Four hundred years ago, Bangkok and

Four hundred years ago, Bangkok and Thonburi, an area on the west bank of the Chao Phraya, were just small villages. At that time they served as ports for ships sailing up the river to Ayuthaya, the former capital of what was then called Siam. As ships got larger and the river got shallower, the villages grew in importance.

The kingdom's capital was relocated to Thonburi when Ayuthaya fell to Burmese armies in 1767. King Rama I moved the capital across the river to Bangkok in 1782, because the main Burmese threat to the Thai came from the west, on the Thonburi side of the river.

Bangkok’s history of the past 200 years is much interwoven with the Chakri dynasty which still reigns but no longer rules Thailand today. After Chao Phaya Chakri was crowned under the royal title of Rama I in 1782, one of his first major decisions concerned his capital.

Bangkok was not really founded by Rama I. It had been a settled area for several hundred years already and it had even been well-known to European merchants who commonly stopped over at Bangkok on their way to Ayutthaya.

"Bangkok" used to be "plum orchard", and although it sounds quite unbelievable today, that is indeed what it once was - a small, peaceful village surrounded by wild plum trees. At the time Rama I. decided to move his capital, it had already grown into a small duty port. The town was mainly inhabited by Chinese merchants and customs inspectors, who were asked to vacate the area and Rama I started building his new city, beginning with Wat Phra Kaew (Emerald Buddha). Defensive moats were dug and canals built and a city wall was erected from bricks from the old city wall of Ayuthaya.

Work on the Grand Palace and the Temple of the Emerald Buddha (Wat Phra Kaew) was by and large completed in 1785. The new capital, now more or less just covering the area on the eastern side of the Chao Phaya.

In the 1850s, the city really was a "Venice of the East" with lots of canals and waterways and only a handful of dusty roads. A city with a large network of water-roads in the place of streets, and intersected with bridges. A large proportion of its inhabitants lived in floating houses, which line both banks of the Menam (Chao Phaya river)

King Mongkut (Rama IV.) and then his son King Chulalongkorn (Rama V.) pursued the modernization of the country added roads and built railways. The city continued to grow in all directions through the 19th and 20th centuries, eventually encompassing Thonburi. In the 20th century the city started growing both eastward and towards north. The first bridge over the Chao Phraya river (Memorial Bridge) was built in 1932. In the Second World War, the city was occupied by the Japanese. The 1950s was a period of political turmoil , with several coup d'etats. The 1960s saw, due to the Vietnam war, the beginning of the economic rise of Thailand, which has only now, in the 90s come to a halt. Bangkok's population increased by about 1 million people between the 1980 and 1990 censuses alone. But still, the economic and social conditions are far better than in many of the neighboring countries in Southeast Asia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สี่ร้อยปี กรุงเทพฯ และธนบุรี พื้นที่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่บ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ในขณะที่พวกเขาทำหน้าที่เป็นพอร์ตสำหรับเรือล่องเรือเจ้าพระยาไปอยุธยา เมืองหลวงเก่าที่มีแล้วเรียกว่าสยาม เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ และแม่น้ำที่มีเด็กเล็ก ๆ สามารถ หมู่บ้านเพิ่มขึ้นในความสำคัญ เมืองหลวงของราชอาณาจักรถูกย้ายไปธนบุรีเมื่ออยุธยาตกกองทัพพม่าในปีพ.ศ. 2310 พระรามที่ฉันย้ายเมืองหลวงข้ามแม่น้ำไปกรุงเทพใน 1782 เนื่องจากภัยคุกคามพม่าหลักไทยมาจากตะวันตก ในแม่น้ำฝั่งธนบุรีประวัติของกรุงเทพ 200 ปีเป็นกรองมากด้วยราชวงศ์จักรีซึ่งยังคง reigns ไม่กฎไทยวันนี้ หลังจากที่เจ้าพญาจักรีมีมงกุฎภายใต้ชื่อรอยัลพระรามฉันใน 1782 หนึ่งตัดสินใจที่สำคัญของเขาครั้งแรกกังวลใหญ่ของเขา กรุงเทพไม่จริง ๆ ก่อตั้ง โดยพระฉัน จึงได้ตั้งจ่ายเงินสำหรับเวลาหลายร้อยปีแล้ว และมันยังได้รู้จักกับพ่อค้ายุโรปที่มักหยุดมากกว่าที่กรุงเทพในอยุธยา"กรุงเทพ" ใช้เป็น "ออร์ชาร์ดพลัม" และแม้ว่าจะฟังค่อนข้างไม่ขึ้นวันนี้ ที่เป็นอะไรมันเคย - หมู่บ้านขนาดเล็ก เงียบสงบล้อมรอบ ด้วยป่าต้นพลัม เมื่อพระราม I. การตัดสินใจที่จะย้ายเมืองหลวงของเขา มันก็เพิ่มขึ้นแล้วเข้ากับพอร์ตขนาดเล็กหน้าที่ เมืองอาศัยอยู่ส่วนใหญ่พ่อค้าจีน และผู้ ตรวจศุลกากร ที่ถูกต้องออกจากพื้นที่ และพระรามที่ฉันเริ่มสร้างเมืองใหม่ของเขา เริ่มต้น ด้วยวัดพระแก้ว (ศาสดา) ฮันนี้ป้องกันได้ขุดคลองสร้าง และกำแพงเมืองที่เกร็งจากอิฐจากกำแพงเมืองเก่าของอยุธยา ทำงานในพระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) โดย large และเสร็จสมบูรณ์ 2328 ใหม่เมืองหลวง ขณะนี้ ครอบคลุมพื้นที่ทางด้านตะวันออกของพญาเจ้ามากน้อยเพียงใน 1850s เมืองเป็น "เวนิสของตะวันออก" ของคลอง และการบ้านและรีสอร์ตถนนฝุ่นจริง ๆ เป็นเมืองที่ มีเครือข่ายใหญ่น้ำถนนเลิศถนน และระดับ มีสะพาน สัดส่วนใหญ่ของประชากรอาศัยอยู่ในน้ำบ้าน ซึ่งรายการทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ (แม่น้ำเจ้าพญา)สมเด็จพระจอมเกล้า (พระราม IV) แล้วบุตรมหาจุฬาลงกรณ์ (พระราม V.) ติดตามความทันสมัยของประเทศเพิ่มถนน และสร้างทางรถไฟ เมืองที่ยังคงเติบโตในทุกทิศทางผ่านศตวรรษ 19 และ 20 ธนบุรีที่ครอบคลุมในที่สุด ในศตวรรษ 20 เมืองเริ่มเติบโตทั้ง eastward และ ไปทางเหนือ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (พาน) แรกถูกสร้างขึ้นในปี 1932 ในสงครามครั้งสองโลก เมืองถูกครอบครอง โดยญี่ปุ่น มินิมีระยะเวลาของความวุ่นวายทางการเมือง มีหลายรัฐประหาร d'etats เห็น 1960s เนื่องจากสงครามเวียดนาม เริ่มต้นขึ้นทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งเท่านั้น ใน 90s ที่มาสะดุดหยุดชะงัก ประชากรในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านคน 1980 และ 1990 censuses เพียงอย่างเดียว แต่ยังคง เงื่อนไขทางเศรษฐกิจ และสังคมดีกว่าในประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สี่ร้อยปีที่ผ่านมากรุงเทพฯและธนบุรีพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ในขณะที่พวกเขาทำหน้าที่เป็นท่าเรือสำหรับเรือขึ้นไปตามแม่น้ำเพื่ออยุธยาเมืองหลวงเก่าของสิ่งที่เรียกว่าสยามแล้ว ในฐานะที่เป็นเรือมีขนาดใหญ่และมีแม่น้ำตื้นหมู่บ้านเติบโตในความสำคัญ. เมืองหลวงของราชอาณาจักรก็ย้ายไปอยู่ที่อยุธยาธนบุรีเมื่อล้มลงกับกองทัพพม่าใน 1767 รัชกาลที่ผมย้ายเมืองหลวงข้ามแม่น้ำไปยังกรุงเทพฯใน 1782 เพราะพม่าหลัก เป็นภัยคุกคามต่อไทยมาจากทิศตะวันตกบนฝั่งธนบุรีของแม่น้ำ. ประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯที่ผ่านมา 200 ปีมีมากสานกับราชวงศ์จักรีซึ่งยังคงครองราชย์ แต่ไม่มีกฎประเทศไทยในวันนี้ หลังจากเจ้าพระยาจักรีได้ครองตำแหน่งภายใต้ชื่อพระราชของพระรามใน 1782 ซึ่งเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญครั้งแรกของเขากังวลเงินทุนของเขา. กรุงเทพฯไม่ได้ก่อตั้งขึ้นจริงๆโดยถนนพระรามที่หนึ่งมันเคยเป็นพื้นที่นั่งเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วและมันมีแม้กระทั่ง . การที่รู้จักกันดีให้กับพ่อค้าชาวยุโรปทั่วไปที่หยุดมากกว่าที่กรุงเทพฯเมื่อวันที่ทางของพวกเขาอยุธยา"กรุงเทพฯ" ที่เคยเป็น "สวนพลัม" และแม้ว่ามันจะฟังดูไม่น่าเชื่อวันนี้มากนั่นคือสิ่งที่มันเคยเป็น - เล็ก ๆ ที่เงียบสงบ หมู่บ้านล้อมรอบด้วยต้นไม้ป่าพลัม ในเวลาพระรามฉันตัดสินใจที่จะย้ายเมืองหลวงของเขามันก็เพิ่มขึ้นอยู่แล้วเข้ากับพอร์ตหน้าที่เล็ก ๆ เมืองที่เป็นที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่โดยพ่อค้าชาวจีนและผู้ตรวจสอบศุลกากรที่ถูกขอให้ย้ายออกจากพื้นที่และพระรามผมเริ่มสร้างเมืองใหม่ของเขาเริ่มต้นด้วยวัดพระแก้ว (พระแก้วมรกต) แพป้องกันถูกขุดและคลองและสร้างกำแพงเมืองที่ถูกสร้างขึ้นจากอิฐจากกำแพงเมืองเก่าอยุธยา. ทำงานในพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ได้รับโดยและขนาดใหญ่เสร็จสมบูรณ์ในปี 1785 ใหม่ เงินทุนในขณะนี้มากหรือน้อยเพียงครอบคลุมพื้นที่บนฝั่งตะวันออกของเจ้าพระยา. ในยุค 1850 เมืองจริงๆเป็น "เวนิสแห่งตะวันออก" ที่มีจำนวนมากของคลองและทางน้ำและมีเพียงไม่กี่คนของถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่น เมืองที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ของถนนน้ำในสถานที่ของถนนและสะพานที่มี intersected ส่วนใหญ่ของผู้อยู่อาศัยที่อาศัยอยู่ในบ้านลอยน้ำที่เส้นทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ (แม่น้ำเจ้าพระยาพญา) พระจอมเกล้า (พระราม IV.) และจากนั้นลูกชายของเขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า (จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ไล่ตามความทันสมัยของประเทศเพิ่มถนนและ สร้างทางรถไฟ เมืองที่ยังคงเติบโตในทุกทิศทางผ่านศตวรรษที่ 19 และ 20 ในที่สุดครอบคลุมธนบุรี ในศตวรรษที่ 20 เมืองที่เริ่มต้นการเจริญเติบโตทั้งทางทิศตะวันออกและไปทางทิศเหนือ สะพานแรกที่ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา (สะพานพุทธ) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1932 ในสงครามโลกครั้งที่สองเมืองที่ถูกครอบครองโดยญี่ปุ่น ปี 1950 คือช่วงเวลาของความวุ่นวายทางการเมืองที่มีการทำรัฐประหารหลาย d'Etats 1960 เห็นเนื่องจากสงครามเวียดนามจุดเริ่มต้นของการเพิ่มขึ้นทางเศรษฐกิจของประเทศไทยซึ่งมีเพียงในขณะนี้ในยุค 90 มาหยุด ประชากรของกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านคนระหว่างปี 1980 และ 1990 สำมะโนประชากรเพียงอย่างเดียว แต่ยังคงสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีกว่าในหลายประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อสี่ร้อยปีมาแล้ว กรุงเทพฯ และธนบุรี พื้นที่ในฝั่งตะวันตกของเจ้าพระยา เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ เวลาที่พวกเขาทำหน้าที่เป็นพอร์ตสำหรับแล่นเรือขึ้นแม่น้ำอยุธยาเมืองหลวงเก่าของสิ่งที่ถูกเรียกว่าสยาม เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่และแม่น้ำก็ตื้นขึ้น หมู่บ้านเติบโตในความสำคัญ

เมืองหลวงของอาณาจักรที่ถูกย้ายไปยังฝั่งธนบุรี เมื่อกองทัพพม่าใน 1767 อยุธยาลดลง . รัชกาลที่ฉันย้ายเมืองหลวงข้ามแม่น้ำไปกรุงเทพฯใน 1782 เพราะภัยคุกคามหลักพม่าไทยที่มาจากตะวันตก ในธนบุรีฝั่งแม่น้ำ

มีประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา 200 ปีมาก ผสมผสานกับราชวงศ์จักรีซึ่งยังคงครอบครองแต่ไม่มีกฎ ประเทศไทยวันนี้หลังจากเจ้าพระยาจักรีเป็นภายใต้ชื่อหลวงของพระรามใน 1782 , หนึ่งในการตัดสินใจครั้งแรกของเขาที่เกี่ยวข้องทุนของเขา

กรุงเทพไม่ได้จริงๆที่ก่อตั้งโดยพระรามที่ 1 ได้จัดการพื้นที่สำหรับหลายร้อยปีแล้ว และมันก็เคยเป็นที่รู้จักพ่อค้าชาวยุโรปที่นิยมแวะที่กรุงเทพ ไปอยุธยา

" กรุงเทพมหานคร " เคยเป็น " สวนพลัม "และถึงแม้ว่ามันฟังดูไม่น่าเชื่อเลยทีเดียววันนี้ นั่นย่อมเป็นสิ่งที่มันเคยเป็น - เล็ก หมู่บ้านเงียบสงบ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้พลัมป่า ในเวลาที่ฉันตัดสินใจที่จะย้ายเมืองหลวงของเขาพระราม มันได้เติบโตขึ้นเป็นพอร์ตหน้าที่เล็กๆ เมืองส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่โดยพ่อค้าชาวจีนและผู้ตรวจสอบศุลกากร ที่ขอย้ายออกจากพื้นที่ และพระราม ผมเริ่มสร้างเมืองใหม่ของเขาเริ่มต้นด้วยวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ( วัดพระแก้ว ) คูเมืองป้องกันถูกขุดคลองสร้างและกำแพงเมือง ถูกสร้างขึ้นจากอิฐจากกำแพงเมืองเก่าของอยุธยา

ทำงานในพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ( วัดพระแก้ว ) คือโดยและขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์ของ . เมืองหลวงใหม่นี้มากหรือน้อยเพียงครอบคลุมพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเจ้าพระยา .

ใน 1850เมืองจริงๆเป็น " เวนิสตะวันออก " ของคลองและแหล่งน้ำ และเพียงไม่กี่ถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่น เมืองที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ของน้ำถนนในสถานที่ของถนน และหางที่มีสะพาน สัดส่วนขนาดใหญ่ของประชากรอาศัยอยู่ในบ้านลอยน้ำ ซึ่งสายสองฝั่งแม่น้ำ ( เจ้าพระยาแม่น้ำ )

พระจอมเกล้า ( พระราม 4 ) และลูกชาย ( เจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช) ไล่ตามความทันสมัยของประเทศ เพิ่มถนนและสร้างทางรถไฟ เมืองยังคงเติบโตในเส้นทางผ่านศตวรรษที่ 19 และ 20 ในที่สุดครอบคลุมธนบุรี ในศตวรรษที่ 20 เมืองเริ่มเติบโตทั้งทางตะวันออกและทางเหนือ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ( สะพาน ) ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2475 . ในสงครามโลกครั้งที่สองเมืองที่ถูกยึดครองโดยญี่ปุ่น 1950 คือช่วงเวลาของความวุ่นวายทางการเมือง กับ d'etats รัฐประหารหลาย 1960 เห็นเนื่องจากสงครามเวียดนาม จุดเริ่มต้นของการเพิ่มขึ้นทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งมีเพียงตอนนี้ใน 90s ต้องหยุดชะงัก ประชากรของกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านคนระหว่างปี 1980 และปี 1990 ประชากรเพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีกว่าในหลายประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ .