Groundwater contributions and sourc

Groundwater contributions and sources of salinity to Oso Bay in south Texas were investigated using multivariate
statistical analysis of geochemical data and multitemporal electrical resistivity tomography surveys. Both analysis
of geochemical data and subsurface imaging techniques identified two commonalities for the investigated system:
1) hypersaline water occurs near the groundwater/surface water interface during wet conditions creating
reverse hydraulic gradients due to density effects. The development and downward movement of these fluids
as continuous plumes deflect fresher groundwater discharge downward and laterally away from the surface;
and 2) more pronounced upwelling of fresher groundwater occurs during drought periods when density inversions
are more defined and are expected to overcome dispersion and diffusion processes and create sufficiently
large-enough unstable gradients that induce density-difference convection. Salinity mass-balance models derived
from time-difference resistivity tomograph and in-situ salinity data reaffirm these findings indicating
that groundwater upwelling is more prominent during dry to wet conditions in 2013 (~545.5 m3
/d) and is less
pronounced during wet to dry conditions in 2012 (~262.7 m3
/d) for the 224 m2 area surveyed. Findings show
that the highly saline nature of water in this area and changes in salinity regimes can be attributed to a combination
of factors, namely: surface outflows, evapoconcentration, recirculation of hypersaline groundwaters, and
potential trapped oil field brines. Increased drought conditions will likely exacerbate the rate at which salinity

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จัดสรรน้ำบาดาลและแหล่งที่มาของเค็มอ่าว Oso ในเท็กซัสใต้ถูกสอบสวนใช้ multivariateวิเคราะห์ทางสถิติของข้อมูล geochemical และสำรวจความต้านทานไฟฟ้า multitemporal เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ทั้งข้อมูล geochemical และ subsurface ภาพเทคนิคระบุ commonalities สองระบบ investigated:1) น้ำ hypersaline เกิดใกล้กับอินเทอร์เฟสน้ำน้ำบาดาล/พื้นผิวระหว่างสร้างสภาพเปียกกลับไล่ระดับสีไฮดรอลิกเนื่องจากผลของความหนาแน่น การพัฒนาและการเคลื่อนไหวของของเหลวเหล่านี้ลงเป็นเบิ้ลพลูมเนื่องปัดปล่อยน้ำสดลง และแนวนอนจากผิวและ 2) เพิ่มเติมออกเสียง upwelling สดน้ำเกิดภัยแล้งช่วงเมื่อ inversions ความหนาแน่นเพิ่มเติมกำหนด และคาดว่าจะเอาชนะกระบวนการแพร่และการกระจายตัว และสร้างเพียงพอมากพอเสถียรไล่ระดับสีที่ก่อให้เกิดความหนาแน่นต่างพากัน รูปแบบการดุลมวลเค็มมาจากความต้านทานความต่างของเวลา-tomograph และในการวิเคราะห์ข้อมูลเค็ม reaffirm ค้นพบเหล่านี้บ่งชี้ว่าว่าน้ำ upwelling โดดเด่นมากในช่วงแห้งเปียกเงื่อนไขในปี 2013 (~545.5 m3/ d) และน้อยการออกเสียงระหว่างเปียกแห้งเงื่อนไขใน 2012 (~262.7 m3/ d) สำหรับพื้นที่ 224 m2 ที่สำรวจ ผลการวิจัยแสดงว่า ธรรมชาติของน้ำในบริเวณนี้และการเปลี่ยนแปลงในระบอบเค็ม saline สูงสามารถเกิดจากการรวมกันปัจจัย คือ: ผิวต่าง ๆ evapoconcentration, recirculation hypersaline groundwaters และศักยภาพติดจักร brines สภาพภัยแล้งเพิ่มขึ้นจะมีแนวโน้มทำให้รุนแรงอัตราที่เค็มที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลงานน้ำบาดาลและแหล่งที่มาของความเค็มจะ Oso
อ่าวเท็กซัสในภาคใต้ได้รับการตรวจสอบโดยใช้หลายตัวแปรการวิเคราะห์ทางสถิติของข้อมูลธรณีเคมีและความต้านทานไฟฟ้าmultitemporal สำรวจเอกซ์เรย์ ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลธรณีเคมีและเทคนิคการถ่ายภาพใต้ผิวดินระบุสอง commonalities สำหรับระบบการตรวจสอบ: 1) น้ำ hypersaline เกิดขึ้นใกล้น้ำใต้ดิน / พื้นผิวอินเตอร์เฟซที่น้ำในระหว่างการสร้างสภาพเปียกไล่ระดับสีไฮดรอลิย้อนกลับเนื่องจากผลกระทบความหนาแน่น การพัฒนาและการเคลื่อนไหวลดลงของของเหลวเหล่านี้เป็นขนนกอย่างต่อเนื่องเบนเข็มปล่อยน้ำบาดาลสดลดลงและด้านข้างห่างจากพื้นผิว; และ 2) เต็มตื่นเด่นชัดมากขึ้นของน้ำใต้ดินสดเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาฤดูแล้งเมื่อ inversions หนาแน่นมีความชัดเจนยิ่งขึ้นและคาดว่าจะเอาชนะการกระจายตัวและการกระจายกระบวนการและสร้างพอไล่ระดับสีขนาดใหญ่ที่ไม่มั่นคงพอที่ทำให้เกิดความร้อนความหนาแน่นที่แตกต่างกัน ความเค็มแบบการสมดุลของมวลสารที่ได้มาจากความต้านทานเวลาแตกต่าง Tomograph และในแหล่งกำเนิดข้อมูลความเค็มยืนยันการค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าเต็มตื่นน้ำบาดาลเป็นที่โดดเด่นมากขึ้นในช่วงแห้งเปียกเงื่อนไขในปี 2013 (~ 545.5 m3 / d) และน้อยเด่นชัดในช่วงที่เปียกให้แห้งเงื่อนไขในปี 2012 (~ 262.7 m3 / d) สำหรับ 224 m2 พื้นที่สำรวจ ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าธรรมชาติน้ำเกลือสูงของน้ำในพื้นที่นี้และการเปลี่ยนแปลงในระบอบการปกครองที่มีความเค็มสามารถนำมาประกอบกับการรวมกันของปัจจัยได้แก่ การไหลออกของพื้นผิว evapoconcentration, การหมุนเวียนของ groundwaters hypersaline และศักยภาพติดอยู่brines น้ำมัน ภาวะภัยแล้งเพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะรุนแรงอัตราที่ความเค็ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำใต้ดิน เงินสมทบ และแหล่งที่มาของความเค็มในภาคใต้เท็กซัสอ่าวเพื่อจะทำการศึกษาโดยใช้การวิเคราะห์ทางสถิติหลายตัวแปร
ข้อมูลธรณี multitemporal ความต้านทานไฟฟ้าและโทโมกราฟีการสำรวจ ทั้งการวิเคราะห์
ข้อมูลธรณีเทคนิคการถ่ายภาพและการระบุสองสามัญชน เพื่อตรวจสอบระบบ :
1 ) hypersaline น้ำเกิดขึ้นใกล้พื้นผิวน้ำบาดาล / อินเตอร์เฟซระหว่างสภาพเปียกสร้าง
กลับไฮดรอลิกไล่เนื่องจากความหนาแน่นของผล การพัฒนาและการเคลื่อนไหวลงในของเหลวเหล่านี้
เป็นขนนกต่อเนื่องเบนเข็ม fresher น้ำบาดาลปล่อยลงและด้านข้างห่างจากพื้นผิว ;
และ 2 ) เด่นชัดซ่อนอัตโนมัติของน้ำใต้ดินเกิดขึ้นในระหว่างรอบระยะเวลาเมื่อแล้ง fresher ความหนาแน่น inversions
จะกำหนดและคาดว่าจะเอาชนะกระบวนการกระจายและการแพร่กระจายและสร้างเสถียรเพียงพอ
มากพอที่ทำให้เกิดความแตกต่างของการไล่ระดับสีแบบ . ความเค็มแบบได้มา
ดุลมวลเวลาที่ความแตกต่างและจากโทโมกราฟความต้านทานไฟฟ้าควบคู่ข้อมูลยืนยันผลการวิจัยเหล่านี้บ่งชี้ความเค็ม
ที่เด่นมากขึ้นในระหว่างกระบวนการน้ำผุดน้ำแห้งเปียกเงื่อนไขใน 2013 ( ~ 545.5 M3
/ D ) และน้อย
ออกเสียงขณะเปียกให้แห้งเงื่อนไขใน 2012 ( ~ 262.7 M3
/ D ) สำหรับ 224 ตารางเมตร พื้นที่เสร็จ พบการแสดง
ว่ามีน้ำเกลือธรรมชาติของน้ำในบริเวณนี้ และการเปลี่ยนแปลงความเค็มของอาหารอาจจะเกิดจากการรวมกันของปัจจัย
คือไหลเวียนของ evapoconcentration พื้นผิว , , hypersaline groundwaters และ
ศักยภาพติดน้ำมันเขตน้ำเค็ม . ความแห้งแล้งเพิ่มอาจจะเพิ่มอัตราที่ความเค็ม