The term "Marginal" in economics is

The term "Marginal" in economics is used extremely often. What it means, is essentially the next additional unit, product, person, or whatever else you're associating the term with.

For example, say you're reading an economics textbook and you come across the term "Marginal Profit." What this means, is the profit you will gain from selling one additional unit of good, after taking into account the marginal cost as well.

Another example, "Marginal Utility" can be explained as the additional utility a consumer receives from consuming one more additional unit of good.

The most used terms would most likely be Marginal cost, and marginal revenue. Businesses will place a lot of importance on these type of terms because companies not only want to maximize and minimize profit, but they also want to be efficient with what they do. If a marginal cost is increasing, while marginal revenue is decreasing, it wouldn't make any sense to continue to produce past the point where marginal cost is more than marginal revenue. Thus, by looking at the margins and not just at the final big picture of revenue vs cost, companies are able to adjust more quickly in the short run, and help their business reach optimal efficiency.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้คำว่า "กำไร" ในเศรษฐศาสตร์มักมาก ความหมาย เป็นหลักถัดไปเพิ่มเติมหน่วย ผลิตภัณฑ์ บุคคล หรือสิ่งอื่นคุณกำลังเชื่อมโยงคำกับตัวอย่าง พูดว่า คุณกำลังอ่านหนังสือเศรษฐศาสตร์การ และคุณเจอคำว่า "กำไรกำไร" ว่าวิธี นี้ คือ กำไรที่คุณจะได้รับจากการขายหน่วยเพิ่มเติมของดี หลังจากการคำนึงถึงต้นทุนกำไรเช่นกันอย่างอื่น "อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่ม" ที่สามารถอธิบายเป็นอรรถประโยชน์เพิ่มเติมที่ผู้บริโภคได้รับจากการบริโภคหนึ่งหน่วยยิ่งดีเงื่อนไขที่ใช้มากที่สุดอาจจะเป็นต้นทุนกำไร และรายได้ส่วนเพิ่ม ธุรกิจจะวางสำคัญมากบนเงื่อนไขประเภทนี้เนื่องจากบริษัทไม่เพียงแต่ต้องการเพิ่ม และลดกำไร แต่พวกเขายังต้องการประสิทธิภาพทำ ถ้าต้นทุนกำไรเพิ่มขึ้น ในขณะที่ลดรายได้กำไร มันจะไม่ได้รู้สึกใด ๆ เพื่อผลิตผ่านจุดที่เป็นต้นทุนกำไรต่อรายได้มากกว่ากำไร ดังนั้น โดยมอง ที่ขอบ และไม่เพียง ในภาพใหญ่สุดท้ายของรายได้เทียบกับต้นทุน บริษัทได้ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะสั้น และช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาถึงมีประสิทธิภาพสูงสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำว่า "เล็กน้อย" ในทางเศรษฐศาสตร์จะใช้มากมักจะ มันหมายถึงอะไรเป็นหลักหน่วยที่เพิ่มขึ้นต่อไปผลิตภัณฑ์บุคคลหรือสิ่งอื่นที่คุณกำลังเชื่อมโยงกับคำว่า. ตัวอย่างเช่นสมมติว่าคุณกำลังอ่านตำราเศรษฐศาสตร์และคุณเจอคำว่า "กำไรเล็กน้อย." สิ่งนี้หมายความว่าเป็นกำไรที่คุณจะได้รับจากการขายหน่วยเพิ่มเติมหนึ่งที่ดีหลังจากที่คำนึงถึงต้นทุนเช่นกัน. อีกตัวอย่างหนึ่ง "ยูทิลิตี้ Marginal" สามารถอธิบายได้ว่าเป็นยูทิลิตี้ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคได้รับจากการบริโภคอีกหนึ่งเพิ่มเติม หน่วยของดี. คำที่ใช้มากที่สุดส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มและรายได้ส่วนเพิ่ม ธุรกิจจะวางความสำคัญมากกับชนิดของคำเหล่านี้เพราะ บริษัท ไม่เพียง แต่ต้องการที่จะเพิ่มและลดผลกำไร แต่พวกเขายังต้องการที่จะเป็นที่มีประสิทธิภาพกับสิ่งที่พวกเขาทำ หากต้นทุนเพิ่มขึ้นในขณะที่รายได้ส่วนเพิ่มจะลดลงก็จะไม่ทำให้รู้สึกใด ๆ ที่จะดำเนินการในการผลิตที่ผ่านมาจุดที่ต้นทุนส่วนเพิ่มมากกว่ารายได้จากขอบ ดังนั้นโดยดูที่อัตรากำไรขั้นต้นและไม่เพียง แต่ภาพใหญ่สุดท้ายของรายได้เทียบกับค่าใช้จ่ายที่ บริษัท จะสามารถปรับได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นในระยะสั้นและช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาถึงมีประสิทธิภาพสูงสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คำว่า " ชายขอบ " ในทางเศรษฐศาสตร์ใช้มากมักจะ มันหมายความว่าอะไร เป็นหลักต่อไปเพิ่มเติมหน่วย ผลิตภัณฑ์ บุคคล หรือสิ่งอื่นที่คุณมีความสัมพันธ์ระยะยาวกับ

ตัวอย่าง สมมติว่า คุณกำลังอ่านตำราเศรษฐศาสตร์และคุณเจอคำว่า " marginal กำไร . " นี้หมายถึงอะไร คือ กำไรที่คุณจะได้รับจากการขายอีก 1 หน่วย ดีหลังจากพิจารณาต้นทุนเช่นกัน

อีกตัวอย่าง " ของโปรแกรม " สามารถอธิบายได้เป็นอรรถประโยชน์เพิ่มเติมที่ผู้บริโภคได้รับจากการบริโภคเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหน่วยดี

ใช้มากที่สุดเงื่อนไขส่วนใหญ่จะมีต้นทุนและรายได้เพิ่ม .ธุรกิจจะเกิดขึ้นมากที่สําคัญในชนิดเหล่านี้ของข้อตกลงเพราะ บริษัท ไม่เพียง แต่ต้องการที่จะขยายและลดกำไร แต่พวกเขายังต้องการที่จะมีประสิทธิภาพกับสิ่งที่พวกเขาทำ ถ้าต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้น้อยลดลง มันไม่ได้ทำให้ความรู้สึกใด ๆที่จะยังคงผลิตผ่านจุดที่ค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้เพิ่ม . ดังนั้นโดยดูที่ขอบและไม่เพียง แต่ที่ภาพใหญ่สุดท้ายของ VS รายได้ค่าใช้จ่าย บริษัท สามารถที่จะปรับขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น และช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาไปถึงประสิทธิภาพที่เหมาะสม