Margaret Thatcher was the Prime Min

Margaret Thatcher was the Prime Minister of Great Britian. Margaret changed many policies and she also defended strongly other government policies.
An example of this was when Margaret Thatcher was Secretary of state for education and science. The government had to cut school funding by $300 million. She didn’t want to cut anything that had to do with the students missing out of education. It was her duty to provide the best education for them. The solution she had come up with would be one of the most unpopular moves in her career-up to and including her as Prime Minster (Hole 35). The decision she had made was to eliminate free milk from the lower grades. Free milk had already been eliminated from the older students of a previous labor government cut. She said “ I took the view that most parents are able to pay for milk for their children, and that the job of the government was to provide such things in education which they couldn’t pay for, like new primary schools.” “Mrs. Thatcher, milk snatcher,” was screamed at her (Hole 36).
When Margaret Thatcher became Prime Minister the first thing she wanted to do was limit union power. She felt that union power applied to nationalized industrial monopolies resulted in poor service at exorbitant cost to the taxpayers. She pointed to inefficient work practices, overemployment and restrictive employment conditions such as the all union “closed shop”. These rules were dictated by union contracts and served to tie the hands of managers and the government alike. Mrs. Thatcher’s greatest grievance concerned the powers union leaders had over strikes ( Moskin

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาร์กาเร็ต Thatcher ได้ที่นายกรัฐมนตรีของดี Britian มาร์กาเร็ตเปลี่ยนนโยบายจำนวนมาก และเธอยังปกป้องขอนโยบายอื่น ๆ ของรัฐบาล
ตัวอย่างนี้คือเมื่อมาร์กาเร็ต Thatcher เสนาบดีสำหรับศึกษาและวิทยาศาสตร์ รัฐบาลได้ตัดโรงเรียนจัดหาเงินทุนโดย $300 ล้านบาท เธอไม่ต้องการตัดสิ่งที่จะทำกับนักเรียนที่ขาดหายไปจากการศึกษา มันเป็นหน้าที่ของเธอให้การศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา เธอมีมากับโซลูชันจะย้ายกฏหมายมากที่สุดในสายอาชีพของเธอไปและรวมถึงเธอเป็นนายกมินสเตอร์ (35 หลุม) อย่างใดอย่างหนึ่ง การตัดสินใจที่เธอได้ทำคือการ กำจัดนมฟรีจากเกรดต่ำ นมฟรีมีแล้วถูกตัดออกจากนักเรียนเก่าตัดรัฐบาลแรงงานก่อนหน้านี้ เธอกล่าวว่า "ฉันเอามุมมองที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องจ่ายค่านมสำหรับเด็ก และที่งานของรัฐบาลเพื่อ ให้สิ่งต่าง ๆ ในการศึกษาซึ่งพวกเขาไม่สามารถจ่ายสำหรับ เช่นโรงเรียนใหม่" "นาง Thatcher นม snatcher กรีดร้องที่เธอ (หลุม 36) .
เมื่อมาร์กาเร็ต Thatcher เป็น นายกรัฐมนตรี สิ่งแรกที่เธอต้องการถูกจำกัดอำนาจสหภาพ เธอรู้สึกว่า พลังงานร่วมกับอุตสาหกรรม monopolies nationalized ผลในคุ้มต้นทุนด้วยการผู้เสียภาษี เธอชี้ไปยังการปฏิบัติงานต่ำ overemployment และเงื่อนไขการจ้างงานเข้มงวดเช่นสหภาพทั้งหมด "เวลา" กฎเหล่านี้ได้ทำตามสัญญาที่สหภาพ และเสิร์ฟผูกมือของผู้บริหารและรัฐบาลเหมือนกัน นาง ร้องทุกข์มากที่สุดของ thatcher เกี่ยวข้องอำนาจผู้นำสหภาพได้ผ่านการนัดหยุดงาน (Moskin

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มาร์กาเร็ตแทตเชอเป็นนายกรัฐมนตรีของสห Britian มาร์กาเร็เปลี่ยนนโยบายจำนวนมากและเธอยังได้รับการปกป้องนโยบายของรัฐบาลอื่น ๆ อย่าง
เช่นนี้ก็คือตอนที่มาร์กาเร็ตแทตเชอเป็นเลขานุการของรัฐเพื่อการศึกษาและวิทยาศาสตร์ รัฐบาลต้องตัดการระดมทุนของโรงเรียนโดย $ 300,000,000 เธอไม่ต้องการที่จะตัดอะไรที่มีจะทำอย่างไรกับนักเรียนที่ขาดหายไปจากการศึกษา มันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะให้การศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา การแก้ปัญหาที่เธอได้มาด้วยจะเป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอาชีพของเธอขึ้นและรวมถึงเธอในฐานะนายกรัฐมนตรี (หลุม 35) การตัดสินใจที่เธอทำก็คือการกำจัดนมฟรีจากเกรดที่ต่ำกว่า นมฟรีได้ถูกตัดออกจากนักเรียนเก่าของแรงงานตัดรัฐบาลก่อนหน้านี้ เธอบอกว่า "ฉันเอามุมมองที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความสามารถที่จะจ่ายเงินสำหรับนมสำหรับเด็กของพวกเขาและว่างานของรัฐบาลที่จะให้สิ่งต่างๆในด้านการศึกษาที่พวกเขาไม่สามารถจ่ายเงินสำหรับเช่นโรงเรียนประถมศึกษาใหม่". "นาง . แทตเชอร์, ร่านนม "ถูกกรีดร้องที่เธอ (รู 36)
เมื่อมาร์กาเร็ตแทตเชอกลายเป็นนายกรัฐมนตรีสิ่งแรกที่เธออยากจะทำก็คืออำนาจสหภาพขีด จำกัด เธอรู้สึกว่าอำนาจสหภาพแรงงานที่นำไปใช้กับการผูกขาดอุตสาหกรรมของกลางส่งผลให้บริการที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเกินไปในการเสียภาษี เธอชี้ไปที่การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ overemployment และเงื่อนไขการจ้างงานที่เข้มงวดเช่นสหภาพทุกคน "ปิดร้าน" กฎเหล่านี้ถูกกำหนดโดยสหภาพสัญญาและทำหน้าที่ที่จะผูกมือของผู้จัดการและรัฐบาลเหมือนกัน ข้อข้องใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนางแทตเชอร์ที่เกี่ยวข้องอำนาจผู้นำสหภาพมีกว่านัด (Moskin

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาร์กาเร็ตแธตเชอร์เป็นนายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ Britian . มาร์กาเร็ตเปลี่ยนนโยบายมากมาย และเธอก็ยังปกป้องขออื่น ๆนโยบายของรัฐบาล .
ตัวอย่างนี้คือเมื่อมาร์กาเร็ตแธตเชอร์เป็นเลขานุการของรัฐเพื่อการศึกษาและวิทยาศาสตร์ รัฐบาลได้ตัดงบโรงเรียนโดย $ 300 ล้าน เธอไม่ได้อยากตัดอะไรที่ต้องทำกับนักเรียนที่ขาดหายไปจากการศึกษามันคือหน้าที่เพื่อให้การศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา โซลูชั่นที่เธอมาด้วย จะเป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวมากที่สุดในอาชีพของเธอรวมถึงเป็นท่านเสนาบดี ( ช่อง 3 ) การตัดสินใจที่เธอทำคือกำจัดนมฟรีจากเกรดต่ำ นมฟรีได้ถูกตัดออกจากนักศึกษารุ่นพี่ของแรงงานรัฐบาลก่อนตัดเธอกล่าวว่า " ฉันดูที่พ่อแม่ส่วนใหญ่จะสามารถจ่ายสำหรับนมสำหรับเด็กของพวกเขา และงานของรัฐบาลเพื่อให้สิ่งต่าง ๆในการศึกษาที่พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่า ชอบโรงเรียนใหม่ " แทตเชอร์ นม snatcher " มันตะโกนใส่เธอ ( 36 หลุม )
เมื่อมาร์กาเร็ต แทตเชอร์เป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งแรกที่เธอต้องทำคือ จำกัด ร่วมพลังเธอรู้สึกว่าสหภาพไฟฟ้าใช้เป็นของกลางอุตสาหกรรมผูกขาดให้บริการไม่ดีที่มากเกินไปค่าใช้จ่ายให้กับผู้เสียภาษี เธอชี้ไปปฏิบัติงานไม่ได้ผล overemployment และเงื่อนไขการจ้างงานที่เข้มงวด เช่น ทุก Union " ปิดร้าน " กฎเหล่านี้ถูกกำหนดโดยสัญญาสหภาพ และบริการเพื่อมัดมือของผู้จัดการและรัฐบาลเหมือนกัน คุณนายความคับข้องใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แทตเชอร์เป็นกังวลอำนาจผู้นำได้มากกว่านัด ( moskin สหภาพ