Prasat Muang Tum, a small stone san

Prasat Muang Tum, a small stone sanctuary which is worth to visit in Burirum province.
It is well-known by its unique baray and its decoration details dating btween the 10th to the 11th century.
The stone sanctuary was named from its location meaning ‘lower city’ where is lower than Prasat Phnom Rung.
It is situated in Prakon Chai district, Burirum province.
As no inscription has been found makes it difficult to place Muang Tam in history of the region.
Even the origin was unknown the temple can be dated by the styles of lintels.
Most lintels show the combination of Khleang and Baphuon styles.
Probably they were made between the end of the 10th century and the end of the 11th century.
The temple was dedicated to Shiva as a large lingam was found in the shrine hall.
Also a prominent lintel of the northeast tower shows Shiva and Uma riding the bull Nandi or Uma Mahesuen.
Fragments of a statue of Vishu also have been found.
This means to worship two gods in the same temple was by no means uncommon.
Muang Tam is a flat temple built to a concentric plan.
Five towers were built in the centre of the temple certainly dedicated to Shiva.
They were built in two rows, the front row of three towers and a back row of two towers rather then as a quincunx.
The most special feature of the temple is the four corner ponds surrounding the inner enclosure which form the ‘L’ shape.
Each pond has ground-hugging naga balustrades with their tails meet to the low gates leading down in the water.
As same as other Khmer stone sanctuary, there is a small baray dug up to the east but now dried up.
Further north is a much larger baray still remain full.
The lintel over the main doorway to the east shows Krishna fighting the five-headed naga Kaliya.
The scene was depicted after the great Indian epic, Mahaparata .
The story of Krishna who is one of the avatar of Vishu god .
Moreover, the kala head or kala face plays an important role in the decoration here as frequently occurs on the lintels and pediments.
There are two different styles of kala carved.
Mostly are Baphuon style but a few are in Khleang style.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปราสาทปราสาทเมืองต่ำ แซงหินเล็กเที่ยวชมจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นที่รู้จักของบารายเฉพาะและรายละเอียดตกแต่งเดท btween 10 ถึงศตวรรษ 11ชื่อว่าพันธุ์หินจากตำแหน่ง หมายความว่า "เมืองต่ำ" ที่จะต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้ง ตั้งอยู่ในอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์เป็นจารึกไม่พบ ทำให้ยากที่จะทำตามเมืองในประวัติศาสตร์ของภูมิภาค แม้ต้นกำเนิดไม่รู้จักสามารถลงวัดตามลักษณะของทับหลังบรรจงการทับหลังส่วนใหญ่บรรจงแสดงทั้ง Khleang และ Baphuonอาจจะเกิดระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษ 10 และสิ้นสุดของศตวรรษ 11 วัดได้ทุ่มเทเพื่อพระอิศวรเป็น lingam ขนาดใหญ่พบในหอประชุมศาลเจ้า ทับหลังที่โดดเด่นของหอตะวันออกเฉียงเหนือแสดงพระอิศวรและขี่วัวโคอุศุภราชหรือ Mahesuen อุมาอุมาด้วย ชิ้นส่วนของรูปปั้นของ Vishu นอกจากนี้ยังพบ โดยไม่ใช่วิธีนี้เพื่อบูชาเทพเจ้าสองในวัดเดียวกันได้ถ้ำม่วงเป็นวัดแบนสร้างแผน concentricอาคาร 5 สร้างขึ้นในวัดแน่นอนทุ่มเทให้กับพระอิศวรพวกเขาถูกสร้างขึ้นในสองแถว แถวหน้าของสามอาคาร และเสาสองแถวหลังแล้วเป็น quincunxคุณลักษณะพิเศษของวัดนี้อยู่สี่มุมบ่อล้อมรอบภายในตู้ซึ่งรูปร่าง 'L'แต่ละบ่อมีกอดดินรั้วนากากับการตอบสนองของหางให้ประตูต่ำที่นำลงในน้ำเหมือน เขมรอื่น ๆ หินพันธุ์ มีเป็นบารายขนาดเล็กขุดขึ้นฝั่งตะวันออก แต่ตอนนี้ แห้งขึ้นดาวเหนือเป็นบารายขนาดใหญ่ยังคงเต็มทับหลังเหนือประตูหลักฝั่งตะวันออกแสดงกฤษณะต่อสู้นาคห้าหัว Kaliyaฉากที่แสดงหลังจากกาพย์อินเดียดี Mahaparataเรื่องราวของพระกฤษณะซึ่งเป็นอวตารของพระเจ้า Vishu อย่างใดอย่างหนึ่งนอกจากนี้ หัวกะลาหรือกะลาหน้าบทละครที่มีบทบาทสำคัญในการตกแต่งที่นี่เกิดขึ้นได้บ่อยบนทับหลังบรรจง pedimentsมีลักษณะแตกต่างกันสองของกะลาแกะสลัก ส่วนใหญ่มีลักษณะ Baphuon แต่กี่อยู่ในลักษณะ Khleang

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปราสาทเมืองตูมวิหารหินขนาดเล็กซึ่งมีมูลค่าการเยี่ยมชมในจังหวัดบุรีรัมย์.
มันเป็นที่รู้จักกันดีจากบารายที่เป็นเอกลักษณ์และรายละเอียดการตกแต่งย้อน btween ที่ 10 ถึงศตวรรษที่ 11.
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หินถูกเสนอชื่อจากที่ตั้งของความหมายของที่ต่ำกว่า เมืองที่ต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้ง.
มันตั้งอยู่ในย่าน Prakon ชัยจังหวัดบุรีรัมย์.
ในฐานะที่เป็นจารึกไม่ได้รับการค้นพบทำให้มันยากที่จะวางตำเมืองในประวัติศาสตร์ของภูมิภาค.
แม้ที่มาเป็นที่รู้จักวัดสามารถลงวันที่ โดยรูปแบบของทับหลัง.
ทับหลังส่วนใหญ่แสดงให้เห็นการรวมกันของรูปแบบและ Khleang Baphuon.
น่าจะเป็นพวกเขาทำระหว่างปลายศตวรรษที่ 10 และจุดสิ้นสุดของศตวรรษที่ 11.
วัดอุทิศตนเพื่อพระอิศวรเป็นองคชาติขนาดใหญ่ที่พบใน ศาลเจ้าฮอลล์.
นอกจากนี้ยังมีทับหลังที่โดดเด่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือของหอพระอิศวรและแสดงให้เห็นว่าอุมาขี่วัวโคอุศุภราชหรืออุ Mahesuen.
ชิ้นส่วนของรูปปั้นของ Vishu ยังพบ.
นี้หมายถึงการบูชาเทพเจ้าสองในวัดเดียวกันก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องผิดปกติ
เมืองตัมเป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อแบนแผนศูนย์กลาง.
ห้าอาคารที่ถูกสร้างขึ้นในใจกลางของวัดที่อุทิศตนอย่างแน่นอนพระอิศวร.
พวกเขาถูกสร้างขึ้นในสองแถวแถวหน้าของสามเสาและแถวหลังของทั้งสองอาคารแล้วค่อนข้างเป็น quincunx.
คุณสมบัติพิเศษที่สุดของวัดเป็นบ่อสี่มุมโดยรอบภายในตู้ซึ่งรูปแบบ 'L' รูปร่าง.
บ่อแต่ละคนมีพื้นกอดดัดนาคกับหางของพวกเขาได้พบกับประตูที่ต่ำชั้นนำลงในน้ำ.
ในฐานะที่เป็น เช่นเดียวกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หินเขมรอื่น ๆ ที่มีบารายขนาดเล็กขุดขึ้นไปทางทิศตะวันออก แต่ตอนนี้แห้ง.
เหนือขึ้นไปคือบารายขนาดใหญ่ยังคงเต็ม.
ทับหลังเหนือประตูทางเข้าหลักไปทางทิศตะวันออกแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้กับกฤษณะนาคห้าหัว Kaliya.
ที่เกิดเหตุเป็นภาพหลังจากที่อินเดียมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ Mahaparata.
เรื่องราวของกฤษณะซึ่งเป็นหนึ่งในอวตารของพระเจ้า Vishu.
นอกจากนี้หัวกาลาหรือใบหน้ากาลามีบทบาทสำคัญในการตกแต่งที่นี่เป็นบ่อยเกิดขึ้นบนทับหลัง และ pediments.
มีสองรูปแบบที่แตกต่างกันของกาลาแกะสลักเป็น.
ส่วนใหญ่มีรูปแบบ Baphuon แต่ไม่กี่อยู่ในรูปแบบ Khleang

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปราสาทเมืองตูม เป็นหินก้อนเล็กๆ วิหารซึ่งมีมูลค่าการเยี่ยมชมในจังหวัดบุรีรัมย์ .
มันเป็นที่รู้จักกันดีโดยเฉพาะและรายละเอียดการตกแต่งของบารายเดท btween 10 ไปศตวรรษที่ 11 .
หินศักดิ์สิทธิ์เป็นชื่อจากสถานที่หมายถึง ' ' ที่เมืองต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้ง .
มันตั้งอยู่ในอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ .
เป็นจารึกได้ทำให้ยากแก่สถานที่เมืองแทมในประวัติศาสตร์ของภูมิภาค
แม้แต่ที่มาไม่รู้จักวัดสามารถลงวันที่โดยลักษณะของทับหลัง .
ทับหลังส่วนใหญ่แสดงการรวมกันของคลังและรูปแบบปราสาทตาพรหม .
อาจจะเกิดขึ้นระหว่างจุดสิ้นสุดของศตวรรษที่ 10 และในตอนท้ายของศตวรรษที่ 11
วัดที่ทุ่มเทให้กับพระศิวะลึงค์ขนาดใหญ่ที่พบในศาลเจ้า ฮอลล์
ยังเป็นทับหลังที่โดดเด่นของหอพระอิศวรและภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบอุมาขี่วัวนนทิหรืออุมา mahesuen .
ชิ้นส่วนของรูปปั้นของ Vishu ยังได้รับการพบ
หมายถึง นมัสการเทพเจ้าทั้งสองในวัดเดียวกัน โดยหมายความว่าไม่มีพิสดาร
เมืองตำเป็นแบน วัดสร้างขึ้นเพื่อวางแผน
ศูนย์กลางห้าอาคารที่ถูกสร้างขึ้นในกลางของวิหารก็อุทิศตนเพื่อพระอิศวร .
นั้นถูกสร้างขึ้นใน 2 แถว แถวหน้า 3 แถวหลังของอาคารและหอคอย แล้วค่อนข้างเป็น quincunx .
คุณลักษณะที่พิเศษที่สุดของวิหารเป็นสี่มุมบ่อโดยรอบภายในกรงซึ่งรูปแบบ ' l
' รูปร่างแต่ละบ่อมีพื้นกอดราวบันไดพญานาคกับหางของพวกเขาได้ประตูนำให้ต่ำลงในน้ำ .
เช่นเดียวกับวิหารหินเขมรอื่น มีบารายขนาดเล็กขุดทางตะวันออก แต่ตอนนี้แห้งแล้ว
ทิศเหนือต่อเป็นบารายขนาดใหญ่ยังคงเต็ม
ทับหลังเหนือประตูหลัก ทางทิศตะวันออกแสดงในการต่อสู้ 5 หัวพญานาค kaliya .
ฉากเป็นภาพหลังจากที่มหากาพย์อินเดีย ดี mahaparata .
เรื่องราวของกฤษณะซึ่งเป็นหนึ่งในร่างอวตารของ Vishu พระเจ้า .
นอกจากนี้ กะลากะลาหัวหรือหน้ามีบทบาทสำคัญในการตกแต่งที่นี่บ่อยเกิดขึ้นบนทับหลัง และหน้าบัน .
มีสองลักษณะที่แตกต่างกันของกะลาแกะสลักเป็น
ส่วนใหญ่เป็นสไตล์ปราสาทบาปวน แต่ไม่กี่มีในคลังสไตล์