• The first form sorts the elements

• The first form sorts the elements in the range [beg,end) with operator

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

•แบบแรกเรียงลำดับองค์ประกอบในช่วง [beg,end) กับตัว <, ดังนั้น ช่วง [beg,sortEnd)
ประกอบด้วยองค์ประกอบในการเรียงลำดับใบสั่ง
•แบบสององค์ประกอบเรียงลำดับ โดยใช้เพรดิเคตไบนารี
op (elem1, elem2)
เป็นเงื่อนไขการเรียงลำดับ ดังนั้นช่วง [beg,sortEnd) ประกอบด้วยองค์ประกอบในการเรียงลำดับใบสั่ง
•หมายเหตุ op ที่มีการกำหนดเข้มงวดอ่อนสั่งซื้อค่า (ดูหัวข้อ 7.7, หน้า 314 สำหรับ
รายละเอียด) .
•หมายเหตุ op ที่ควรเปลี่ยนสถานะในระหว่างการเรียกฟังก์ชัน ดูส่วน 10.1.4 หน้า 483
รายละเอียด
•แตกต่างจาก sort(), partial_sort() เรียงลำดับองค์ประกอบทั้งหมด แต่หยุดเรียงลำดับครั้งแรก
องค์ถึง sortEnd จะถูกเรียงลำดับอย่างถูกต้อง ดังนั้น ถ้า หลังจากเรียงลำดับ คุณจำเป็นเฉพาะ
ครั้งแรกสามองค์ อัลกอริทึมนี้ช่วยประหยัดเวลาเนื่องจากไม่เรียงลำดับองค์ประกอบเหลือ
โดยไม่จำเป็น.
•ถ้า sortEnd มีค่าเท่ากับสิ้นสุด partial_sort() เรียงลำดับทั้งหมด มีประสิทธิภาพแย่
กว่า sort() ประสิทธิภาพเฉลี่ย แต่ดีกว่าในกรณีเลวร้ายที่สุด ดูการสนทนาเกี่ยวกับ
เรียงอัลกอริทึมในส่วน 11.2.2 หน้า 511.
•ความซับซ้อน: ระหว่างเส้น และ n-บันทึก-n (ประมาณ numElems*log(numSortedElems) เปรียบเทียบ) .


โปรแกรมต่อไปนี้สาธิตวิธีการใช้ partial_sort():

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

• The first form sorts the elements in the range [beg,end) with operator <, so range [beg,sortEnd)
contains the elements in sorted order.
• The second form sorts the elements by using the binary predicate
op(elem1,elem2)
as the sorting criterion, so range [beg,sortEnd) contains the elements in sorted order.
• Note that op has to define a strict weak ordering for the values (see Section 7.7, page 314, for
details).
• Note that op should not change its state during a function call. See Section 10.1.4, page 483, for
details.
• Unlike sort(), partial_sort() does not sort all elements but stops the sorting once the first
elements up to sortEnd are sorted correctly. Thus, if, after sorting a sequence, you need only the
first three elements, this algorithm saves time because it does not sort the remaining elements
unnecessarily.
• If sortEnd is equal to end, partial_sort() sorts the full sequence. It has worse performance
than sort() on average but better performance in the worst case. See the discussion about
sorting algorithms in Section 11.2.2, page 511.
• Complexity: between linear and n-log-n (approximately numElems*log(numSortedElems) comparisons).


The following program demonstrates how to use partial_sort():

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- แบบฟอร์มประเภทองค์ประกอบแรกในช่วง [ ขอร้อง จบ ) กับผู้ประกอบการ < ดังนั้นช่วง [ ขอร้อง sortend )
ประกอบด้วยองค์ประกอบเรียงลําดับ .
- แบบฟอร์มที่สองประเภทองค์ประกอบโดยใช้เลขฐานสอง ( elem1 OP ภาคแสดง
,
elem2 ) เป็นเกณฑ์การเรียงลำดับ ดังนั้นช่วง [ ขอ sortend ) ประกอบด้วยองค์ประกอบเรียงลําดับ .
- ทราบว่า OP มีกำหนดสั่งอ่อนแออย่างเข้มงวดสำหรับค่า ( ดูหมวดที่ 7.7 ,หน้า 314 , สำหรับรายละเอียด
-
) สังเกตว่า OP ไม่ควรเปลี่ยนสถานะของมันในระหว่างการเรียกใช้ฟังก์ชัน ดูส่วน 10.1.4 หน้า 483 , สำหรับ

- รายละเอียด แตกต่างจาก sort() partial_sort() , ไม่เรียงองค์ประกอบทั้งหมด แต่หยุดการเรียงลำดับเมื่อแรก
องค์ประกอบถึง sortend เรียงไว้อย่างถูกต้อง ดังนั้น ถ้าหลังจากลำดับการเรียงลำดับ คุณเพียงแต่ต้องการ
แรกสามองค์ประกอบวิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลา เพราะมันไม่ได้เรียงองค์ประกอบที่เหลือ

- ถ้าไม่จำเป็น sortend เท่ากับจบ partial_sort() เรียงลําดับเต็ม มันแย่กว่า sort()
ประสิทธิภาพเฉลี่ย แต่ประสิทธิภาพดีขึ้น ในกรณีเลวร้ายที่สุด ดูการอภิปรายเกี่ยวกับ
ขั้นตอนวิธีการเรียงลำดับในส่วน 11.2.2 หน้า 511 .
- ความซับซ้อน :ระหว่างเส้นตรง และ n-log-n ( ประมาณ numelems * บันทึก ( numsortedelems ) เปรียบเทียบ )


โปรแกรมต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้ partial_sort() :