam Luang as a historical site in 1977, announced on 13 December 1977, according to the Royal Decree (book 94 part 126). The area of Sanam Luang is about 30 acres (74 Rai 63 Wa).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนามหลวง (ไทย: สนามหลวง) เป็นฟิลด์เปิดและกบาลหน้าวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพ ประเทศไทย หลวงตั้งอยู่ในเขตพระนคร ศูนย์ประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานครเขาเขียนไว้ในพระราชพงศาวดารที่ต่อไปนี้: "หน้าวัดมหาธาตุ สนามหลวงอยู่ระหว่างพระบรมมหาราชวังและพระราชวังบวรสถานมงคลนั้น เมื่อพระราชทานเพลิงศพจัดขึ้นที่พื้นคนพระ ถวายการตั้งค่าในศูนย์กับพาวิลเลี่ยนพารอยัลหนึ่งของเจ้าของวังหน้าทางทิศเหนือและใต้ เพลง จากพระบรมมหาราชวัง และวังหน้าจะเล่นด้านตรงข้ามของสนามหลวง"สนามหลวงอย่างเป็นทางถูกเรียกว่าทุ่งพระเมรุ (ดินพระราชทานเพลิงศพ) (ไทย: ทุ่งพระเมรุ) มีการใช้เป็นเว็บไซต์สำหรับเผาศพของคิงส์ ควีนส์ และปริ๊นซ์ขนาดตั้งแต่รัชกาลพระรามฉันโทรทัศน์(เคเบิล) รัชกาลที่เปลี่ยนชื่อจากทุ่งพระเมรุท้องสนามหลวง แต่ชื่อตอนนี้ได้ลดลงไปสนามหลวงประวัติปิกนิกที่สนามหลวงในช่วงเย็นมีการใช้สนามหลวงตั้งแต่เวลาพระรามฉัน มันเป็นสถานที่สำหรับพระราชพิธีและฟังก์ชัน รวมถึงการเผาศพของเจ้าของวังหน้า ผู้เป็นพี่ชายพระราม I ของ รามตามตัวอย่างนี้ดำเนินการพระราชพิธี รวมถึงการเผาศพของเจ้าของวังหน้ารัชกาล ที่ยังน้องรัก พระราชพงศาวดารพูดเชื่อมโยงใกล้ชิดระหว่างพี่น้องสองเป็นดังนี้:"จุดเริ่มต้นของฤดูกาล tradewind กษัตริย์บินว่าวจุฬา (ว่าวรูปดาว) หน้าวัดพระแก้ว และเจ้าของวังหน้าบินว่าว Pakpao (ว่าวธรรมดา) ที่สนามหลวง"ในรัชสมัยของสมเด็จพระราม III เมื่อมีไทยมีส่วนร่วมในความขัดแย้งกับประเทศเวียดนามผ่านชายแดนกัมพูชา คิงต้องการแสดงให้ประเทศอื่น ๆ ที่ประเทศไทยได้เช่นอุดม สรรประเทศที่บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง ได้ปลูก สนามหลวงถูกแล้วเป็นปกติแผ่นดิน ใช้สำหรับปลูกข้าว เมื่อมีงานศพรอยัล มันจะโค้งกว่าการเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์รัชกาลตั้งค่าสถานที่สำหรับทำพิธีมงคลราชและในพิธีของเรียกฝน (พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญไทย) ที่ถูกวางผนังต่ำ และฮอลล์ขนาดเล็กถูกสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปในพิธี ศาลาและอาคารสร้างขึ้นใกล้กับที่นั่งของพระมหากษัตริย์เมื่อเขาได้ดูพิธีมงคล ติดกับศาลาพระ มีขั้นที่ดำเนินเล่นเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมของ propitiating กับพระเจ้า นอกกำแพง มียุ้งฉางที่จะเก็บข้าวรัชกาลขยายหลวง และดึงลงอาคารทั้งหมดที่ใช้สำหรับพิธีของอดีตพระมหากษัตริย์ และก็ไม่จำเป็นต้องปลูกข้าวใกล้พระบรมมหาราชวัง พื้นที่จำเป็นสำหรับการเตรียมฉลองเซนเทนเนียลกรุงเทพใน 1897 ซึ่งเกิดขึ้นทันทีหลังจากรัชกาลของกลับจากยุโรป จัดงานฉลองแกรนด์ยัง ตรงกับวันเกิด fiftieth ของพระมหากษัตริย์ได้ สนามหลวงยังถูกสถานบินว่าว รัชกาลใช้อีกครั้งในรูปแบบเดียวกับพระมหากษัตริย์ในอดีตการทำพิธีต่าง ๆ ยัง ถูกใช้เป็นติดตามการแข่งขัน และกอล์ฟเนื่องจากชาวต่างชาติที่เพิ่มเติมมาเพื่อเยี่ยมชม และพักผ่อนในประเทศเมรุของพระบาทสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอที่สนามหลวงกษัตริย์ปัจจุบันใช้สนามหลวงเป็นประจำทุกปีในเดือน 11 มีนาคม พิธีมงคลและในพิธีของเรียกฝน มีหลายพิธีท้องสนามหลวง รวมทั้งเซนเทนเนียล Bi ฉลองกรุงเทพ (ไทย: พระราชพิธีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี), ใน 1982 ฉลองแกรนด์กับวันพ่อ (ไทย: พระราชพิธีกาญจนาภิเษก) และเผาศพสำหรับ Rambhai Barni ราชินีของกษัตริย์พระราม VII ในปี 1986เผาศพสุดท้ายที่เกิดขึ้นมีเพียงในรัชกาลของลูกสาว เจ้าหญิงสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอใน 2012กรมศิลปากรได้แสดงสนามหลวงเป็นโบราณสถานใน 1977 ประกาศณวันที่ 13 1977 ธันวาคม ตามพระราชกฤษฎีกา (หนังสือ 94 ตอนที่ 126) พื้นที่ของสนามหลวงได้ประมาณ 30 ไร่ (74 ไร่ 63 วา)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สนามหลวง (ไทย: สนามหลวง) เป็นทุ่งโล่งและลานสาธารณะหน้าวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง, กรุงเทพ, ประเทศไทย สนามหลวงตั้งอยู่ในเขตพระนครศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ. มันถูกเขียนขึ้นในอดีตรอยัลดังต่อไปนี้ว่า: "ในหน้าวัดมหาธาตุสนามหลวงอยู่ระหว่างพระบรมมหาราชวังและพระราชวังด้านหน้าเมื่อพระราชเพลิงศพเป็น. จัดขึ้นที่พระเมรุพื้นเมรุเผาตั้งอยู่ในศูนย์ที่มีพาวิลเลี่ยนพระบรมมหาราชวังไปทางทิศใต้และเป็นหนึ่งในเจ้าชายแห่งพระราชวังหน้าไปทางทิศเหนือ. เพลงจากพระบรมมหาราชวังและจากพระราชวังไปด้านหน้าจะ จะเล่นในด้านตรงข้ามของสนามหลวง ". สนามหลวงเป็นที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการเป็นทุ่งพระเมรุ (ดินเผาศพพระราช) (ไทย: ทุ่งพระเมรุ) มันถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับศพของพระมหากษัตริย์ราชินีและเจ้าชายระดับสูงมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่หนึ่งใน 1855 รัชกาลเปลี่ยนชื่อจากทุ่งพระเมรุท้องสนามหลวง แต่ชื่ออยู่ในขณะนี้ ลงไปท้องสนามหลวง. ประวัติปิกนิกที่ท้องสนามหลวงในช่วงเย็นสนามหลวงถูกนำมาใช้ตั้งแต่เวลาของรัชกาลที่ครั้งที่หนึ่งมันเป็นสถานที่สำหรับพระราชพิธีและฟังก์ชั่น รวมทั้งศพของเจ้าชายของพระราชวังที่ Front ที่ผู้เป็นพี่ชายของพระราม รัชกาลที่สองตามตัวอย่างนี้ในการดำเนินการพระราชพิธีมีรวมทั้งศพของเจ้าชายของพระราชวังไปยังด้านหน้าของการครองราชย์ของเขาซึ่งเป็นพี่ชายที่รักของเขา พงศาวดารรอยัลพูดถึงการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดระหว่างพี่น้องทั้งสองคนดังต่อไปนี้: "ในตอนต้นของฤดูกาล Tradewind ที่กษัตริย์บินว่าวจุฬา (ว่าวรูปดาว) ในด้านหน้าของวัดพระศรีรัตนศาสดารามและเจ้าชายแห่ง พระราชวังที่ Front บินว่าว Pakpao (วธรรมดา) ที่ท้องสนามหลวง ". ในช่วงสมัยรัชกาลที่สามเมื่อประเทศไทยได้รับการมีส่วนร่วมในความขัดแย้งกับเวียดนามมากกว่าชายแดนกัมพูชาที่พระมหากษัตริย์ทรงปรารถนาที่จะแสดงให้เห็นถึงประเทศอื่น ๆ ว่าประเทศไทย ได้รับการดังกล่าวอุดมสมบูรณ์เจริญรุ่งเรืองของประเทศว่าแม้พื้นที่ในด้านหน้าของพระบรมมหาราชวังได้รับการปลูกฝัง สนามหลวงได้แล้วพล็อตปกติของที่ดินที่ใช้ในการปลูกข้าว เมื่อมีงานศพหลวงก็จะเรียบเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขัน. รัชกาลตั้งค่าสถานที่สำหรับการแสดงในพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญและพิธีเรียกฝน (ไทย ที่ผนังต่ำถูกนำขึ้นและห้องโถงเล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อวางพระพุทธรูปสำหรับพิธี. พาวิลเลี่ยนและอาคารที่ถูกสร้างขึ้นใกล้กับที่นั่งของกษัตริย์เมื่อเขาเฝ้าดูพิธีไถ. ถัดจากศาลาของกษัตริย์ก็มีขั้นตอนที่ละครกำลังดำเนินการ เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม propitiating พระเจ้า. นอกกำแพงมียุ้งฉางที่ข้าวจะถูกเก็บไว้. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าขยายสนามหลวงและดึงลงอาคารทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้สำหรับพิธีของพระมหากษัตริย์ในอดีตและมันก็ไม่ได้อีกต่อไป ที่จำเป็นในการปลูกข้าวที่อยู่ใกล้พระบรมมหาราชวัง. พื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการเตรียมความพร้อมของการเฉลิมฉลองครบรอบร้อยปีของกรุงเทพมหานครในปี 1897 ซึ่งเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้หลังจากที่กลับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าจากยุโรป. มันเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับวันเกิดปีที่ห้าสิบของกษัตริย์. สนาม หลวงยังคงเป็นสถานที่สำหรับการบินว่าว. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอีกครั้งใช้สถานที่ในลักษณะเดียวกับพระมหากษัตริย์ในอดีตที่จะดำเนินการพิธีต่างๆ. นอกจากนี้ยังใช้เป็นที่ติดตามการแข่งขันและสนามกอล์ฟตั้งแต่ชาวต่างชาติอื่น ๆ ที่เข้ามาเยี่ยมชมและ อยู่ในประเทศ. เมรุพระราชทานสมเด็จสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ สนามหลวงพระมหากษัตริย์ในปัจจุบันใช้สนามหลวงเป็นประจำทุกปีในวันที่11 มีนาคมสำหรับพืชมงคลพิธีและพิธีเรียกฝน มีพิธีต่างๆดำเนินการที่สนามมีหลวงรวมทั้งการเฉลิมฉลองสองร้อยปีของกรุงเทพมหานคร (ไทย: พระราชพิธีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี) ในปี 1982 การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่กับวันเกิดของกษัตริย์ (ไทย: พระราชพิธีกาญจ นาภิเษก) และพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระราชินีสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินีรัชกาลปกเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี 1986 ศพสุดท้ายที่เกิดขึ้นมีเป็นลูกสาวคนเดียวของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้า, สมเด็จสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพั ณ ณ วดีในปี 2012 กรมศิลปากรได้ระบุไว้สนามหลวง เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในปี 1977 ประกาศ ณ วันที่ 13 ธันวาคม 1977 ตามพระราชกฤษฎีกา (หนังสือ 94 ส่วน 126) พื้นที่สนามหลวงเป็นประมาณ 30 เอเคอร์ (74 ไร่ 63 วา)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สนามหลวง ( ไทย : สนามหลวง ) เป็นสนามเปิดและจัตุรัสสาธารณะ หน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย สนามหลวง ตั้งอยู่ในเขตพระนคร , ศูนย์ประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ

มันเขียนไว้ในพงศาวดารราชวงศ์ดังนี้ : " ในหน้าวัดมหาธาตุ สนามหลวง ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังและวังหน้าเมื่อถวายพระเพลิงพระศพจัดขึ้นที่ท้องสนามหลวง , ศพตั้งในศูนย์กับศาลาพระราชวังทางทิศใต้ และเป็นหนึ่งในเจ้าชายหน้าพระราชวังไปทางทิศเหนือ เพลงจากพระบรมมหาราชวังและพระราชวังไปด้านหน้าจะเล่นบนด้านตรงข้ามของสนามหลวง " .

สนามหลวงอย่างเป็นทางการ เรียกว่า ทุ่งพระเมรุ ( ถวายพระเพลิงพระศพพื้นดิน ) ( ไทย :ทุ่งพระเมรุ ) มันได้ถูกใช้เป็นสถานที่เผาศพของกษัตริย์ ราชินี และเจ้านายระดับสูง ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1

ใน 1855 , พระราชารัชกาลที่ 4 ได้เปลี่ยนชื่อจาก ทุ่งพระเมรุ เพื่อท้องสนามหลวง แต่ชื่อคือตอนนี้สั้นไปสนามหลวง ประวัติศาสตร์

ปิกนิกที่ท้องสนามหลวงใน เย็น

สนามหลวงได้ถูกใช้มาตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1มันเป็นสถานที่สำหรับพิธีหลวงและฟังก์ชั่น รวมทั้งศพของเจ้าชายแห่งวังไปด้านหน้าที่เป็นพี่ชายผมพระราม . พระราม 2 ตามนี้ตัวอย่างของการแสดงพิธีหลวงนั้น รวมถึงศพของเจ้าชายแห่งวังไปด้านหน้าแห่งรัชกาลของพระองค์ ผู้เป็นน้องชายสุดที่รักของเขาพระราชพงศาวดารได้กล่าวถึงการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดระหว่างสองพี่น้องดังนี้

" ที่จุดเริ่มต้นของฤดูกาลของตัวแทน กษัตริย์บินว่าว ( ว่าวจุฬา รูปดาว ) หน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเจ้าชายแห่งวังไปบินว่าว ( ว่าวปักเป้าธรรมดา ) ที่สนามหลวง " .

สมัยรัชกาลที่สามเมื่อประเทศไทยได้ร่วมในความขัดแย้งกับเวียดนามเหนือชายแดนเขมร ทรงปรารถนาจะแสดงให้ประเทศอื่น ๆ ที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ เจริญรุ่งเรือง แม้พื้นที่หน้าพระบรมมหาราชวังถูกเพาะปลูก สนามหลวงเป็นแผนปกติของที่ดินที่ใช้ในการปลูกข้าว เมื่อมีงานศพพระ , มันจะเรียบกว่าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ .

รัชกาลที่ 4 ตั้งค่าสถานที่สำหรับการพระราชพิธีและพิธีเรียกฝน ( ไทยพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ) ที่ผนังต่ำถูกวางขึ้นและศาลาขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อวางพระพุทธรูป เพื่อประกอบพิธี ศาลาและอาคารถูกสร้างขึ้นใกล้กับที่นั่งของกษัตริย์ เมื่อเขาได้ดูพิธีแรกนาขวัญ .หน้าของกษัตริย์ ศาลา มีเวทีที่เล่นได้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมของ propitiating เทพเจ้า นอกกำแพงมียุ้งฉางที่ข้าวจะเก็บไว้

รัชกาลที่ 5 ขยายสนามหลวงและดึงลงทุกอาคารที่ใช้สำหรับพิธีของอดีตกษัตริย์และมันไม่จำเป็นอีกต่อไปที่จะปลูกข้าวใกล้พระบรมมหาราชวังพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการเตรียมการของ Centennial ฉลองกรุงเทพฯ ในปี ค.ศ. 1897 ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่รัชกาลที่ 5 กลับจากยุโรป มันเป็นแกรนด์การเฉลิมฉลองยังสอดคล้องกับพระราชา รอบวันเกิด สนามหลวงเป็นสถานที่สําหรับว่าวบิน รัชกาลที่ 6 อีกครั้งใช้สถานที่ในลักษณะเดียวกับที่อดีตกษัตริย์แสดงพิธีกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้มันถูกใช้เป็นสนามแข่ง และสนามกอล์ฟ เพราะชาวต่างชาติมากขึ้นมาเพื่อเยี่ยมชม และอยู่ในประเทศ พระเมรุของเจ้าหญิง
พระราชทานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณท้องสนามหลวง

กษัตริย์ปัจจุบันใช้สนามหลวงทุกปีในวันที่ 11 มีนาคม ในพิธีแรกนาขวัญ และพิธีเรียกฝน มีพิธีการต่าง ๆที่บริเวณท้องสนามหลวง